พระภัททากัจจานาเถรี (พระนางยโสธรา,พระนางพิมพา) ตอนที่ ๑๕
๒๖ พฤษภาคม ๒๕๖๗
ความเดิมตอนที่แล้วจบลงตรงที่ พระนางยโสธรามหาเถรีได้ทรงตรัสลาพระบรมศาสดาเพื่อจะนิพพาน ณ คันธกุฎีของตน
ทีนี้เราท่านทั้งหลายมาตามดูอดีตชาติของพระนางยโสธรามหาเถรี ที่ทรงตั้งความปรารถนา ตั้งจิตอธิษฐานเอาไว้ในอดีตว่าอย่างไร
แม้พระนางนั้น ครั้งพระพุทธเจ้าพระนามว่า ปทุมุตตระ ถือเอาปฏิสนธิในเรือนสกุล กรุงหังสวดี ในกาลต่อมาฟังธรรมกถาของพระศาสดา เห็นพระศาสดาทรงสถาปนาภิกษุณีรูปหนึ่งไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะเป็นเลิศกว่าเหล่าภิกษุณีสาวิกาผู้บรรลุอภิญญาอย่างใหญ่ จึงทำกุศลให้ยิ่งยวดขึ้นไป แล้วตั้ง ปรารถนาตำแหน่งนั้น
กาลต่อมา นางได้เวียนว่ายตายเกิดในเทวดาและมนุษยโลก สลับหมุ่นเวียนตลอดแสนกัป
ทั้งยังทรงเคยเกิดร่วมสมัย ขณะที่องค์พระโพธิสัตว์สิทธัตถะทรงบำเพ็ญบารมีอยู่ถึง ๔ อสงไขย แสนมหากัป อย่างเช่น
ทรงเกิดเป็นมารดาของเนื้อชื่อ ลักขณะ และ กาฬะ พระพุทธองค์เสวยพระชาติเป็นบิดา ในลักขณชาดก
พระนางเกิดเป็นสุภัททาเทวี พระพุทธองค์เสวยพระชาติเป็นพระเจ้ามหาสุทัสสนะ ใน มหาสุทัสสนชาดก
พระนางเกิดเป็นภรรยา พระพุทธองค์เสวยพระชาติเป็นบุรุษผู้ละบุตรและภรรยาออกบวช ในพันธนาคารชาดก
พระนางเกิดเป็นกาชื่อ สุปัสสา พระพุทธองค์เสวยพระชาติเป็นกาชื่อ สุปัตตะ ใน สุปัตตชาดก
พระนางเกิดเป็นภรรยาของเศรษฐี พระพุทธองค์เสวยพระชาติเป็น วิสัยหเศรษฐี ใน วิสัยหชาดก
พระนางเกิดเป็นนางสัมมิลลหาสินี พระพุทธองค์เสวยพระชาติเป็นดาบส ใน อนนุโสจิยชาดก
พระนางเกิดเป็นแม่ของสิงห์โตชื่อ มโนชะ พระพุทธองค์เสวยพระชาติเป็นพ่อ ใน มโนชชาดก
ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้ามคธครองราชย์สมบัติอยู่ในนครราชคฤห์ ในแคว้นมคธ
มีพญากวางตัวหนึ่งอาศัยอยู่ในป่า ปกครองบริวารกวางจำนวน 1,000 ตัว พญากวางนั้นมีลูก 2 ตัว ชื่อ กวางลักขณะ และ กวางกาฬะ เมื่อลูกกวางทั้ง 2 โตขึ้น พญากวางก็แก่ลงมาก จึงคิดจะให้ลูกกวางทั้ง 2 เป็นผู้ปกครองฝูงแทนตน จึงเรียกลูกกวางทั้ง ๒ มาสอนว่า
“ตอนนี้พ่อแก่มากแล้ว พ่ออยากให้พวกเจ้าเป็นจ่าฝูงแทนพ่อ พวกเจ้าแบ่งบริวารไปปกครองตัวละ 500 ตัว นะลูก” พญากวางบอกแก่ลูกกวางทั้ง 2
