ระลึกถึงเรื่องเก่าๆ บางทีมันก็สอนเราได้เหมือนกัน

0
122

บทความ

ระลึกถึงเรื่องเก่าๆ บางทีมันก็สอนเราได้เหมือนกัน

๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙

090259 บทความ ระลึกถึงเรื่องเก่าๆ บางทีมันก็สอนเราได้เหมือนกัน

พวกคุณไม่แปลกใจกันเลยหรือไงว่า

 

ทำไมไทยชนะเขมร ชนะญวน ชนะมาลายู ชนะลาว

 

แต่ไทยไม่เคยตีเมืองพม่า มาเป็นเมืองขึ้นได้เลย

 

ทำไมวังและวัดของพม่าในอดีต ถึงได้ไม่มีบ้านคนอยู่อาศัยในรัศมีที่เงาของวังและวัดพาดผ่านเลย

 

ทำไมในอดีต คนพม่าจึงรวมตัวกันได้เป็นปึกแผ่น ทั้งที่มีสารพัดชนเผ่า หลากหลายชาติพันธุ์

 

ทั้งยังสามารถรวบรวมไพร่พล อาสามาเป็นกำลังสำคัญของกองทัพได้อย่างมหาศาล

 

จากที่ฉันเคยได้สัมผัส เรียนรู้ วัฒนธรรมของพม่า จึงทำให้เห็นว่า

 

พม่ามีความมั่นคง ทางศิลปวัฒนธรรม และความเชื่อทางจิตวิญญาณ อย่างเหนียวแน่น ยั่งยืน และให้ความสำคัญในเรื่องขนบธรรมเนียม จารีตประเพณี วัฒนธรรม ศาสนา ความเชื่ออย่างมาก

 

จนกลายเป็นพลังยึดโยง ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนในชาติ

 

อีกทั้ง ผู้นำพม่าในยุคโบราณ ก็ทำตัวให้สอดคล้องกับวัฒนธรรม ความเชื่อวางตัวเป็นทั้งผู้นำ คือ ปกครองทั้งอาณาจักรและศาสนจักร

 

และทำตัวเป็นผู้ตามที่มีความศรัทธาในศาสนา ขนบธรรมเนียม จารีตประเพณีอย่างเคร่งครัด

 

ตัวอย่างเช่น ไม่ใส่รองเท้าเข้าวัด โบสถ์ วิหาร ลานเจดีย์

 

ไม่เหยียบย่ำรอยเท้าหรือรอยตีนของผู้ทรงศีลที่เดินนำอยู่ข้างหน้า

 

หรือแม้แต่เงาของผู้ทรงศีลที่ทอดพาดบนพื้น คนพม่าทั้งหมด แม้แต่พระเจ้าแผ่นดินจะไม่เหยียบย่ำ

 

ไม่เหยียบย่ำแม้แต่เงาของวังและวัด

 

ด้วยความเชื่อเหล่านี้ ที่คนพม่ามีอยู่ในอดีต

 

จึงทำให้พม่ามีขุมกำลังมหาศาล

 

ทั้งยังเทิดทูล ยกย่อง ยอมรับต่อตัวผู้นำ ผู้ทรงคุณธรรม

 

จนกลายเป็นเครื่องยึดโยงผู้คนชนแต่ละเผ่า ให้หล่อหลอมเข้าด้วยกัน อย่างน่าอัศจรรย์และมีพลังยิ่ง

 

หากท่านทั้งหลายได้ศึกษาประวัติศาสตร์ช่วงสมัย สมเด็จพระนเรศวรมหาราช อย่างถ่องแท้แล้ว

 

ท่านจะเห็นว่า สมเด็จพระนเรศวรมหาราช หลังจากที่ทรงรบพุ่ง ขับไล่พม่ารามัญให้ออกไปจากแผ่นดินไทย ยึดคืนแผ่นดินอโยธยา กลับมาเป็นของคนไทย และทรงประกาศอิสรภาพจากพม่าเป็นผลสำเร็จ

