ขอชี้แจงเรื่องป๊อปคอร์นให้เข้าใจ

0
102

บทความ

ขอชี้แจงเรื่องป๊อปคอร์นให้เข้าใจ

๖ มีนาคม ๒๕๕๙

060359 บทความ ขอชี้แจงเรื่องป๊อปคอร์นให้เข้าใจ

คุณศิริชัย ไม้งาม สมาชิกสภาปฏิรูป โทรมาบอกว่า มีคนจะร่วมสบทบทุนบริจาคเงินช่วยเหลือป๊อปคอร์น ที่ถูกศาลตัดสินจำคุก ๓๗ ปี

ฉันบอกคุณศิริชัย ไปว่า ขอบคุณในน้ำใจของทุกท่าน

ฉันเป็นคนพูดคำไหนคำนั้น

ตอนเริ่มตั้งเวที ฉันได้ประชุมกับแกนนำแต่ละจังหวัดว่า สำหรับเวทีแจ้งวัฒนะ ไม่ว่าจะเกิดผลใดๆ ในการชุมนุม จะแพ้หรือชนะ มีความผิดจนต้องติดคุกติดตะราง และถ้าต้องตาย

ทั้งหมดฉันจะเป็นคนรับเอาไว้แต่เพียงผู้เดียว

เพราะพวกคุณทุกคน มีครอบครัว มีลูก มีเมีย มีภาระที่ต้องดูแลรับผิดชอบ

ส่วนฉันแม้จะมีแม่ที่ต้องดูแล แต่ก็ไม่ห่วงเพราะพระที่วัดอ้อน้อยธรรมอิสระเขาคงช่วยกันดูแลได้

แม้รายจ่ายของเวทีทุกบาททุกสตางค์ ฉันก็จะเป็นผู้รับผิดชอบเอง

พวกแกนนำทั้งหลายทุกจังหวัด ไม่ต้องมาเดือดร้อน หรือเรี่ยไรขอรับบริจาคจากพี่น้องในจังหวัดของตนให้ลำบาก

ฉันไม่อยากตกเป็นขี้ปากชาวบ้าน ด้วยการอ้างเหตุรักชาติ แล้วมาแสวงหาเงิน

แค่พวกคุณมาร่วม พาคนมาช่วย ฉันก็ขอบคุณมากๆ แล้ว

ส่วนค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ของมวลชนพี่น้องที่จะมาร่วม

ฉันจะเป็นผู้รับผิดชอบ จ่ายให้เองทุกจังหวัด

และถ้าเกิดเหตุการณ์หรือคดีความใดๆ ขึ้นฉันก็จะรับผิดชอบเอง โดยไม่ต้องเดือดร้อนพวกคุณ

ขอร้องอย่างเดียวคืออย่าเรี่ยไร อย่าขอเงินจากใครๆ

ฉันไม่อยากให้เวทีของเราถูกมองว่าหางิน

ถ้าจะมีคนเห็นใจ อยากช่วยเหลือ ก็ให้เขามาบริจาคบนเวที

แม้ในขณะชุมนุม ฉันจะให้กองเลขาจัดเงินเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางส่วนตัวของแกนนำแต่ละจังหวัด ครั้งละ ๕๐,๐๐๐-๑๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่งบางเดือนมีกิจกรรมหลายครั้ง ก็ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นอีก

เพื่อต้องการให้พวกเขา มาช่วยฉันสู้อย่างไม่เดือดร้อน

ฉันรู้ว่าพวกเขาไม่ได้ออกมาสู้เพราะต้องการเงิน

แต่ฉันก็จะบอกกับพวกเขาว่า กองทัพต้องเดินด้วยท้อง

หากท้องหิว ร่างกายจะไม่มีแรงออกไปสู้กับใครๆ เขาได้

ขอเพียงพวกคุณทุ่มเทในการต่อสู้และทำตามยุทธวิธีของฉันให้ครบถ้วน ชัยชนะรอเราอยู่ข้างหน้า

