บทความ
ดูความพยายามในการดิ้นหาทางรอดของพวกเขา
๑๙ มกราคม ๒๕๕๙
ตั้งแต่เริ่มโหมกระแสภัยพระพุทธศาสนา โดยมโนว่าศาสนาต่างชาติจะเข้ามายึดครองทำลายพระพุทธศาสนา และต้องธรรมกายเท่านั้นจึงจะต่อกรกับภัยนี้ได้
แต่สุดท้ายโดน คสช. เบรคจนหัวทิ่มกันไปตามๆ กัน
เมื่อมุขภัยศาสนาไม่ได้ผล จึงงัดมุขเรียกร้องให้ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ และต้องบรรจุเอาไว้ในรัฐธรรมนูญ
แต่แล้วฝันก็สลาย เพราะรัฐบาล คสช. ไม่เอาด้วย เพราะแผ่นดินไทยเป็นไทยขึ้นมาได้ ไม่ใช่มีเฉพาะศาสนาพุทธเท่านั้น จึงควรอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขในทุกศาสนาที่เข้ามาพึ่งพาพระบรมโพธิสมภาร ทรงอุปถัมภ์บำรุงทุกศาสนาให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขตลอดมา
เมื่อมุขพระพุทธศาสนาประจำชาติไม่เวิร์ค ไม่เป็นที่ยอมรับ
อีกทั้งว่าที่สังฆราชและศิษย์เลิฟอย่างธรรมกายโดนรุมกระหน่ำจนซวนเซมึนเมาหมัด
เลยหันมาใช้มุขสุดท้ายที่ถนัด คือมุขยัดข้อหาสร้างความแตกแยกว่าพวกเรากำลังสร้างความแตกแยกระหว่างสองนิกาย
แถมตามด้วยการออดอ้อนว่าธรรมยุติได้เป็นสังฆราชมาหลายสมัยแล้ว พอสมัยนี้เป็นโควต้าของมหานิกาย ทำไมต้องมีปัญหา
ตบท้ายด้วยมุขข่มขู่ระดมภิกษุออกมาเคลื่อนไหวกดดันหากนายกไม่นำชื่อสมเด็จช่วงขึ้นทูลเกล้าเพื่อทรงแต่งตั้ง
รวมความว่า แต่ละมุขที่พวกลัทธิธรรมกายพยายามนำมาใช้ ก็เพียงเพื่อสนองตัณหาของตนและเอาตัวรอดเท่านั้น
ไม่สนว่าพระพุทธศาสนาจะได้อะไร พระธรรมวินัยจะปลอดภัยหรือไม่ และพุทธบริษัทจักรุ่งเรืองเจริญปัญญาหรือเปล่า นี่มันเป็นเวรกรรมอะไรของพุทธบริษัทไทยกันนะ
พุทธะอิสระ