ทานเช่นไร ชื่อว่าได้ชัยชนะ
๒๓ กันยายน ๒๕๖๗
ผลของทานย่อมทำให้เกิดความอิ่มใจไม่ว่าสิ่งของที่ทำทานนั้นเป็นอะไร ยิ่งทำทานแก่ท่านผู้เป็นเนื้อนาบุญ อันมีศีล มีธรรม มีทาน มีสติ มีสมาธิ มีปัญญาด้วยแล้วยิ่งได้รับอานิสงส์มาก
เมื่อตั้งจิตอธิษฐานขอให้ได้ในสิ่งที่มุ่งหวัง ย่อมปรารถนาดังที่่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสถึงอานิสงส์ของทานในกินททสูตรไว้ดังนี้
ครั้งหนึ่งเทวดามาทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า
“บุคคลให้สิ่งใดชื่อว่าให้กำลัง ให้อะไรชื่อว่าให้วรรณะ ให้อะไรชื่อว่าให้ความสุข ให้อะไรชื่อว่าให้จักษุ บุคคลเช่นไรชื่อว่าให้ครบทุกสิ่งทุกอย่าง”
องค์พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า
ผู้ให้อาหาร ชื่อว่าให้กำลัง
ผู้ให้ผ้า ชื่อว่าให้วรรณะ
ผู้ให้ยานพาหนะ ชื่อว่าให้ความสุข
ผู้ให้ประทีปโคมไฟ ชื่อว่าให้จักษ
ผู้ให้ที่พักอาศัย ชื่อว่าให้ทุกสิ่งทุกอย่าง
“ผู้ให้ธรรมทาน ชื่อว่าให้อมฤตธรรม” ผู้ให้ธรรมะเป็นทานได้ชื่อว่าชนะการให้ทั้งปวง เหตุเพราะว่าเมื่อบุคคลได้ฟังธรรม ย่อมทำให้เกิดความ ศรัทธาเลื่อมใส รู้จักว่าสิ่งใดเป็นบาป สิ่งใดเป็นบุญ บุคคลจะละบาปได้ก็เพราะได้ฟังธรรมจะทำบุญถวายทานได้ก็เพราะได้ฟังธรรมถ้าไม่ได้ฟังธรรมก็จะไม่มีศรัทธาเมื่อไม่มีศรัทธาก็กลายเป็นมิจฉาทิฏฐิแม้สิ่งของสักเล็กน้อยเพียงข้าวทัพพีหนึ่งก็มิอาจจะให้ได้จะรักษาศีล 5 ศีล 8 ศีล 10 ศีล 227 หรือจะเจริญภาวนาไหว้พระสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัยล้วนทำไม่ได้ทั้งสิ้นแต่จะทำได้ก็เพราะว่าได้ฟังธรรมเพราะฟังแล้วรู้จักบุญบาปว่าทำอย่างนี้จะได้บุญมากทำอย่างนี้จะได้มนุษย์สมบัติได้ทิพยสมบัติได้นิพพานสมบัติฉะนั้นการให้ธรรมทานจึงชื่อว่าชนะการให้ทั้งปวง
จบเอาไว้แค่นี้ก่อนนะจ๊ะ
พุทธะอิสระ
——————————————–
ลิงค์จาก : https://www.facebook.com/photo/?fbid=905720324753571&set=a.107732901218988