“ครับพ่อ” ลูกกวางทั้ง 2 ตอบรับ แล้วพญากวางก็ให้โอวาทในการนำพาฝูงให้อยู่รอดปลอดภัย
“เจ้ารู้ไหมว่าสิ่งที่อันตรายที่สุดของพวกเราก็คือมนุษย์ พวกเขาจะฆ่าพวกกวางที่ไปกินข้าวกล้าในนา จึงได้ขุดหลุมพราง วางกับดักต่างๆ บ้างก็ดักซุ่มอยู่เพื่อยิงพวกเรา และในตอนนี้ มีข้าวกล้ามากมายกำลังรอเก็บเกี่ยว ดังนั้นในตอนกลางวันพวกเจ้าจงพาบริวารไปอยู่กันที่เชิงเขาแม้อาหารจะไม่อุดมสมบูรณ์ก็จงอดทน เพราะหากพวกมนุษย์เห็น เราจะไม่มีทางหนีได้ทันแน่นอน แล้วจึงค่อยลงมาหากินที่พื้นราบในเวลากลางคืน เข้าใจไหมลูก”
เมื่อพญากวางสั่งสอนเสร็จแล้วก็พานางกวางแยกตัวออกไปอยู่ตามลำพังในป่าลึก
กวางลักขณะหนุ่มผู้เป็นบุตรจึงกล่าวว่า “กาฬะ งั้นเราแยกกันตรงนี้นะ ระวังตัวด้วย อย่าลืมคำสั่งของพ่อล่ะ” กวางลักขณะบอกกับกวางกาฬะ
“เจ้าอย่ากลัวไปหน่อยเลย ลักขณะ พ่อก็พูดไปตามประสากวางแก่แหละน่า คอยดูเถอะข้าจะพาบริวารออกหากินในตอนกลางวัน พอหมดฤดูเก็บเกี่ยวข้าจะพากวางทั้ง 500 กลับมาเจอกับเจ้าที่คูหาของพ่อ” กวางกาฬะพูดด้วยความลำพองใจ
‘หัวดื้อจริงๆ เจ้ากาฬะ’ กวางลักขณะนึกในใจ แล้วกวางทั้ง 2 ฝูงก็แยกย้ายกันไปหากิน
“โอ้ย หิวจริงๆ เลย พวกเรา ออกไปหาหญ้ากินกันเถอะ” กวางกาฬะตะโกนบอกฝูง
“แต่ลูกพี่ นี่ยังสว่างอยู่เลย รอให้มืดก่อนไม่ดีหรอ ขืนไปตอนนี้มีหวังโดนชาวบ้านยิงตายแน่เลย” ลูกน้องกวางตัวหนึ่งทักท้วง
“เจ้าอย่าอวดดีไปหน่อยเลย ข้าเป็นจ่าฝูงของพวกเจ้านะ ใครไม่อยากอดตายก็ตามข้ามา” กวางกาฬะตะคอกใส่แล้ววิ่งนำออกไป
ในระหว่างที่กวางกาฬะนำบริวารเล็มหญ้าอย่างเพลิดเพลินอยู่นั้น มีชาวบ้านเดินผ่านมาเห็นเข้าพอดี
“โอ้ ลาภปากจริงๆ กวางเต็มไปหมดเลย” ชาวบ้านคนหนึ่งกระซิบ
“ใช่แล้ว มันไม่ทันระวังตัวแบบนี้ วันนี้ได้กลับบ้านหลายตัวแน่” อีกคนหนึ่งกระซิบตอบ แล้วยกหน้าไม้เล็งไปที่กวางตัวอ้วน
ปั้ก!!
“เสร็จข้า ฮ่าๆๆๆ”
เจ้ากวางโชคร้ายเมื่อโดนลูกศรยิงเข้าที่สะโพกแบบนั้นก็กรีดร้องเสียงดังโหยหวน กวางตัวอื่นเมื่อได้ยินเสียงร้องก็รีบวิ่งเข้าป่าทันที
“หยุดได้แล้ว พวกมนุษย์ไม่ตามมาแล้ว” กวางกาฬะตะโกนบอก พร้อมกับหอบแฮกๆ
“ข้าบอกท่านแล้วเห็นไหม เกือบเอาชีวิตไม่รอดแล้วไหมล่ะ เพื่อนเราตายไปตั้งเยอะ” ลูกน้องตัวเดิมบอก แต่แทนที่กวางกาฬะจะสำนึก กลับตะคอกกลับ
“มันบังเอิญหรอกน่ะ คราวหลังข้าจะพาไปเวลาอื่น!”