 

งานแรกๆ ที่พระองค์กับพระน้องยาเธอฯ ทรงทำ นอกจากจะซ่อม สร้าง ค่ายคู ประตูเมือง ให้มั่นคงแล้ว

 

ยังทรงฟื้นฟูกิจการพระศาสนา รวบรวมพระสงฆ์ชำระพระไตรปิฎก ทำให้ศาสนาเป็นปึกแผ่น เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ และรวบรวมศรัทธาความเชื่อของคนในอโยธยา ให้หล่อหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว

 

อีกทั้งยังทรงมอบอำนาจให้แก่ สมเด็จพระวันรัต วัดป่าแก้ว ผู้ทรงธรรม ทรงวินัย เชี่ยวชาญอักขระเลขกล พุทธมนต์ พระไตรปิฎก ให้ทำหน้าที่รับเป็นธุระในการจัดระเบียบหมู่สงฆ์

 

ให้มีวัตรปฏิบัติ ตรงต่อพระธรรมคำสอนของพระบรมศาสดา

 

พร้อมทั้งฟื้นฟูจารีตประเพณี ขนบธรรมเนียมปฏิบัติ ที่เป็นเอกลักษณ์ของชนชาติไทย

 

ด้วยพลังความเชื่อ ความศรัทธา ของผู้คนในอโยธยา ที่มีต่อสถาบันพระศาสนาและพระมหากษัตริย์ ยึดมั่นอยู่ในขนบธรรมเนียม จารีต ประเพณีอันดีงาม

 

จึงทำให้คนอโยธยารวมกันเป็นปึกแผ่น มีพลังแข็งแกร่ง ถึงขนาดยกทัพไปตีเมืองเขมร เมืองลาว เมืองญวน และเมืองมาลายู รวมทั้งเมืองขึ้นของพม่า จนเกือบจะถึงเมืองหลวง

 

ทั้งหมดนี้มาจากพลัง คือ พลังกาย ที่ได้จากความขยันมั่นเพียร หนักเอาเบาสู้ ก่อร่างสร้างฐานะ และเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่

 

พลังใจ เกิดขึ้นได้ด้วยเครื่องผูกยึดโยง เชื่อมั่นในตัวผู้นำและศาสนา จนหลอมรวมชนร้อยเผ่า ให้เข้ากันได้ อย่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง

 

พลังปัญญา เกิดจากตัวผู้นำและศาสนา ที่เป็นต้นแบบที่ดีและเผยแผ่ ศิลปวิทยา ความรู้ความสามารถ จนเอาชนะอุปสรรคและข้าศึกได้

 

ทั้งหมดนี้มาจากวิสัยทัศน์ของผู้นำและผู้ตาม ที่เป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญของสังคม และจิตวิญญาณคนอโยธยา

 

อาจเป็นเพราะสมเด็จพระนเรศวรทรงเจริญพระชันษามาจากพม่า มหาอำนาจในยุคนั้น ได้รู้ ได้เห็น ได้เรียนศึกษาสรรพวิทยามาหลากหลาย

 

อีกทั้งยังมีครู พระที่ทรงธรรมทรงวินัย รอบรู้ศาสตร์หลากหลาย เช่น พระอาจารย์พระมหาเถรคันฉ่อง

 

จึงทำให้พระองค์เป็นผู้นำทั้งทางกาย ใจ และสติปัญญา ของคนอโยธยาได้อย่างน่าอัศจรรย์

 

ทั้งยังทรงถ่ายทอด ศิลปะวิทยาการนั้นให้แก่คนอโยธยา ได้เรียนรู้ศึกษา จึงทำให้ผู้คนอโยธยาในยุคนั้น เพียบพร้อมทั้งกำลังกาย กำลังใจ และกำลังสติปัญญา

 

อโยธยาจึงกลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง

 

