ท่านไม่กลัวว่าหมู่สงฆ์จะแตกแยกหรือ

0
79

ท่านไม่กลัวว่าหมู่สงฆ์จะแตกแยกหรือ
๘ มิถุนายน ๒๕๕๙

080659-บทความ-ท่านไม่กลัวว่าหมู่สงฆ์จะแตกแยกหรือนี่คือคำถามของนายชยพล รองผอ.สำนักพุทธ เมื่อครั้งมาพบฉันที่วัดก่อนจะเดินทางกลับ

ท่านไม่กลัวหรือ พวกธรรมกายมีทั้งเงิน ทั้งพวกพ้องและบริวารไปทั่วโลก

เหล่านี้คือคำถามและข้อกังวลของเจ้าคณะปกครองบางรูปที่ถามฉันด้วยความกังวล

พุทธะอิสระตอบพวกเขาไปว่า ต่อให้ประเทศนี้กลายเป็นประเทศธรรมกายกันทั้งประเทศ ผมก็จะสู้

เพราะผมรู้ว่าสิ่งที่ผมต่อสู้ด้วยนั้น คือลัทธิกินรวบประเทศไทย กินรวบศาสนา และย่ำยีพระธรรมวินัย

หากวันนี้ผมไม่ออกมาสู้

ผมก็ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าลูกไทยหลานไทยยังจะรู้จักชาติไทยและพระธรรมวินัยที่บริสุทธิ์บริบูรณ์อีกหรือไม่

โคตรเง้าบรรพบุรุษผมเป็นคนไทย มีเลือดเนื้อของชนชาติเชื้อไทย

หากผมจะนั่งรอให้เผ่าพันธุ์ลัทธิกินรวบประเทศไทย กินรวบพระธรรมวินัย

ทำอะไรตามอำเภอใจ โดยไม่สนต่อหลักนิติรัฐนิติธรรม ไม่สนใจพระธรรมวินัย

แล้วผมยังจะเป็นลูกไทยหลานไทย คนไทย พระไทยอยู่อีกกระนั้นหรือ

ท่านเจ้าคุณพูดต่อว่า ท่านเป็นพระท่านจะไปยุ่งอะไรกับเขา

ก็เพราะทุกคนพูดอย่างนี้แหละพระเดชพระคุณ

และนักบวชทุกคนพูดอย่างนี้แหละ

ลัทธิธรรมกายมันถึงได้แผ่อิทธิพลจนครอบงำสังฆมณฑลและแผ่นดินไทยกันอยู่ทุกวันนี้ไงล่ะครับ

เมื่อ ๑๗ ปีที่แล้ว หากทุกคนไม่ทอดธุระ คิดว่าธุระไม่ใช่

วันนี้จะมีอลัชชีย่ำยีพระธรรมวินัยอยู่อย่างนี้หรือ

หากเมื่อ ๑๗ ปีที่แล้วภิกษุสงฆ์ผู้มีอำนาจหน้าที่ทางการปกครองได้ทำหน้าที่ปกป้องดำรงรักษาพระธรรมวินัยอย่างซื่อตรง

มีรัฐบาลที่ซื่อตรงต่อหลักนิติรัฐ นิติธรรมอย่างแท้จริง

วันนี้เราจะมีคนที่แอบอ้างอาศัยพระธรรมวินัยและธรรมเนียมปฏิบัติของพระพุทธศาสนามาเป็นเครื่องมือหากินได้อยู่เช่นนี้หรือ

และถ้าเมื่อ ๑๗ ปีที่แล้ว ทั้งอาณาจักรและศาสนจักรได้ทำหน้าที่ของตนอย่างซื่อตรง วันนี้พุทธะอิสระจะต้องออกมาต่อสู้เป็นศัตรูกับลัทธิกินรวบประเทศไทยอยู่เช่นนี้หรือ

ท่านเจ้าคุณเจ้าคณะปกครองถามพุทธะอิสระต่อว่า

แล้วท่านไม่ห่วงภาพพจน์ที่ชาวบ้านเขามองท่านดอกหรือ

ผมไม่ได้บวชเข้ามาเพื่อรักษาภาพพจน์

แต่บวชเข้ามาเพื่อปฏิบัติและรักษาพระธรรมวินัย

หากภาพพจน์ผมดี แต่แผ่นดินล่มสลาย พระธรรมวินัยเสียหาย ผมสู้ตายดีกว่า

วันนี้เรามีรัฐบาลที่มุ่งมั่น พยายามจะดำรงรักษาระบบนิติรัฐนิติธรรม

แต่ฝ่ายศาสนจักรกลับละเลย เพิกเฉย ไม่สนใจว่าพระธรรมวินัยจะถูกย่ำยีอย่างไร ไม่สนใจว่ากฎหมายระเบียบวินัยของสังคมว่าอย่างไร แต่พยายามรักษาพวกพ้องเอาไว้แม้มันจะเน่าในอย่างที่เห็นๆ กันอยู่

นี่ตะหากเล่าคือต้นตอของปัญหา

ดังพระสูตรที่ปรากฏในทารุขันธสูตรความว่า

ขณะที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงประทับอยู่ ณ ริมฝั่งแม่น้ำคงคาใกล้กับเมืองกิมมิลา

ทรงเห็นท่อนไม้ใหญ่ลอยมา

ทรงตรัสเรียกให้ภิกษุทั้งหลายได้ดู

พร้อมทรงอธิบายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย หากท่อนไม้ใหญ่นั้นไม่เกยตื้น ณ ริมฝั่งข้างใดข้างหนึ่ง ย่อมไหลลงสู่มหาสมุทรได้ฉันนั้น

ขณะนั้นพระกิมมิละภิกขุ ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า

อะไรชื่อว่าฝั่งนี้ฝั่งโน้นพระเจ้าข้า

ดูก่อนกิมมิละ ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ต้องอาบัติชั่วหยาบ

เป็นผู้เศร้าหมองต้องอาบัติ

แล้วไม่ยอมทำคืนอาบัตินั้น

เช่นนี้ชื่อว่า ภิกษุนั้นติดอยู่กับฝั่งนี้ฝั่งโน้น

เรากล่าวว่าภิกษุนั้นคือ ผู้เน่าใน

พุทธะอิสระ