บทความ
ลงพื้นที่ ทำดีเพื่อพ่อกันอีกที (ตอน ๘)
เช้าวันพฤหัสบดีที่ ๑๙ เวลาตี ๔ ครึ่ง ตื่นนอน หยิบน้ำที่หัวนอนมาดื่ม
ตามด้วยการเจริญกายานุสติกรรมฐาน ส่งความระลึกได้ รู้ตัว ลงไปในกาย ไล่ตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า
จากปลายเท้าขึ้นมาถึงหัว กลางกระหม่อม ระลึกได้รู้ตัวไปจนถึงข้อกระดูกแต่ละข้อ เริ่มจากกะโหลกศีรษะ จนถึงกระดูกคอ กระดูกหัวไหล่ กระดูกซี่โครง กระดูกสันหลัง กระดูกตะโพก กระดูกขา จนถึงกระดูกข้อเท้า ฝ่าเท้า นิ้วเท้า
ระลึกได้ รู้ชัด ตั้งแต่กระดูกนิ้วเท้า ฝ่าเท้า จนถึงกระดูกศีรษะ
จากกระดูกศีรษะลงมาที่กระดูกต้นคอ กระดูกไหปลาร้า กระดูกหน้าอก กระดูกซี่โครงทุกซี่
ย้อนขึ้นไปจนถึงกระดูกไหปลาร้า กระดูกหัวไหล่ กระดูกท่อนแขน กระดูกฝ่ามือ นิ้วมือ
ระลึกได้รู้ชัด ย้อนกลับไป กลับมา จนหลับตา ลืมตา เห็นแต่กระดูก
ทำให้อาการเจ็บปวดในช่องท้องหายไปจากจิต สมองโล่ง จิตสงบ กายเบา ใจเบา รู้สึกว่าเบาสบายมากขึ้น
๖ โมงเช้าพอดี วันนี้ต้องเดินทางไปพบชาวบ้าน ๒ หมู่บ้าน มีชนเผ่ามูเซอ ตอน ๘ โมงเช้า
และออกเดินทางไปพบชาวบ้านคลองด้วนตอน ๑๐ โมง
คุณหมอภรรยาท่าน สจ.ทำข้าวต้มปลามาถวาย เจ้าเฟิร์สออกไปซื้อโจ๊กมาถวาย ฉันไปได้หน่อยรู้สึกท้องอืด เลยหยุดฉัน พอดีท่าน สจ.นำน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋มาถวาย แต่ฉันอิ่มแล้ว เลยให้ไปแจกพวกคนติดตาม
เข้าห้องน้ำเรียบร้อยจึงรีบขึ้นรถไปพบชาวบ้าน มีท่านสารวัตรปราบปราม พ.ต.ท.สุขเกษม เสี่ยงวงค์ และ จ.ส.อ.พยูง นิตขลิบ ทหารพราน พร้อมท่าน สจ.ธานี สุโชดายน เป็นผู้นำพาฉันออกไปพบชนเผ่ามูเซอ พอมาพบจึงได้รับรู้ถึงปัญหาความทุกข์ยากของพวกเขา ซึ่งพอสรุปได้ ๒ ประเด็น คือ
– พวกเขาขาดน้ำกินน้ำใช้ในฤดูแล้ง
– พวกเขาไม่มีที่ทำกินมาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๗
ผู้นำชนเผ่าจึงได้เล่าให้ฉันฟังที่พอจะจับใจความได้ว่า พวกเขาอพยพลงมาจากภาคเหนือเพื่อแสวงหาที่ทำกิน ตั้งแต่ปี ๑๗ เขาบุกรุกหักล้างถางป่าต้นน้ำคลองลาน ก็คือ อุทยานคลองลานในปัจจุบัน
ต่อมาเมื่อมีการก่อตั้งกรมอุทยานขึ้น พวกเขาจึงถูกไล่ลงมาอยู่ด้านล่าง โดยเจ้าหน้าที่สัญญากับพวกเขาว่าจะหาที่อยู่ที่ทำกินให้แก่พวกเขา
มีกลุ่มแรกที่ยินยอมลงมาแต่โดยดี รัฐบาลยุคนั้นจึงหาที่ทำกินให้ครอบครัวละ ๑๕ ไร่
แต่กลุ่มที่ยังไม่ได้ที่ทำกินคือกลุ่มที่ไม่ยินยอมลงมาจากเขตอุทยานแต่โดยดี โดยหลงเชื่อการยุยงของพวก NGO พากันประท้วงหน่วยงานของรัฐ
รัฐบาลในเวลานั้นจึงไม่ให้ความช่วยเหลือ พวกเขาซึ่งมีเหลืออยู่ ๑๒๗ ครอบครัว เมื่อถูกบังคับใช้กฎหมายรุกไล่ เลยมาอาศัยอยู่ข้างถนนเป็นแรมปี
ต่อมามีบาทหลวงผู้สอนศาสนาคริสต์ มาจัดซื้อที่อยู่ให้แก่พวกเขา ๔๐ ไร่ จนกลายมาเป็นหมู่บ้านชาวมูเซอ ผู้นับถือศาสนาคริสต์ในปัจจุบัน