นี้คือความจริงอีกมุมหนึ่งที่เกิดขึ้นในเวทีแจ้งวัฒนะ

แม้เลิกเวทีแล้ว การ์ดทุกคน ซึ่งมีอยู่จำนวนร่วม ๒๐๐ คน จะได้รับเงินขวัญถุงคนละ ๒๐,๐๐๐ บาท เพื่อเอาไปเป็นทุนประกอบอาชีพ

บางคนไม่มีที่ไป ฉันก็หางานหาอาชีพให้พวกเขาทำ อยู่กันมาจนถึงทุกวันนี้

คุณๆ ทั้งหลายจะเห็นว่า ฉันมีรายจ่ายมากมายขนาดนี้

ฉันไปเอาเงินมาจากไหน

ตอบง่ายๆ ว่า ยืมเขามา

ยืมลูกหลาน ยืมลูกศิษย์ ยืมบริษัทพฤกชเวช และยืมมาจากแม่

แม้ส่วนหนึ่งจะมีผู้มาบริจาค แต่ไม่เพียงพอต่อรายจ่ายประจำวัน ที่ต้องจ่ายในเวทีวันละไม่ต่ำกว่า ๒ ล้านเศษ

ผู้มาบริจาคในแต่ละวัน ได้เพียง ๔ – ๕ แสนบาท มีแค่ ๒ วันเท่านั้นที่ได้ล้านกว่าบาท

นอกนั้น ตลอดเวลา ๔ เดือน ๙ วัน
ไม่ว่าจะมีปัญหาอย่างไร มีเงินหรือไม่มีเงิน

ฉันไม่เคยปริปาก บ่นให้ แกนนำแต่ละจังหวัดได้รับรู้

เพราะกลัวว่าจะไปเพิ่มภาระให้กับพวกเขา

กลัวว่าเขาจะกังวล หรือไม่ก็ถอดใจ

ฉะนั้น ปัญหาทุกอย่าง แม้การขาดแคลนเงินทอง ฉันก็เป็นผู้รับเอาไว้แต่เพียงผู้เดียว

สุดท้าย ก็ต้องโทรไปหาผู้จัดการบริษัทพฤกชเวช ขอผลิตภัณฑ์ สบู่ ยาสีฟัน และยาสมุนไพร มาขายที่เวที

โดยเงินทุกบาท ทุกสตางค์ ขอยืมเอาไว้เป็นค่าใช้จ่ายของเวที

บริษัทพฤกชเวชก็ดีใจหาย ยินยอมให้ฉันตามที่ขอ เพราะสิ่งที่พวกเราสู้ เป็นการสู้เพื่อรักษาชาติ ศาสนา และปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ พวกเขาจึงไม่ลังเลที่จะให้

บางครั้ง ขายสินค้าในเวทีไม่พอค่าใช้จ่าย

ฉันก็จะให้คนโทรไปหาลูกหลาน ขอยืมเงินจากเขามาแก้ปัญหาค่าใช้จ่ายของเวที แล้วก็ค่อยผ่อนชำระเขา

หนึ่งเดือน ก่อนที่จะเลิกเวที ฉันก็เตรียมวางแผน ให้เกิดเม็ดเงิน โดยไม่ต้องร้องขอใครฟรีๆ ด้วยการสร้างพระรุ่นกูคือผู้ชนะ มาหนึ่งรุ่น เพื่อจำหน่าย หาเงินมาสำรองเป็นค่าใช้จ่าย และจ่ายเป็นเงินขวัญถุงให้แก่บรรดาลูกหลานการ์ด คนช่วยงาน กองเลขา แกนนำ และเป็นค่าธรรมเนียมศาลที่ฟ้องแพ่ง ให้แก่พี่น้องชาวนาอีกร่วม ๒ ล้านกว่าบาท รวมทั้งค่าทนาย

เงินจำหน่ายพระได้มา ๘ ล้านกว่าบาท

ซึ่งต้องใช้จ่ายเป็นค่าคดีความด้วย

แน่นอน มันไม่เพียงพอ ที่จะมาจ่ายเป็นค่าปรับศาลและค่าทนาย ค่าประกันตัวสู้คดี ของการ์ดแต่ละคน

