ประวัตินางวิสาขาอุบาสิกา (ตอนที่ ๑๒)
๑๕ มกราคม ๒๕๖๗
ความเดิมตอนที่แล้วจบลงตรงที่ นางวิสาขามหาอุบาสิกา สำเร็จสมความปรารถนา ๕ ประการ ดังที่นางได้ตั้งใจไว้ จึงได้ผูกเป็นคาถาร้องเป็นบทเพลงออกมา
ขณะที่นางเดินวนทำประทักษิณรอบพระวิหารที่นางสร้างถวายแด่พระบรมศาสดาและหมู่สงฆ์ จนหมู่สงฆ์ทั้งหลายถึงกับปริภาษออกต่อนางไปว่า
“นางวิสาขาได้ถึงกาลวิปริตไปเสียแล้วหรือ”
สงฆ์ทั้งหลายจึงนำเรื่องไปกราบทูลองค์พระผู้มีพระภาคเจ้า จนพระพุทธองค์ทรงตรัสอธิบายว่า ลูกสาวของเราที่ขับร้องบทเพลงด้วยเพราะความปรารถนาของนางที่ได้ตั้งเอาไว้แต่ในอดีต บัดนี้ได้เต็มเปี่ยมสมบูรณ์แล้วต่างหากเหล่า
แล้วจึงทรงยกเรื่องที่มีมาแล้วในอดีตของนางวิสาขามาเล่าให้แก่ภิกษุได้ฟังดังนี้ คือ
ภิกษุทั้งหลาย ในที่สุดนับถอยหลังจากนี้ไปแสนกัป พระพุทธเจ้าทรงพระนามว่าปทุมุตตระ ทรงอุบัติขึ้นแล้วในโลก พระองค์ได้มีพระชนมายุแสนปี มีภิกษุขีณาสพแสนหนึ่งเป็นบริวาร ทรงเสด็จประทับอยู่นครชื่อหังสวดี พระชนกเป็นพระราชา นามว่า สุนันทะ พระชนนีเป็นพระเทวี นามว่า สุชาดา อุบาสิกาผู้เป็นยอดอุปัฏฐยิกาของพระศาสดาองค์นั้นทูลขอพร ๘ ประการแล้ว ตั้งอยู่ในฐานะดังมารดา บำรุงพระศาสดาด้วยปัจจัย ๔ ย่อมไปสู่ที่บำรุงทั้งเช้าและเย็น หญิงสหายคนหนึ่งของอุบาสิกาผู้นั้น ได้ตามนางไปช่วยนางอุบาสิกานั้นอุปัฏฐากพระบรมศาสดาและหมู่สงฆ์อยู่เป็นนิตย์ หญิงนั้น เห็นอุบาสิกานั้น พูดกับพระศาสดาด้วยความนอบน้อม เคารพ สรรเสริญ ศรัทธายิ่งนัก ทั้งนางยังเป็นที่ไว้วางใจต่อหมู่สงฆ์ สงฆ์ทั้งหลายก็ให้เกียรติ์ต่อนาง
นางหญิงนั้นจึงมาครุ่นคิดว่า อุบาสิกานางที่เธอทำกรรมอะไรมาหนอ จึงได้เป็นอุปัฏฐากของพระคุณเจ้าทั้งหลายอย่างนี้ ?
ดังนี้แล้ว จึงทูลถามพระศาสดาว่า
“พระเจ้าข้า หญิงผู้ได้รับยกย่องเป็นมหาอุบาสิกานางนี้ เป็นอะไรแก่พระองค์?”
พระศาสดา : เป็นเลิศแห่งหญิงผู้อุปัฏฐยิกา.
หญิงนั้นจึงทูลว่า : พระเจ้าเข้า นางมหาอุบาสิกาผู้นี้กระทำกรรมอะไร จึงเป็นเลิศแห่งหญิงผู้อุปัฏฐยิกา?
พระศาสดา : เธอตั้งความปรารถนาไว้ตลอดแสนกัป.
หญิงนั้นจึงทูลว่า : บัดนี้ หม่อมฉันปรารถนาที่จักเป็นเยี่ยงนางแล้วจะได้ไหม พระเจ้าข้า?
พระศาสดา : ก็อาจเป็นไปได้
หญิงนั้นกราบทูลว่า “พระเจ้าข้า ถ้ากระนั้น ขอพระองค์กับภิกษุแสนรูป โปรดรับภิกษาของหม่อมฉันตลอด ๗ วันเถิด. พระศาสดาทรงรับแล้ว หญิงนั้นจึงกล่าวถวายมหาทานจนครบ ๗ วัน ในวันสุดท้ายได้ถวายผ้าสาฏกเพื่อทำจีวรแล้ว ถวายบังคมพระศาสดา หมอบลงแทบบาทมูล ตั้งความปรารถนาว่า
“พระเจ้าข้า ด้วยผลแห่งมหาทานนี้ หม่อมฉันของตั้งความปรารถนาความเป็นใหญ่ในเทวโลกเป็นต้นอย่างไรหนึ่งก็หาไม่ แต่ขอตั้งอยู่ในฐานะดังมารดา เป็นยอดของอุบาสิกาผู้สามารถเพื่อบำรุงด้วยปัจจัย ๔ แก่พระบรมศาสดาและหมู่สงฆ์ทั้งปวง”
พระศาสดา ทรงดำริว่า
“ความปรารถนาของหญิงนี้ จักสำเร็จหรือหนอ?”
