สังขารนี้มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา
หลังจากเสร็จงานประชุมเพลิงศพ ท่านชัยณรงค์แล้ว หลายคนก็บ่นว่า ทำไมพักนี้หลวงปู่ไม่เห็นได้เขียนบทความให้สติปัญญา แก่บรรดาแฟนคลับ ที่เฝ้ารอคอย ติดตาม อ่านบทความอย่างใจจดจ่อเลย หรือพุทธะอิสระหมดภูมิขี้เกียจเสียแล้ว
พุทธะอิสระจึงขอชี้แจงว่า ที่ไม่ค่อยได้เขียนบทความก็เพราะ ระยะหลังนี้สายตารู้สึกฝ้าฟาง อาการเก่าที่ดวงตาเคยประสบเหตุถูกตัวต่อต่อยเมื่อหลายปีก่อน มาวันนี้เกิดอาการกำเริบ อาจเป็นเพราะพักหลังนี้เขียนหนังสือมาก ใช้สายตามาก เลยทำให้โรคตาเก่ากลับมากำเริบอีก
เคยไปให้หมอตาตรวจหลายครั้ง เขาก็พยายามแนะนำว่า สมควรจักเข้ารับการผ่าตัดลูกตาข้างขวาได้แล้ว ขืนปล่อยทิ้งเอาไว้ยิ่งจะเกิดผลเสียต่อการมองเห็นในอนาคต ซึ่งพุทธะอิสระเองก็ได้แต่รับฟัง
พร้อมกับกล่าวขอบคุณคุณหมอ แต่ในใจก็คิดว่า หากเราต้องไปโรงพยาบาลทำการผ่าตัดดวงตา สิ่งที่ตามมาก็คือ การใช้จ่ายเงินทอง
ซึ่งพุทธะอิสระมิได้เคยเก็บเงินเอาไว้ใช้ส่วนตัว มีแต่เงินของวัด ของมูลนิธิ อีกทั้งหากจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดจริงๆ
คงต้องเดือดร้อนลูกหลาน ผู้ศรัทธาทั้งหลาย ต้องมารับภาระเสียค่าใช้จ่าย
หากเราอยู่แล้วกลายเป็นภาระของผู้อื่น ก็เท่ากับเราต้องตกเป็นหนี้บุญคุณแก่ท่านผู้ใจบุญเหล่านั้น
ปณิธานที่ตั้งเอาไว้ในใจว่า หน้าที่ของพุทธะอิสระคือ
ต้องอยู่เพื่อตอบแทนบุญคุณก้อนข้าว หยดน้ำของชาวบ้าน
อยู่เพื่อตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน
อยู่เพื่อปกป้องดำรงรักษาพระธรรมวินัย อันบริสุทธิ์ บริบูรณ์
อยู่เพื่อพิทักษ์รักษาสถาบัน อันเป็นที่รักยิ่งของประชาชนชาวไทย
และต้องเป็นอยู่ด้วยความภาคภูมิด้วย
หากเราจักทำตนเป็นคนอ่อนแอ ต้องให้คนโน้นช่วย คนนี้ช่วย ในเรื่องส่วนตัวของตนเอง
เช่นนี้ก็เท่ากับการเป็นภาระ และไม่ภาคภูมิที่จะมีชีวิตอยู่
วันนี้พุทธะอิสระจึงขออนุญาตเขียนอธิบายความให้ท่านผู้มีจิตคิดจะช่วยเหลือ ในเรื่องการรักษาดวงตาของพุทธะอิสระ ว่านี่มันเป็นเรื่องส่วนตัว ที่พุทธะอิสระคิดว่าไม่ควรทำตัวเป็นภาระให้แก่ใครๆ
เรามีหน้าที่ต้องมาแบ่งเบาภาระมิใช่มาเพิ่มภาระ
ขอบคุณในทุกความกรุณา ขอบคุณมากๆ
พุทธะอิสระ