ลูกรัก เจ้าจักสำคัญความนี้เป็นไฉน ? (ตอนที่ ๑๑)
๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๘
มหานรกขุมใหญ่สุดทั้ง ๘ ขุม เราท่านทั้งหลายได้ทำความรู้จักกันไปในเบื้องต้นแล้ว
ครานี้ลูกก็ลองมาทำความรู้จักขุมนรกบริวารของมหานรกขุมแรกนั้นคือ สัญชีวมหานรกกันดูบ้าง ซึ่งมีนรกบริวารรายล้อมอยู่โดยรอบทั้ง ๔ ทิศ อีก ๑๖ ขุม โดยขุมที่นี้ ๓ ชื่อว่า สัญโชตินรก
สัญโชตินรก หมายถึง นรกที่มีลักษณะเป็นเมืองที่มีไฟลุกโชน ซึ่งมีเปลวไฟสูงเสียดฟ้า ทุกย่อมหญ้าในเมืองนี้ไม่มีที่ว่างแม้สักองคุลีบนแผ่นดินที่จะวางเว้นจากเปลวไฟเลย
สัญโชตินรกขุมนี้เป็นที่เกิดที่อยู่ที่ตายของหมู่สัตว์กรรมชั่วหยาบด้วยการเบียดเบียน รุกราน ทำร้าย ด้วยกายหรือด้วยวาจาแก่ท่านผู้มีศีล มีธรรม หรือมีการบำเพ็ญทาน แม้ขณะที่กำลังบำเพ็ญในศีล ธรรม และบริจาคท่านก็ตาม
สัตว์ผู้เบียดเบียนนั้นจักต้องได้รับผลทัณฑกรรมมาเกิดในสัญโชตินรก
แม้สัตว์นรกขุมนี้จักเกิดมาจากผลแห่งทัณฑกรรมด้วยการเบียดเบียน รุกไล่ผู้มีศีล มีธรรม มีทานก็ตามที
แต่เมื่อต้องมารับทัณฑกรรม กลับไม่มีนายนิรยบาลมาขู่บังคับหรือลงโทษ
ถามว่าเป็นเพราะเหตุใดเล่า
อธิบายได้ว่า ไฟที่เผาไหม้สัตว์นรกขุมนี้ล้วนแต่เกิดมาจากไฟโมหะ ไฟโทสะ ของสัตว์นรกนั้นๆ เป็นผู้จุดขึ้นมาเองจากพฤติกรรมเบียดเบียนรุกราน ทำร้ายทำลาย ที่ตนทำมาแล้วในอดีต ไฟนั้นจึงมาเผาผลาญตนอยู่ในนรกขุมนี้
ถือเป็นไฟที่เกิดมาจากจิตใจและพฤติกรรมของตนเองทั้งนั้น แม้สัตว์นั้นๆ จะทำกรรมชั่วหยาบจนทำให้เกิดเป็นไฟลุกไหม้แผดเผาตนเองในนรกขุมนี้ก็ตามที
แค่ก็ยังมีสัตว์บางตนที่มีเปลวไฟเผาไหม้ตนไม่ร้องแรงมากนัก แต่ก็ต้องดำรงชีวิตอยู่ในนรกขุมนี้อย่างทุรนทุราย เร่าร้อนดุจดังไฟสุ่มขอนจวบจนจักหมดกรรมชั่ว
บางตนก็มีไฟเผาไหม้ตนเองอย่างร้อนแรงจนร่างกายเป็นเถ้าถ่าน แล้วจึงบังเกิดลมชีวะ พัดมาต้องกองเถ้าถ่านนั้นจึงฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาใหม่ แล้วก็ต้องถูกไฟอันร้อนแรงเผาผลาญให้เป็นเถ้าถ่านตายไปช้าๆ อยู่เช่นนี้จนกว่าจะหมดกรรม
เหตุที่เป็นอยู่เช่นนี้ก็ขึ้นอยู่กับขณะที่ทำชั่วผิดบาป ทำด้วยแรงโมหะ โทสะ มากน้อยแตกต่างกันไป
เวลาต้องมารับโทษทัณฑกรรมจึงได้รับโทษทัณฑกรรมแตกต่างกัน
อย่างที่บอก สัตว์นรกขุมนี้ไม่มีทั้งนายนิรยบาลควบคุม และไม่กำหนดระยะเวลาต้องทัณฑกรรมแน่นอน ด้วยเพราะโทษทัณฑกรรมนั้นๆ ล้วนเป็นไปตามลักษณะความรุ่นแรงของโทหะ โทสะ และพฤติกรรมที่ได้กระทำกรรมเอาไว้
อีกทั้งยังขึ้นอยู่กับท่านผู้ที่เคยถูกสัตว์นรกขุมนี้เบียดเบียนนั้นเป็นผู้มีศีล มีธรรม มีทานบริสุทธิ์บริบูรณ์มากน้อยขนาดไหนด้วย
เช่นนี้เวลาในการรับโทษทัณฑกรรมของสัตว์นรกสัญโชติจึงไม่แน่นอน
คาถาที่สามารถดับไฟนรกขุมนี้ได้คือ
การเจริญจิตตภาวนา เมตตาพรหมวิหารอยู่เนืองๆ ต่อเนื่อง
เจริญวิปัสสนากรรมฐาน พิจารณาให้เห็นสามัญลักษณะ ๓ อย่าง คือ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่มีอยู่จริง
และสุดท้าย เชื่อกรรม เชื่อในกฎของกรรมว่า สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม กรรมย่อมจำแนกสัตว์ให้ดี ชั่ว เลว หยาบ พิจารณาอยู่เช่นนี้ ภาวนาอยู่ดังนี้ จนเกิดปัญญารู้เห็นตามความเป็นจริง จนสามารถละเว้นกรรมชั่ว ผิดบาป ทั้งทางใจ กาย และวาจา ของตนได้ จึงจักไม่ต้องมาเกิดอยู่อาศัย มอดไหม้ เวียนว่าย เกิดตายอยู่ในสัญโชตินรก
เจริญธรรม
วันนี้ขอยุติเอาไว้แค่นี้ ตอนนี้ก็ตี ๑ ครึ่งแล้ว เดียวจักไปผัดพะแนงหมู ต้องเสร็จตีสี่ เพื่อให้ผู้กองเม้าส์และทหารกลุ่มทหารจิตอาสา นำไปให้ลูกหลานธรรมอิสระจัดเตรียมตักใส่กล่อง ๒,๐๐๐ กล่อง พร้อมข้าวและทอดมัน ที่พี่น้องชาวสมุทรสาครเขานำมาถวายให้ ๕๐๐ กิโล พร้อมขนมเค้กกล้วยหอมอีก ๒,๐๐๐ ชิ้น
อาหารทุกชนิดต้องจักทำให้แล้วเสร็จก่อน ๘ โมงเช้า เพื่อส่งมอบให้เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังนำไปแจก
วันพรุ่งนี้ยังไม่รู้ว่าจะทำเท่าไหร่
พุทธะอิสระ
——————————————–
อ่านย้อนหลัง : https://www.facebook.com/buddha.isara/posts/pfbid02J2UfSSaL7ERcJts7thahJNZTgaYv4HVp377yHtkG4v9pJa9E6MsM2D6PVtPpq1HBl
——————————————–
My dearest children, what do you think of this message? (Part 11)
October 29, 2025
Buddha Isara
——————————————–
Previous article : https://www.facebook.com/buddha.isara/posts/pfbid02J2UfSSaL7ERcJts7thahJNZTgaYv4HVp377yHtkG4v9pJa9E6MsM2D6PVtPpq1HBl





