ความจริงคือสิ่งไม่ตาย คนที่ควรตายคือคนที่พูดไม่จริง
๒๑ มิถุนายน ๒๕๕๙
เมื่อวานกลับมาจากการไปร้องขอให้สมเด็จหนกลางแห่งวัดพิชัยญาติ โปรดมีคำสั่งทางการปกครอง สั่งการให้ธัมมชโยออกมามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ แล้วออกมาให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว
กว่าจะเรียบร้อยก็เพลพอดี เลยต้องฉันเพลบนรถ อีหมูอ้วนประคองซื้อผัดไทยมาถวาย ตามด้วยไอ้หมูกับเมียซื้อผัดซีอิ๊วและขนมมาถวาย
เจ้าวารินรายงานว่ามีญาติโยมนำเอาบ๊ะจ่างมาถวาย ฉันจึงสั่งให้เจ้าวารินโทรไปทวงถามดาบแจ้ว่าของที่ถวายหลอยอีกแล้วหรือ
ได้ยินเสียงเจ้าแจ้พูดว่า ไม่ได้หลอย แต่ยังไม่มีโอกาสถวายเลยเก็บเอาไว้ก่อน
ฉันจึงถามว่าแล้วบ๊ะจ่างอร่อยไหม
เจ้าแจ้บอกว่าผมยังไม่ได้กินเลย เลยไม่รู้ว่าอร่อยไหม
ฉันจึงสั่งเจ้าวารินว่าให้เอามาถวายด้วย อย่าอมของถวายถ้าไม่อยากเป็นเปรต
รวมความมื้อเพลที่ผ่านมาต้องฉันอาหารบนรถ
พอกลับถึงวัดจึงฉันยาแล้วเดินรอบกุฏิ ๓ รอบแล้วพัก
บ่ายๆ ลุกขึ้นมาเขียนหนังสือเสร็จแล้วเจ้าแป๊ะโปรดิวเซอร์เข้ามาอัดคลิปลงเฟส เสร็จแล้วจึงปั้นพระพุทธรูปพิชิตมาร
ตั้งใจว่าจะปั้นให้เสร็จก่อนวันเกิดแม่ คือวันที่ ๑๐ สิงหาคม เพื่อมอบเป็นของขวัญให้แก่แม่
ส่วนดาบแจ้ก็ตั้งหน้าตั้งตาคอยดูแลความปลอดภัยให้ฉันอย่างขะมักขะเม้น
๕ โมงเศษๆ จึงออกเดินตรวจงาน ถือโอกาสออกกำลังกายไปในตัว เดินไปดูไร่ข้าวโพดช่วยชาติ เห็นคนงานกำลังเก็บข้าวโพดปลอดสารไปส่งทีโอที ๒ พันกว่าดอก ฉันจึงสั่งเจ้าแจ้ว่า
ไอ้แจ้พรุ่งนี้เราจะต้องออกจากวัดตั้งแต่ตีห้า มึงไปเก็บข้าวโพดไปต้ม พรุ่งนี้เช้าจะได้เอาไปเป็นเสบียงบนรถในขณะเดินทาง เก็บไปเผื่อพวกนักข่าวและคณะติดตามด้วย อ้อ ไอ้แจ้ กูคิดได้แล้วว่ะ
พรุ่งนี้มีพวกบรรดาแม่ยกของพวกมึงเขาไปด้วยไหม
เจ้าแจ้บอกว่าไปครับ
ฉันจึงสั่งว่า ถ้างั้นก็เก็บไปต้มเผื่อพวกมันด้วย หากขายได้ก็ขาย แจกได้ก็แจก ไม่ขายไม่แจกแล้วแต่ทำบุญก็ว่ากันเอาเอง
เจ้าแจ้หันมามองหน้าฉันแล้วทำหน้างงๆ พร้อมพูดว่า ให้ผมใส่สูทหิ้วข้าวโพดไปขายในศาลนี่น่ะ
ผมว่าให้ลูกพี่หมวดกุดแถลงจะเข้าท่ากว่านะครับ
ฉันมองหน้ามันแล้วจึงพูดว่า ต่อรอง ลีลา ยักท่า เอาเป็นว่ามึงทำตามกูสั่งก็แล้วกัน ไม่เช่นนั้นอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพกระเป๋าสตางค์
มึงรู้ไหมว่าเงินค่าข้าวโพดพรุ่งนี้คือความอยู่รอดของพวกมึงในวันพรุ่งนี้ทีเดียวนะมึง