แม้ต้นยุครัตนโกสินทร์ ล้นเกล้ารัชกาลที่ ๑ เมื่อทรงปราบดาภิเษก ขึ้นเป็นองค์พระประมุข ต้นราชวงศ์จักรี พระราชกรณียกิจ ที่พระองค์ทรงทำเรื่องแรกๆ คือ การฟื้นฟูพระพุทธศาสนา รวบรวมและชำระพระไตรปิฎก ทั้งยังทรงกำจัดนักบวชอลัชชี คัดแยกสงฆ์ดีออกจาอลัชชีชั่ว

 

ตามประวัติศาสตร์ พระองค์ทรงมีพระบรมราชโองการจับนักบวชเลว เฆี่ยนและสักหน้า ตะเวนน้ำ ตะเวนบก จนครบ ๗ วัน ๑๕ วัน แล้วจึงเกณฑ์ให้ไปเป็นทาสแรงงาน

 

หลังจากทรงฟื้นฟูพระพุทธศาสนา และขนบธรรมเนียม จารีตประเพณีกลับมาเป็นเครื่องผูกรัดให้คนในชาติ รวมกันจนกลายเป็นชาติไทยใหม่ กลายมาเป็นแผ่นดินสยามได้ในทุกวันนี้

 

เรื่องเครื่องผูก เครื่องยึดเหนี่ยว จิตใจที่สะอาด ฉลาด สว่าง สงบนี้ ท่านทั้งหลาย อย่ามองข้ามไปทีเดียว

 

ความเชื่อ ความศรัทธา มันสามารถกลายเป็นพลัง สร้างอำนาจได้

 

มันขึ้นอยู่กับผู้เป็นเจ้าของศรัทธานั้นว่า มีคุณธรรมมากขนาดไหน ดูตัวอย่างเช่น

 

ตอนนายทักษิณคิดขึ้นมามีอำนาจ

 

เผอิญช่วงนั้นเป็นช่วงที่หมู่ภิกษุสงฆ์กำลังทะยานอยากได้วิทยฐานะ ในการเรียนการสอนให้เทียบขั้นกับการเรียนทางโลก และอยากได้อำนาจการปกครองตัวเอง เป็นเอกเทศ

 

เมื่อผู้ปกครองสงฆ์ต่างเห็นพ้องต้องการจะมีอำนาจเสมอดั่งรัฐบาล พร้อมเบี้ยหวัดเงินเดือน

 

ซึ่งนายทักษิณรับรู้ถึงความทะยานอยากตรงนี้

 

จึงเข้ามาเสนอตัวที่จะผลักดันให้คณะสงฆ์สมอยาก

 

จนนำมาซึ่งการกลายร่างเป็นหัวคะแนนของบรรดานักบวชทั้งหลาย เพื่อสนับสนุนนายทักษิณ ขึ้นมามีอำนาจ แล้วผลักดันให้เกิดสิ่งที่คณะสงฆ์ต้องการในยุคนั้น

 

แม้ฉันเองก็ยังถูกนักบวชผู้ใหญ่ที่เวลานี้ไปนั่งชูคอเป็นสมเด็จอยู่ในมหาเถร ผู้เคยสอบคดีธรรมกายชักชวนให้ช่วยสนับสนุน เพื่อเพิ่มวิทยฐานะของคณะสงฆ์

 

นายทักษิณเป็นคนฉลาดหรือว่ากุนซือนายทักษิณฉลาดก็ไม่รู้ แต่ที่รู้ก็คือ

 

การเมืองเริ่มเข้ามาขี้นำคณะสงฆ์ ไม่เว้นแม้แต่คดีความที่เกิดขึ้นตามธรรมวินัย นายทักษิณก็สามารถชี้นำได้

 

เช่นกรณีของธรรมกาย เป็นต้น

 

ฉะนั้น ความศรัทธาที่ขาดปัญญา มันจึงเป็นกลายเป็นความน่ากลัว พร้อมๆ กับน่าสะอิดสะเอือน จนขนหัวลุกทีเดียวหละคุณ

 

พุทธะอิสระ