ตั้งแต่มีสมเด็จพระสังฆราชอ
งค์ใหม่ มี ผอ.สำนักพุทธคนใหม่ ดูว่าเจ้าหน้าที่บ้านเมืองจ
ะได้รับความร่วมมือจากเจ้าค
ณะปกครองสงฆ์กันมากขึ้น
ทั้งที่จริงๆ แล้วอธิกรณ์หรือปัญหาที่เกิดขึ้นโดยพระภิกษุผู้ก่อ จักต้องเป็นหน้าที่ของเจ้าคณะปกครอง ต้องเข้ามาระงับปัญหาตามหลักพระธรรมวินัยและกฎหมายปกครองคณะสงฆ์แต่ที่ผ่านมาสังคมไทยแทบจะไ
ม่เห็นบทบาทใดๆ ที่เจ้าคณะปกครองและมหาเถรแ
สดงความรับผิดชอบ เข้ามาแก้ปัญหาที่เกิดจากผู
้ใต้ปกครองของตนเลยทุกครั้งที่เกิดปัญหา ส่วนใหญ่จะถูกระงับด้วยชาวบ
้าน หรือไม่ก็เจ้าหน้าที่บ้านเม
ือง เป็นผู้เข้ามาแก้ปัญหา เช่นกรณีลัทธิกบฏผีบุญที่กำ
ลังเกิดอยู่นี้เป็นต้นแม้จะดูว่าออกมาทำหน้าที่ช้
าไปหน่อย แต่ก็ยังดีกว่าคอยแต่จะนั่ง
รับเงินเดือนแล้วไม่ทำหน้าท
ี่
วันนี้สังคมจึงเห็นเจ้าคณะจังหวัดใช้อำนาจทางการปกครองออกคำสั่งให้สาวกลัทธิกบฏผีบุญต้องปฏิบัติใน ๔ ประเด็นดังนี้
๑. ขอให้พระสงฆ์ของวัดธรรมกายที่ออกมาปฏิบัติศาสนกิจภายนอกกลับเข้าวัด
๒. ขอให้พระที่ไม่ได้สังกัดธรรมกายกลับวัดต้นสังกัด
๓. ขอทราบจำนวนพระ เณรในสังกัดของวัดพระธรรมกาย เพื่อจะได้จัดภัตตาหารให้เหมาะสมกับความต้องการ
๔. ในการเจรจากับเจ้าหน้าที่ไม่ว่าฝ่ายใด ขอให้มีพระวินยาธิการและเจ้าคณะอำเภอร่วมดำเนินการด้วย
พร้อมทั้งสำทับด้วยว่า สำหรับพระที่ฝ่าฝืนไม่ดำเนินการตามคำสั่งเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีและสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตามความในประมวลกฎหมายอาญา
จะมีความผิดตามกฎหมายที่กำหนดไว้ใน พรบ.คณะสงฆ์ แก้ไขเพิ่ม พ.ศ. ๒๕๓๕ มาตรา ๒๙ ความว่า
“พระภิกษุรูปใดถูกจับโดยต้องหาว่ากระทำความผิดอาญา เมื่อพนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการไม่เห็นสมควรให้ปล่อยชั่วคราวและเจ้าอาวาสแห่งวัดที่พระภิกษุรูปนั้นสังกัดไม่รับมอบตัวไว้ควบคุม หรือพนักงานสอบสวนไม่เห็นสมควรให้เจ้าอาวาสรับตัวไปควบคุม หรือพระภิกษุรูปนั้นมิได้สังกัดในวัดใดวัดหนึ่ง ให้พนักงานสอบสวนมีอำนาจจัดดำเนินการให้พระภิกษุรูปนั้นสละสมณเพศเสียได้”
การที่พุทธะอิสระนำเอารายละเอียดในเนื้อหาของมาตรา ๒๙ มาลงให้อ่าน ก็เพื่อให้เจ้าหน้าที่จะได้ทำงานได้ง่ายขึ้น
พุทธะอิสระ