ทรงคำนึงถึงอนาคตกาล ตรวจดูตลอดแสนกัปที่จะถึงแล้วจึงตรัสว่า
“ในที่สุดแห่งแสนกัปต่อไปนี้ พระพุทธเจ้าพระนามว่าโคดม จักทรงอุบัติขึ้น ในกาลนั้น เธอจักเป็นอุบาสิกาชื่อว่าวิสาขา จักได้พร ๘ ประการ ในสำนักของพระองค์แล้ว ตั้งอยู่ในฐานะดังมารดาแห่งหมู่สงฆ์ทั้วปวง จักเป็นเลิศแห่งหญิงผู้เป็นอุปัฏฐายิกา ผู้บำรุงด้วยปัจจัย ๔” ด้วยพุทธฎีกาเช่นนี้ทำให้นางบังเกิดปีติ ยินดีดุจดุจดั่ง ทิพยสมบัติได้ปรากฎแก่นางจะพึงได้ในวันพรุ่งนี้ทีเดียว.
กาลต่อมานางได้เพียรพยายามบำเพ็ญบุญรักษาศีล ปฏิบัติธรรมอยู่จนตลอดอายุแล้ว จุติจากอัตภาพนั้น ไปบังเกิดในเทวโลก นางได้ท่องเที่ยวอยู่ในเทวโลกและมนุษยโลกอยู่ตลอดแสนกัป
ในกาลแห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่ากัสสป นางได้เกิดมาเป็นพระธิดา พระนามว่า สังฆทาสี ผู้เป็นพระกนิษฐาของบรรดาพระธิดาทั้ง ๗ องค์ ของพระจ้ากาสีพระนามว่ากิงกิ ยังมิได้แต่งงานไปสู่ตระกูลอื่น ด้วยทรงฝักใฝ่แต่ในเรื่องของบุญกุศลมีทานเป็นต้นพร้อมด้วยเจ้าหญิงทั้ง ๗ พระองค์เหล่านั้นตลอดกาลนาน ต่างฝ่ายต่างนิยมชมชอบทำมหาทานแล้วตั้งความความปรารถนาไว้ต่อเนื่องพระบาทแห่งพระสัมมาสัมมาพุทธเจ้า พระนามว่ากัสสปว่า
“ในอนาคตกาล หม่อมฉันปรารถนาได้พร ๘ ประการ ในสำนักแห่งพระพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่ง หม่อมฉันตั้งความปรารถนาที่จักเป็นประดุจดังมารดาแห่งหมู่สงฆ์ทั้งหลายดำรงอยู่ในฐานะยอดแห่งอุบาสิกาผู้ถวายปัจจัย ๔ เป็นเลิศ
พระศาสดาครั้นทรงแสดงอดีตนิทานจบแล้ว ตรัสว่า
“ภิกษุทั้งหลาย ธิดาของเรามาขานขับเพลง ด้วยความคึกคะนอง สนุกสนานหาไม่ แต่ด้วยเหตุมาจากนางได้สมความปรารถนา ที่นางตั้งอธิฐานมาแต่แสนกัปที่แล้วด้วยประการฉะนี้แล” เมื่อจะทรงแสดงธรรม ตรัสว่า
“ภิกษุทั้งหลาย นายมาลาการผู้ฉลาด เมื่อนำกองดอกไม้ต่าง ๆ ให้เป็นกองโตแล้วจึงคัดสรรดอกไม้ชนิดและสีอันมีประการต่าง ๆ มาร้อยเรียงให้เป็นพวงมาลาอันงดงามได้ฉันใด
จิตของนางวิสาขา ย่อมน้อมไปเพื่อทำกุศล มีประการต่าง ๆ ฉันนั้นเหมือนกัน”
ภายหลังต่อมา พระศาสดาเมื่อทรงสถาปนาเหล่าอุบาสิกาไว้ในตำแหน่งต่าง ๆ จึงทรงสถาปนานางวิสาขามิคารมารดาไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะเป็นเลิศกว่าพวกอุบาสิกาผู้ถวายทาน
จบไว้แค่นี้ก่อนนะจ๊ะ วันหน้าจะมาเล่าสู่กันฟังใหม่
เจริญธรรม
พุทธะอิสระ
——————————————–