บทความ
ลงพื้นที่ ทำดีเพื่อพ่อกันอีกที ตอนที่ ๑๑
๒๑ ธันวาคม ๒๕๕๘
รถแล่นมาถึง ตำบลกื้ดช้าง เข้ามาจากถนนใหญ่ ไกลมาก ใช้เวลาร่วมชั่วโมงครึ่ง เส้นทางแคบคดเคี้ยวเลี้ยวลัดเลาะไปตามไหล่เขา ด้านล่างก็มีลำน้ำแม่แตงซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากฝั่งพม่า ทำให้นึกย้อนหลังไปเมื่อครั้งอดีตประวัติศาสตร์ชนชาติไทย ที่บรรพบุรุษไทยได้ใช้เส้นทางนี้ ทำการรบพุ่งปกป้องบ้านเมืองกับพม่า
เมืองกื้ดเป็นเมืองโบราณ เข้าใจว่าน่าจะสร้างโดยเจ้าเมืองเชื้อสายลั้วะหรือละว้า ประมาณว่าสร้างรุ่นเดียวกับเมืองเชียงใหม่ เมืองพร้าว เมืองแหง คือประมาณ ๖๐๐-๗๐๐ ปีล่วงมาแล้ว มีการจารึกว่าสร้างในปี พ.ศ. ๒๒๘๒ โดยได้จารึกไว้ในไม้กระดานเป็นอักษรขอม แต่ปัจจุบันได้สูญหายไปแล้ว ในยุคสมัยที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงทำศึกกับพม่าเพื่อขับไล่พม่าออกไปจากแผ่นดินไทยนั้น กองทัพสมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้มาพักทัพในบริเวณตำบลกื้ดช้าง ซึ่งอยู่ติดกับลำน้ำแม่แตง ซึ่งในอดีตการสัญจรจะต้องอาศัยแม่น้ำลำคลอง และทางเดินของน้ำเป็นหลัก ซึ่งมีชัยภูมิอยู่ระหว่างหุบเขาทั้งสองด้าน ตรงกลางเป็นที่ราบกว้าง นับว่าเหมาะสำหรับตั้งทัพพักค้างแรม ด้วยไม่ไกลจากลำน้ำแม่แตงมากนัก
วันพฤหัสบดีที่ ๑๔ แรม ๑๑ ค่ำ เดือน ๕ ทัพของสมเด็จพระนเรศวร ทรงตรากตรำรอนแรมมาตั้งค่ายพักแรม ณ ตำบลเมืองกื้ดแห่งนี้ ทั้งยังทรงปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ์ ตามจารึกที่ปรากฏในแผ่นไม้กระดาน จนลุถึง พ.ศ. ๒๑๔๘ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงยกทัพไปตีเมืองแหน เมื่อยึดเมืองแหนได้ จึงทรงหยุดพักทัพเพื่อสะสมเสบียงคลัง ขณะที่ทรงหยุดทัพอยู่ ณ เมืองแหนนั้น ทรงพระประชวรด้วยโรคหวัด และโรคไข้เลือดออก ถึงเสด็จสวรรคต ณ “เมืองแหน” แขวงเมืองเชียงใหม่ในปี พ.ศ. ๒๑๔๘
ตามตำนานมีการบอกเล่าประกอบหลักฐานว่า หลังจากสมเด็จพระนเรศวรทรงสวรรคต ณ เมืองแหนแล้ว ได้มีการถวายพระเพลิงพระบรมศพ ณ เมืองแหนนั้น
ทั้งยังมีการนำพระอังคารและอัฐิธาตุของสมเด็จพระนเรศวรบรรจุเอาไว้ในพระเจดีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อการนี้
แต่ปัจจุบัน หาได้พบพระเจดีย์นี้ไม่ แม้จารึกใดๆ ก็มิได้มียืนยัน อีกทั้งถ้าจะวิเคราะห์ตามโบราณราชประเพณีที่ปรากฏ ไม่ว่าจะเป็นพระศพของพระมหากษัตริย์พม่ารามัญ ไม่เว้นแม้แต่พระศพของพระมหาอุปราชา เจ้ากรุงหงสาที่ทรงถูกสมเด็จพระนเรศวรทรงใช้ (พ.ศ. ๒๑๓๕) พระแสงของ้าวฟาดฟันจนขาดสะพายแล่นและสิ้นพระชนม์บนคอช้าง ทั้งนี้มหาราชวงศ์พงศาวดารของพม่าบันทึกไว้ว่า ไม่ได้ประชุมเพลิง ณ สมรภูมิแต่นำพระศพวางลงในไม้มะม่วงแล้วใช้สารปรอทเททับรอบร่างเพื่อรักษาพระศพ จากนั้นจึงเดินทัพนำพระศพกลับพม่า เดินทางรอนแรมนานนับเดือน จัดพิธีประชุมเพลิงในเมืองหลวงหงสาวดี