เจ้าแจ้จึงยอมเดินไปเก็บข้าวโพดเอาไปส่งโรงครัวเพื่อต้มใส่ถุงมาศาลในวันนี้
ตี ๕ เศษๆ ฉันออกเดินทางจากวัดเพื่อมาศาลอาญาที่รัชดา เพราะกลัวรถจะติด และแล้วมันก็ติดจริงๆ มันติดตั้งแต่ก่อนเข้าแจ้งวัฒนะจนถึงรัชดา แถมหน้าศาลยังมีน้ำท่วมอีก
๕ ชั่วโมงกว่าจะถึงศาลแถมต้องลงรถเดินข้ามสะพานลอยเข้าศาล เพราะถ้าขืนนั่งรถจนถึงศาลคงจะเที่ยงพอดี
ขณะที่นั่งทรมานอยู่บนรถ เจ้าแจ้โทรมาถามเจ้าวารินว่าถึงไหนแล้ว รถติดมาก ผมยังอยู่แถวหลักสี่อยู่เลย จส.ร้อยเข้าไปรายงานว่าน้ำท่วมรถติดมาก คงต้องวนกลับ
ฉันจึงตะโกนบอกกลับไปว่า หากพวกมึงกลับอาจมีผลกระทบต่อเงินเดือนๆ นี้ กูอาจรอให้บ้านเมืองมีประชาธิปไตยก่อนจึงจะอนุมัติจ่ายเงิน เคไหม
เจ้าแจ้เลยเสนอไอเดียว่าเอาข้าวโพดที่ใส่ถุงอยู่หลังรถนี้ออกมาเดินขายตามถนนรถติดๆ อย่างนี้ คนขับรถคงหิว น่าจะขายดี
จะได้เอาเงินแวะซื้อก๋วยเตี๋ยวข้างทางกินแก้หิวไปก่อน
ฉันจึงตะโกนบอกไปว่า อนุมัติตามนั้น มึงใส่สูทหิ้วถุงข้าวโพดลงไปเดินขายข้างทางได้เลย
วันนี้เป็นอีกวันที่ผู้เดินทางต้องทนทุกข์ทรมานอยู่บนถนน รวมทั้งฉันด้วย ตั้งแต่ตีห้าเศษจนถึง ๙ โมงเช้า ยังไม่ถึงศาลอาญาเลย
พอมาถึงศาลก็รีบเข้าห้องน้ำอย่างเร็วเพื่อขึ้นไปเข้าห้องพิจารณาคดี
วันนี้ศาลท่านนัดฉันมาในฐานะผู้โจทก์ ผู้ยื่นฟ้อง
มหาโชว์ ทัสสนีโย ที่ปรึกษาสมาคมนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนา (สนพ.) ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมพระพุทธศาสนาและบริการสังคม มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) ผู้สนับสนุนเสื้อแดง
และผศ.ดร.เสถียร วิพรมหา นายกสมาคมนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนา (สนพ.) อาจารย์ประจำภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา สาขาวิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) แกนนำเสื้อแดงรุ่นที่ ๒
ในกรณีแจ้งความกล่าวหาฉันว่าดูหมิ่นพระสังฆราชและใส่ร้ายคณะสงฆ์
และกล่าวหาว่าฉันกรรโชกทรัพย์ที่โรมแรมเอสซีปาร์ค รวมทั้งโจทก์ฉันด้วยอาบัติปาราชิก
ฉันจึงให้ทนายรวบรวมหลักฐานนำเรื่องฟ้องร้องต่อศาลเพื่อพิสูจน์ความจริง หากหลักฐานชี้ชัดว่าพุทธะอิสระผิดจริง ก็ยินดีน้อมรับคำพิพากษา แต่ถ้าหากไม่ผิด ผู้ที่แจ้งความเท็จและดูหมิ่นจะต้องได้รับโทษทั้งทางแพ่งและอาญาตามคำพิพากษาของศาล เพราะเชื่อมั่นในสัจธรรมและเป็นหน้าที่ของลูกไทยหลานไทยทุกคนที่จะต้องปฏิบัติตามขบวนการยุติธรรมของไทย
พุทธะอิสระ