ฉันก็ต้องคิดหาวิธี ทำให้เกิดรายได้เพื่อนำมาแก้ปัญหาให้กับพวกเขา

ด้วยการสร้างชิ้นงานต่างๆ ออกมาวางจำหน่าย กับคนที่มาวัด ไม่เว้นการปลูกพืชผัก เพื่อแลกกับเงินที่เขามาซื้อเอาไปใช้

คุณๆ ทั้งหลาย จะเห็นว่า ฉันไม่เคยขอเรี่ยไรเอาเงินของใครฟรีๆ

ฉันพูดเสมอว่า ฉันไม่ได้อยู่ด้วยการอาศัยศรัทธา

แต่ฉันอยู่ได้ด้วยปัญญา ขอเพียงสองขาฉันเหยียบยืนขึ้นได้ สองมือทำได้ หนึ่งหัวคิดออก ไม่มีเรื่องอะไรที่ฉันจะทำไม่ได้

แม้ปัจจุบันนี้ ฉันก็ยังต้องใช้สติปัญญาเพื่อแก้ปัญหาของลูกหลานที่ช่วยงาน และการ์ดแต่ละคนที่ต้องคดีอย่างต่อเนื่อง

เดี๋ยวลูกเข้าโรงเรียน แม่ตาย ลูกตาย บ้านถูกไล่ที่ ไม่มีเงินประกอบอาชีพ

เรื่องเหล่านี้ ฉันไม่เคยพูด ไม่เคยบอกใคร เพราะไม่รู้ว่าจะบอกไปทำไม

แต่เมื่อมีผู้ด่าว่า กล่าวหา ฉันทอดทิ้ง คนที่เสียสละ ปกป้องฉันและพี่น้อง

เลยจำเป็นต้องพูดต้องบอกว่า ฉันไม่เคยทอดทิ้งใคร ให้ลำบากอยู่ข้างหลัง แล้วฉันเสพสุขเลย

พวกคุณๆ จะรู้หรือไม่ว่า การเป็นแกนนำของเวทีแจ้งวัฒนะนี่มันช่างลำบากทุกยาก ยิ่งกว่าเวทีไหนๆ เป็นร้อยเท่า

นอกจากจะอยู่ห่างไกลผู้คนที่จะเดินทางมาร่วมชุมนุมแล้ว

ยังอยู่ท่ามกลางฝูงหมาป่าที่มักจะแอบมาลอบกัดพวกเราทุกวัน

หรือใครไม่รู้ว่าแจ้งวัฒนะเป็นถิ่นของคนเสื้อแดง เป็นเขตอิทธิพลของนายโกตี๋และนายเก่ง รวมทั้งอีกหลายๆ กลุ่มของพวกเสื้อแดง

เพราะเหตุนี้แหละ เวทีแจ้งวัฒนะ จึงถูกยิงถล่มด้วยเอ็ม ๗๙ ถึง ๑๔ ลูก และโดนลอบโจมตี ยั่วยุ จากพวกแก๊งแดงเทียมอีกนับครั้งไม่ถ้วน

การที่เราพยายามนำพา รักษามวลชนคนเวทีแจ้งวัฒนะ ไม่ให้ได้รับอันตรายนั้น มันสุดจะยากยิ่ง

ทั้งยังต้องคิดกุศโลบาย วางยุทธศาสตร์ สร้างยุทธภูมิ ใช้ยุทธวิธีในการเคลื่อนขบวนในแต่ละครั้ง

เพื่อไม่ให้โดนลอบโจมตีระหว่างทาง จากน้ำมือแดงเทียมที่พวกเขาชอบพูดกัน

เพราะอย่างนี้ ฉันจึงต้องรับผิดชอบทุกชีวิตที่มาอยู่กับฉัน เพราะนี่คือหน้าที่

ฉันจึงไม่มีสิทธิที่จะพูด จะร้องขอความช่วยเหลือ หรือบอกใคร

ด้วยเพราะนี้คือวิถีที่ฉันเลือกเอง

วันนี้ขอระบาย ให้ฟังแค่นี้แหละนะ

เอาไว้โอกาสหน้า ถ้ามีเหตุอะไร ที่ทำให้ฉันต้องพูด

ฉันก็จะนำมาเล่าสู่กันฟังใหม่

พุทธะอิสระ