ลองศึกษาดูวินัยกรรม ที่องค์พระบรมศาสดาทรงให้ไว้
๗ กันยายน ๒๕๖๔
“ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาต พวกเธอจงเที่ยวจาริกไปเพื่อประโยชน์แก่ชนเป็นอันมาก เพื่อความสุขแก่ชนเป็นอันมาก เพื่ออนุเคราะห์สัตว์โลก เพื่อประโยชน์ เพื่อเกื้อกูล เพื่อความสุขแก่เทพดาและมนุษย์ทั้งหลาย แต่อย่าได้ไปทางเดียวกันสองรูป ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงแสดงธรรมงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด จงประกาศพรหมจรรย์ พร้อมทั้งอรรถ พร้อมทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง ในโลกนี้ สัตว์พวกที่มีกิเลสเพียงดังธุลีใน จักษุเบาบางยังมีอยู่ เพราะไม่ได้ฟังธรรมสัตว์พวกนั้นจึงเสื่อมเสียไป ผู้ที่รู้ทั่วถึงธรรมได้ยังจักมี แม้เราก็จักกระทำ โดยที่ให้พระนครพันธุมดีเป็นสถานที่อันเธอทั้งหลายพึงกลับมาแสดงพระปาติโมกข์โดยหกปีๆ ล่วงไป ดังนี้ ฯ”
คุณสมบัติของผู้แสดงธรรม ๕ ประการ
๑. แสดงธรรมไปตามลำดับ ไม่รวบรัดขาดสาระสำคัญที่จะนำเสนอ
๒. อธิบายความไปตามหลักที่ยกขึ้นเป็นเหตุและแสดงผลให้ชัดเจน
๓. แสดงธรรมด้วยความเมตตา ปรารถนาดี และให้เกิดประโยชน์แก่ผู้ฟัง
๔. ไม่แสดงธรรมด้วยเห็นแก่อามิส คือ สอนเขามิใช่เพราะมุ่งที่ตนจะได้ลาภหรือผลประโยชน์ตอบแทน
๕. แสดงธรรมไม่กระทบตนและผู้อื่น
อีกทั้งยังต้องมีหมายที่เด่นชัดในการแสดงธรรมแต่ละครั้งว่า
เป็นไปเพื่อความเบื่อหน่าย
เป็นไปเพื่อคลายความทะเยอทะยานยาก ความกำหนัดหรืออย่างใดอย่างหนึ่ง
เป็นไปเพื่อความดับทุกข์
เป็นไปเพื่อความดับภพชาติ
ใครที่ไม่รู้ก็ศึกษา เสียให้รู้ เมื่อรู้แล้วจะได้ไม่ต้องทำผิด
พุทธะอิสระ
————————————————-
Let’s look at the Monastic Discipline prescribed by the Buddha.
September 7, 2021
“You, O Bhikkhus, I permit you to wander, for the gain of the many, for the welfare of the many, out of compassion for the world, for the good, for the gain, and for the welfare of gods and men. Let not two of you go the same way. Preach, O Bhikkhus, the doctrine, which is glorious in the beginning, glorious in the middle, glorious at the end, in the spirit and in the letter. Proclaim a consummate, perfect, and pure life of holiness. There are beings whose mental eyes are covered by scarcely any dust, but if the doctrine is not preached to them, they cannot attain salvation. They will understand the doctrine. And I will also go to preach the doctrine. Panthumadee City shall be the place for all of you to chant the Fundamental Precepts in the next six years.”
Monks who preach Dhamma sermons must possess five qualifications as follows.
1. They must preach Dhamma sermons chronologically. The sermons must not be shortened that they lack the essence. (Chronologically here means preaching step by step, starting from the simplest to the deepest, with relative reasoning.)
2. They must provide clear reasoning. (They must raise causes and effects so that the audience clearly understand each issue, based on reasoning.)
3. They must preach Dhamma sermons with mercy and good intention for the sake of listeners.
4. They must not preach sermons with the aims to gain money or any benefit.
5. Their Dhamma sermons must not affect themselves and other people. Namely, they should preach the Dhamma content to teach people, not to bully anybody.
Furthermore, their Dhamma sermon preaching each time must have clear objectives as follows:
For dispassion and disinterest
For reducing ambition, worldly desires, or either one of them
For extinguishing suffering
For extinguishing existence and birth
These are qualities and virtues of persons who preach Dhamma sermons.
Buddha Isara