ดังนั้นในยุคสมัยเดียวกัน (พ.ศ. ๒๑๔๘) พระบรมศพของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ก็คงใช้เทคโนโลยีในการรักษาพระบรมศพที่ใกล้เคียงกันและนำพระบรมศพกลับกรุงศรีอยุธยา เพื่อจัดพระราชพิธีทักษิณานุปทานบำเพ็ญกุศลและพิธีพระราชทานเพลิงพระบรมศพอย่างสมพระเกียรติ ท่ามกลางพสกนิกร แม่ทัพนายกอง ข้าราชบริพาร ทูตานุทูต และเจ้าเมืองประเทศราช อีกทั้งจดหมายเหตุสมัยอยุธยา เรื่องรายงานพระเมรุครั้งกรุงเก่า จ.ศ. ๑๐๙๗ บันทึกว่า สมเด็จพระเอกาทศรถ โปรดให้มีการสร้างพระเมรุมาศ สูงเส้นสิบเจ็ดวา (๗๔ เมตร) เพื่อรับพระบรมศพสมเด็จพระนเรศวรมหาราชมายังกรุงศรีอยุธยา พร้อมอัญเชิญพระบรมศพเสด็จลีลาโดยรัถยาราชวัติไปยังพระเมรุมาศด้วยยศบริวารและเครื่องสักการะบูชาหนักหนา ประทับเหนือกฤษฎาธารอันประดับด้วยอภิรุมกลิ้งกลดรจนา แห่ล้อมด้วยพระยาเสนาธิบดีมนตรีมุขทั้งหลาย สมเด็จพระเอกาทศรถอิศวรบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัว ก็เสด็จไปถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง (สมเด็จพระนเรศวรมหาราช) ให้นิมนต์พระสงฆ์สบสังวาสจำนวนหนึ่งหมื่นหนึ่ง (๑๐,๐๐๑ รูป) ถวายพระราชทานเครื่องอัฐบริขารทักษิณาบูชาพระสงฆ์ทั้งปวงเป็นมโหฬาร
แล้วจะมีเจดีย์บรรจุอัฐิของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ณ ดินแดนชายขอบพระราชอาณาเขตในเมืองแหนนี้ได้อย่างไร?
ถ้าจะมีเจดีย์ ก็อาจจะเป็นเจดีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อให้ระลึกถึงเหตุการณ์ที่พระองค์ทรงเสด็จกรีฑาทัพมาจนถึงเมืองแหนแห่งนี้ แล้วทรงพระประชวรจนสิ้นพระชนม์ลง ณ เมืองนี้
เส้นทางตามสายน้ำแม่แตง เป็นเส้นทางเดินทัพและค้าขายในสมัยโบราณ โดยมีหลักฐานทางด้านเอกสารทั้งของไทย พม่าล้านนา รวมทั้งหลักฐานทางด้านโบราณคดี ซึ่งประกอบด้วยโบราณสถาน และโบราณวัตถุตลอดจนประจักษ์พยานบุคคล ผู้อยู่ในเหตุการณ์ หรือเคยใช้เส้นทางสายนี้มาก่อน
จึงเป็นไปไม่ได้ที่ข้าราชบริพาร จักนำพระศพพระมหาราชชาตินักรบ ผู้สยบทั่วสารทิศ มาถวายพระเพลิงในเมืองเล็กๆ มิเป็นการบังควรยิ่ง
สรุปความว่า ลำน้ำแม่แตง เป็นเส้นทางเดินทัพ และเส้นทางสัญจรการค้าขายระหว่างเมืองเท่านั้น หาได้เป็นที่ถวายพระเพลิงพระบรมศพของสมเด็จพระนเรศวรไม่…
พุทธะอิสระ
________________________________________________________________________
ลงพื้นที่ ทำดีเพื่อพ่อกันอีกที ตอนที่ ๑๐
https://www.facebook.com/buddha.isara/posts/10153754464568446