พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมการเรี่ยไร พุทธศักราช ๒๔๘๗ ระบุว่า “การเรี่ยไร” หมายความรวมตลอดถึงการซื้อขาย แลกเปลี่ยน ชดใช้ หรือบริการ ซึ่งมีการแสดงโดยตรงหรือโดยปริยาย ว่ามิใช่เป็นการซื้อขาย แลกเปลี่ยน ชดใช้ หรือบริการธรรมดา แต่เพื่อรวบรวมทรัพย์สินที่ได้มาทั้งหมดหรือบางส่วนไปใช้ในกิจการอย่างใดอย่างหนึ่งนั้นด้วย
ส่วนการขออนุญาตทำการเรี่ยไรในที่สาธารณะ สื่อสิ่งพิมพ์ หรือสื่อโทรทัศน์ จะต้องได้รับอนุญาตจากกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย และจะต้องระบุวัตถุประสงค์ให้ชัดเจน กำหนดวิธีการที่จะทำการเรี่ยไร จำนวนเงินที่ต้องการเรี่ยไร และสถานที่ทำการเรี่ยไร รวมทั้งผู้ที่ได้รับอนุญาตจะไม่สามารถเดินไปขอเรี่ยไรตามหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ นอกเหนือจากที่ขออนุญาตไว้ ตลอดจนกำหนดระยะเวลาเริ่มต้นของการเรี่ยไรและระยะเวลาสิ้นสุดไว้อย่างชัดเจน
ทั้งนี้ ผู้ที่ขออนุญาตจะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า ๑๖ ปีบริบูรณ์ ไม่มีจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ ไม่เป็นโรคติดต่อที่น่ารังเกียจ และไม่เคยต้องโทษฐาน ลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ โจรสลัด กรรโชก ฉ้อโกง ยักยอกทรัพย์ รับของโจร หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายลักษณะ และพ้นโทษมาแล้วยังไม่ครบ ๕ ปี ไม่เป็นบุคคลที่มีความประพฤติหรือหลักฐานไม่น่าไว้ใจ
ผู้ได้รับอนุญาตให้ทําการเรี่ยไรต้องมีใบอนุญาตติดตัวอยู่ในขณะทําการเรี่ยไร และต้องให้เจ้าหน้าที่หรือบุคคลผู้ประสงค์จะเข้าส่วนในการเรี่ยไรตรวจดูเมื่อเจ้าหน้าที่หรือบุคคลนั้นเรียกร้อง และห้ามมิให้ใช้ถ้อยคำหรือวิธีการใดๆ ซึ่งเป็นการบังคับขู่เข็ญผู้ที่ถูกเรี่ยไรโดยตรงหรือโดยปริยาย หรือซึ่งจะทำให้ผู้ถูกเรี่ยไรเกิดความหวาดหวั่นหรือเกรงกลัว หากฝ่าฝืน มีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกิน ๑,๐๐๐ บาท หรือจำคุกไม่เกิน ๑ ปี
ขณะเดียวกัน การขอรับบริจาคนั้น หากมีการหลอกลวงหรือมีเจตนาในการฉ้อโกง หรือฉ้อโกงประชาชน ก็จะมีความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๑ หรือมาตรา ๓๔๓ แล้วแต่กรณี รวมไปถึงมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา ๑๔(๑) มีโทษจำคุกไม่เกิน ๕ ปี ปรับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท และอาจจะถูกตรวจสอบทรัพย์สิน เนื่องจากความผิดข้อหาฉ้อโกงประชาชนนั้น เป็นความผิดมูลฐาน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน อีกด้วย
ระวังจะติดคุกนะจ๊ะ หากเรี่ยไรแล้วไม่ได้รับอนุญาต
“คณะปฏิสังขรณ์การพระศาสนาใหม่เป็นการรื้อฟื้นคณะปฏิสังขรณ์การพระศาสนาในปี ๒๔๗๗ เพื่อปฏิรูป พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ให้สอดคล้องกับระบอบประชาธิปไตย ยกเลิกการรวมศูนย์อำนาจรัฐ
คืนสิทธิพลเมืองให้แก่พระสงฆ์ เปิดกว้างในการตีความคำสอนทางพุทธศาสนา”
จะเอาเงินชาวบ้านมาสนองตัณหาของตนหรอ
นักบวชสมัยนี้ ไม่ต้องสนใจพระธรรมวินัยกันแล้ว เอาแต่ประชาธิปไตย
ไม่เว้นแม้แต่พระธรรมวินัย ที่องค์พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประกาศ ก็จะมาถูกกลุ่มภิกษุสันดานกา หยิบมาย่ำยีตีความตามใจ
แบบนี้คงต้องช่วยกันบริจาคคุกให้เขาหน่อยแล้วล่ะ
พุทธะอิสระ
๗ พฤษภาคม ๒๕๖๔
————————————————–
Luang Pi, have you already got permission for raising funds?
Venerable Brother (polite way to address an elder monk)
May 7, 2021
Fundraising Control Act B.E. 2487 states that “fundraising” includes buying or selling, exchanging, compensation or providing services by directly or indirectly demonstrating that such transactions are not normal buying or selling, exchange, compensation or service provision, because it aims to collect the whole or part of the funds for a particular charitable purpose.
Asking for permit to raise funds in a public place, via publication or television must be granted by Department of Provincial Administration, Ministry of Interior. Objectives, methods, total amount, place to raise funds must be clearly specified. Those who have got permission cannot raise funds in villages or public places, other than specified. Starting and ending periods of fund raising must be clearly stated.
People who ask for permission to raise funds must be at least 16 years old. They must not be subject to mental infirmity or mental incapacitation. They must not have a contagious disease. They must have not been convicted of larceny (theft),
armed robbery, aggravated robbery, piracy, extortion, fraud, embezzlement,
receiving stolen property or corruption according to the criminal law. People cannot raise funds for five years from the date of their conviction. They must not show unsuitable or unreliable behavior for this role.
People qualified to raise funds must publicly display their licenses while fundraising and must allow an official to examine the fundraising activity or the license. Fundraising is not permitted, if the fundraiser forces other people to donate or causes any fear or apprehension to other people. If a license holder does not comply with the rules, he or she is subject to a fine not over 1,000 Baht or imprisonment not over one year.
While raising funds, if one dishonestly deceives a person with the assertion of a falsehood or the concealment of the facts which should be revealed, that fund raising violates Section 341 or Section 343 of the Criminal Code, as well as may violate Computer-related Crime Act, Section 14(1) which is subject to imprisonment not over five year or a fine not over 100,000 Baht. And wrongdoer’s property may be investigated because deceiving public also violates Anti-Money Laundering Act.
Be careful. You may go to jail if you raise funds without permission.
A group of monks calling themselves “the Religious Restoration Movement in 1934 which has requested for reform of the Sangha Act to be in line with democracy, abolish of power-centric government, return civil rights to monks, and broaden Buddhist teaching interpretation.”
Will they use laymen’s money to satisfy their own desires?
Priests nowadays do not pay attention to the code of monastic rules. They only care about democracy.
Even the code monastic rules announced by Lord Buddha has been overrun and interpreted at will by shameless monks.
As such, we should help donate them imprisonment.
Buddha Isara