บทความ
ตอนคนไทยลำบาก พวกอาจารย์ไปอยู่ไหน
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘
เห็นข่าวกลุ่มอาจารย์คณะสังคมวิทยาและมนุษย์วิทยาร่วมกับคณาจารย์และนักวิชาการอิสระ ทั้งในและนอกประเทศจำนวน ๓๒๓ รายชื่อ
รวมตัวกันไปยื่นหนังสือเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. หยุดข่มขู่คุกคามต่อคณาจารย์ นักศึกษา ที่จัดกิจกรรรมทางการเมืองโดยสุจริต มีเหตุมีผล รวมทั้งให้หยุดสั่งห้ามนักศึกษาและประชาชนจัดกิจกรรมทางการเมือง
เพราะถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพ
โดยให้เหตุผลว่า เนื่องจากหนทางที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข คือเสรีภาพในความเชื่อและการแสดงออก
ผู้สื่อข่าวมีข้อสงสัยว่ากลุ่มคณาจารย์ที่ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อสนับสนุนพรรคการเมือง
แต่คณาจารย์กลุ่มนี้กล่าวว่า เรามีจุดยืนอย่างชัดเจน รัฐบาลไหนออกนโยบายเอื้อประโยชน์แก่สังคมโดยรวมเราก็สนับสนุน
แต่ถ้ารัฐบาลไหนมีนโยบายไม่ถูกต้อง เราก็มีแนวทางที่จะออกมาเคลื่อนไหว และชี้ให้สาธารณะเห็นว่าปัญหาที่เรากำลังเผชิญอยู่คืออะไร
นั่นก็เพื่อแสวงหาทางออกร่วมกัน ไม่ได้สร้างความสับสนวุ่นวาย
แต่เป็นการช่วยกันในการแก้โจทก์ที่เผชิญโดยอาศัยความเห็นจากทุกฝ่ายที่มีส่วนได้ส่วนเสีย
อ่านข้อคิดเห็นเรียกร้องของบรรดาคณาจารย์แล้ว ฉันพอเข้าใจได้ว่า พวกนักคิดนักเขียน ครูบาอาจารย์ มักจะชื่นชอบถวิลหาเสรีภาพและความอิสระในการแสดงออกที่จะทำพูดคิด ที่อยู่ในหลักวิชาการ
แม้เป็นฉัน ถ้ามีใครมาห้ามไม่ให้ทำพูดคิดในหลักของพระธรรมวินัย เช่นกรณีมหาเถรออกกฎบังคับให้ภิกษุทั้งสังฆมณฑลต้องนุ่งห่มผ้าไตรจีวรสีเหลือง
ซึ่งมันผิดหลักของพระธรรมวินัยที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้ภิกษุในธรรมวินัยนี้นุ่งห่มผ้าที่ย้อมด้วยน้ำฝาด คือ ผ้าที่ย้อมด้วยเปลือกไม้ ใบไม้ เนื้อไม้ แก่นไม้ และรากไม้ ซึ่งจะได้สีอะไรสุดแต่ไม้ที่นำมาเป็นวัตถุดิบให้เกิดสี
แต่ทรงห้าม สีคราม สีเหลือง สีแดง สีบานเย็น สีดำ สีแสด สีชมพู หรือสีที่สดใสดูสวยงาม
ถามว่าเรื่องนี้มหาเถรรู้ไหม
ตอบว่า รู้อยู่เต็มอกแต่ไม่ปฏิบัติ แถมยังมีคำสั่งบังคับให้ภิกษุทั้งสังฆมณฑลนุ่งห่มผ้าไตรจีวรเป็นสีเหลือง ที่ได้อิทธิพลมาจากลัทธิธรรมกาย
ตอนที่มีคำสั่งมาใหม่ๆ เกิดความวุ่นวายในหมู่ภิกษุสงฆ์ บ้างก็ยอมรับ บ้างก็แอนตี้ปฏิเสธ ไม่ปฏิบัติตาม เช่นภิกษุสายวัดป่า เป็นต้น
แม้ฉันและวัดอ้อน้อยเองก็ไม่สนใจต่อคำสั่งที่ไร้สาระปัญญาอ่อนของมหาเถรสมาคม ที่สั่งโดยขาดจิตสำนึกรับผิดชอบต่อพระธรรมวินัย
ด้วยเพราะพระธรรมวินัยกำหนดเอาไว้ชัดว่า ภิกษุต้องนุ่งห่มผ้าที่ย้อมด้วยน้ำฝาด จะมากำหนดสีให้สม่ำเสมอสดใสสวยงาม ดังคนที่ตะกรุมตะกละในกามแล้วมาสั่งเพื่อสนองตัณหาตนโดยไม่คิดถึงวิถีแห่งนักบวชที่ต้องเป็นผู้เลี้ยงง่าย อยู่ง่าย มีชีวิตอยู่ต้องไม่เป็นภาระของใคร