แต่ก็ยังหาที่ทำกินไม่ได้ จะมีบางครอบครัวโชคดี ได้รับที่ทำกินจากบาทหลวงด้วย แต่ก็ไม่กี่ครอบครัว
ฉันสังเกตสีหน้า กิริยา แววตา และคำพูดเขา ดูจะมีความคิดเป็นปรปักษ์แก่รัฐบาล คสช. อีกทั้งได้ทราบข้อมูลการข่าวมาว่า หมู่บ้านมูเซอแห่งนี้จัดว่าเป็นกลุ่มฮาร์ดคอร์เสื้อแดงกำแพงเพชรเลยทีเดียว โดยมีนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง เป็นผู้ประสานงาน และเคยมาแจกของและชักชวนไปร่วมชุมนุมบ่อยๆ
ฉันพอได้ฟัง ยิ่งอยากช่วยให้พวกเขาได้มีที่ดินทำกินและมีน้ำกินน้ำใช้มากขึ้น
ถึงขนาดปรึกษากับ สจ.ธานี ว่าลองช่วยสอบถามจากเพื่อนๆ คหบดี นายทุน ที่ถือครองที่ดินเอาไว้มากๆ ฉันจะขอซื้อซัก ๔๐-๕๐ ไร่ มาให้ชาวบ้านเขาได้ทำกิน โดยรวมตัวกันตั้งเป็นรูปสหกรณ์ เมื่อทำได้ผลประโยชน์ก็ให้แบ่งกันในกลุ่มและเก็บผลกำไรมาสะสมไว้กองกลางเพื่อจัดหาที่ดินเพิ่ม พวกเขาจะได้มีโอกาสเป็นเจ้าของที่ทำกิน
ซึ่งท่าน สจ.ธานี ก็รับปากว่าจะช่วยสอบถามให้
แต่พอมาพบปะพูดคุยกับชาวชนเผ่าจึงได้รู้ว่าจังหวัดกำแพงเพชรมีศูนย์สงเคราะห์ชาวเขา สังกัดกระทรวงวัฒนธรรมและความมั่นคงของมนุษย์ ฉันจึงเกิดความคิดขึ้นว่า
เราควรจะไปติดต่อขอความช่วยเหลือจากศูนย์สงเคราะห์ชาวเขาก่อนดีกว่า
แต่ก็ได้รับการบอกเล่าจากท่าน สจ.และผู้ใหญ่บ้านว่า ชาวเขาเคยเข้าไปติดต่อมาหลายครั้งแล้วแต่ไม่ได้รับความช่วยเหลือ
ฉันจึงสั่งให้ทหารพรานช่วยหาข้อมูลมาก่อนที่จะไปพบ ผอ.ศูนย์
ในขณะเดียวกันก็มาหาวิธีแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำกินน้ำใช้ ซึ่งเมื่อถึงหน้าแล้งชาวเขาและชาวบ้านอีก ๔ หมู่บ้านจะขาดแคลนน้ำเป็นอย่างมาก
ฉันได้สอบถามว่าต้นกำเนิดน้ำนี้มาจากไหน พวกเขาบอกว่ามาจากเขา
ฉันจึงแจ้งว่า หากสามารถสร้างอ่างกักเก็บน้ำเอาไว้ได้ในฤดูน้ำหลาก น้ำก็จะมีให้ใช้ได้ตลอดปี
ฉันขอให้แกนนำชาวบ้านและผู้ใหญ่บ้านช่วยพาไปดูพื้นที่กำเนิดน้ำบนเขาซึ่งมีสำนักสงฆ์ร้างอยู่
พอเดินทางขึ้นถึงยอดเขาได้เห็นสภาพจึงได้รู้ว่า วิธีแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนจะต้องขุดสระกักเก็บน้ำอย่างน้อยซัก ๒ ไร่
แต่ด้วยเพราะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นหิน จึงไม่สามารถขุดสระได้ หากจะต้องขุดสระต้องขุดที่ตีนเขา ซึ่งเป็นที่ดินป่ามันของชาวบ้าน ท่าน สจ.ธานีจึงขอร้องให้ผู้ใหญ่บ้านไปตามเจ้าของที่ดินมาพูดคุยเจรจาขอซื้อที่ดินซัก ๒ ไร่ เพื่อขุดสระน้ำ
ช่างเป็นบุญของฉัน ชาวบ้านเจ้าของที่ยินยอมจะขายให้โดยดี ฉันจึงสั่งให้ผู้ใหญ่บ้านไปเรียกประชุมชาวบ้านทั้ง ๔ หมู่บ้าน แล้วทำประชาคมวางแผนการบริหารจัดการน้ำมาให้ดูก่อนว่าจะสามารถแบ่งปันน้ำกันได้อย่างทั่วถึงหรือไม่ เพราะได้ข่าวมาว่าชาวบ้านทะเลาะกันเพื่อแย่งน้ำ
พุทธะอิสระ