ด้วยความลำพอง และหัวดื้อของกวางกาฬะ จึงพาบริวารออกไปหากินตามอำเภอใจ อยากไปเวลาไหนก็ไป จนในที่สุด กวางทั้ง 500 ก็ถูกชาวบ้านยิงตายหมด เหลือแต่กวางกาฬะอยู่เพียงตัวเดียว
ส่วนกวางลักขณะนั้น เป็นกวางฉลาดและเชื่อในคำสั่งสอนของพญากวาง จึงไม่เคยพาบริวารออกไปหาอาหารในเวลากลางวันเลย แม้ลูกน้องอ้อนวอนเพียงใดก็ตาม จนกระทั่งเวลาผ่านไป เมื่อมนุษย์เก็บเกี่ยวข้าวเรียบร้อยแล้วจึงลงมาจากภูเขาและมุ่งหน้าไปหาพญากวาง ผู้เป็นบิดา พร้อมบริวารทั้ง 500 ตัว
“ท่านพี่ ลูกกวางลักขณะกลับมาแล้ว” นางแม่กวางบอกกับพญากวาง
“อ้อ กลับมากันแล้วหรอ พวกเจ้าเป็นยังไงบ้าง สุขสบายดีไหม” พญากวางถามลูกกวางลักขณะ
“ครับพ่อ พวกเราทำตามคำสั่งสอนของท่าน ไม่ออกหากินเวลากลางวัน แม้หิวก็ทนเอา พวกเราจึงกลับมาครบทั้ง 500 ตัวครับ”
“อืม พวกเจ้าทำดีมาก แต่… ทำไมกาฬะยังไม่กลับมาอีกนะ” พญากวางมองไปรอบๆ
“นั่นไงท่านพี่ ลูกกาฬะกลับมาแล้ว แต่เขากลับมาตัวเดียว” นางกวางบอก
พญากวางเห็นลูกทั้ง 2 กลับมาในสภาพที่ต่างกันดังนั้น จึงกล่าวกับนางกวางว่า
“กวางลักขณะนั้นมีปัญญา ไม่ดื้อดึง สามารถปกครองบริวารได้ ส่วนกวางกาฬะนั้นโง่เขลา อวดดี และดื้อดึง ทำให้บริวารต้องล้มตายกันหมด” แล้วจึงประกาศกับฝูงกวางว่า
“เอาล่ะ ในเมื่อกาฬะไม่สามรถปกครองบริวารให้อยู่รอดปลอดภัยได้ ข้าขอแต่งตั้งกวางลักขณะเป็นหัวหน้าฝูง ปกครองพวกเจ้าแทนข้า ขอให้พวกเจ้าจงเชื่อฟังลักขณะเหมือนกับที่เชื่อฟังข้า ขอให้พวกเจ้าอยู่กันด้วยความสงบสุข ปลอดภัยเถิด”
กวางลักขณะจึงได้เป็นพญากวาง และปกครองบริวารด้วยความสุขสงบ
พระชาดกเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
1. ควรเชื่อฟังคำสั่งสอนของผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์มากกว่า ย่อมนำมาซึ่งความเจริญ ปลอดภัย
2. ผู้นำควรมีสติปัญญา มีความอ่อนน้อมถ่อมตน รู้จักอดทน ไม่อวดดื้อ ถือดี
ประชุมชาดก
กวางกาฬะ ได้เกิดเป็น พระเทวทัต
กวางลักขณะ ได้เกิดเป็น พระสารีบุตร
นางกวาง พญากวาง ได้เกิดเป็น พระนางยโสธรา
พญากวาง ได้เกิดเป็น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
จบตอนนี้ แค่นี้ก่อนนะจ๊ะ โปรดติดตามตอนต่อไป
พุทธะอิสระ
——————————————–