แม้ฉันและคณะสงฆ์วัดอ้อน้อยธรรมอิสระไม่เห็นด้วย พวกเราก็ไม่โวยวาย ด้วยเพราะพวกเราเชื่อว่าคำสั่งขององค์พระผู้มีพระภาคเจ้าต้องอยู่เหนือคำสั่งของลิ่วล้ออลัชชี และก็ไม่รู้สึกกดดันอะไร ทำตัวไปตามธรรมชาติธรรมดา มีชีวิตอยู่อย่างปกติ เพราะเห็นแก่พระพุทธศาสนา
ฉันอยากขอร้องบรรดาคณาจารย์ได้โปรดเห็นประโยชน์ชาติประชาชน ประโยชน์แผ่นดินเป็นใหญ่กว่าประโยชน์ของคำว่าเสรีภาพ ความอิสระ ซึ่งทั้งหมดล้วนมาจากประโยชน์ตนเองทั้งนั้น
ขอให้คณาจารย์และนักศึกษาโปรดใจเย็นๆ รอให้ คสช.เขาจัดระเบียบประเทศให้เข้าที่เข้าทาง ถูกต้องตามกฎหมาย ที่รักษาประโยชน์ชาติเป็นใหญ่ซัก ๒-๓ ปี แล้วค่อยมาว่ากันกับเรื่องสิทธิเสรีภาพ ความอิสระ ซึ่งเป็นแค่เรื่องประโยชน์เฉพาะตัว
รวมความว่า ช่วงนี้ เอาประโยชน์ชาติเป็นใหญ่ก่อนได้ไหมอาจารย์
อันที่จริงก็อยากจะถามบรรดาคณาจารย์และนักวิชาการอิสระกลุ่มนี้เหมือนกันว่า
ตอนรัฐบาลนายกปูบริหารน้ำผิดพลาดในปี ๕๔ จนทำให้น้ำท่วมใหญ่ทั้งประเทศ เป็นเหตุให้มีคนเจ็บคนตาย เศรษฐกิจเสียหาย คนไร้ที่อยู่อาศัย พวกอาจารย์กลุ่มนี้ไปอยู่ที่ไหน
ตอนนักการเมืองพรรคเพื่อไทยและลิ่วล้อ ทุจริตยักยอกอมเงินและสิ่งของที่ได้รับบริจาคช่วยแหลือน้ำท่วม อาจารย์มัวแต่เก็บของหนีน้ำอยู่หรือไง
ตอนรัฐบาลนายกปูปล่อยให้มีการทุจริตโครงการบริหารจัดการน้ำ ๓ แสนกว่าล้าน เป็นเหตุให้เกิดน้ำท่วมซ้ำซ้อนในปีต่อมา พวกคุณไม่รู้ไม่เห็นเลยหรืออย่างไร
ตอนรัฐบาลนายกปูดำเนินนโยบายโครงการรับจำนำข้าวทุกเมล็ด ตันละ ๑๕,๐๐๐ บาท จนนำมาซึ่งพ่อค้าหัวใสสมุนนักการเมืองเอาข้าวลาว เขมร พม่า ญวน ที่ราคาเกวียนละไม่ถึง ๑๕,๐๐๐ บาท มาแปลงสัญชาติเป็นข้าวไทย จำนำให้แก่รัฐบาลนายกปูในราคา ๑๕,๐๐๐ บาท นี่เป็นนโยบายที่ดีใช่ไหม
ตอนนายกปูทำโครงการรับจำนำข้าว ปล่อยให้มีการทุจริตกันทุกระดับ จนไม่มีเงินมาจ่ายค่าข้าวให้ชาวนา ทำให้ชาวนาต้องฆ่าตัวตาย บ้านแตกสาแหรกขาด เกษตรกรส่วนใหญ่ของประเทศต้องทุกข์ทรมาน พวกอาจารย์ไม่รู้สึกอะไรเลยหรือ
ช่วงที่ประชาชนออกมาชุมนุมเรียกร้องความถูกต้องยุติธรรม ที่รัฐบาลปูออกกฎหมายนิรโทษสุดซอย ผู้แทนมีมติให้เกิดสภาผัวสภาเมีย นี่ก็เป็นนโยบายที่ถูกต้องใช่ไหม ตอนนั้นพวกคุณได้ออกมาร่วมคัดค้านกับเขาบ้างหรือเปล่า
ช่วงที่มีการชุมนุมของ กปปส. พวกเสื้อแดงลิ่วล้อรัฐบาลนายกปูและพรรคเพื่อไทยใช้อาวุธสงครามมายิงถล่มผู้ชุมนุมทุกเวทีจนมีคนบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับคนยิงได้สารภาพว่าเป็นการ์ดเสื้อแดงทั้งสองคน จนศาลพิพากษาจำคุก ๔๓ ปี
ทำไมพวกคณาจารย์นักวิชาการไม่ออกมาเรียกร้องให้พรรคเพื่อไทยรัฐบาลปูออกมารับผิดชอบกันบ้าง
หรือพวกคุณเห็นว่า ถ้ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งจะโกงจะกินจะฆ่าประชาชน ต้องถูกเสมอ
พุทธะอิสระ
ขอขอบคุณภาพจาก BBCThai