ชอบๆ ขออนุญาตแชร์นะจ๊ะ
คุณเปลวสีเงินเขียนได้โดนใจพุทธะอิสระจริงๆ
เนื้อหาสมบูรณ์อยู่ในอรรถและพยัญชนะแล้ว สุดยอด
พุทธะอิสระ
—————————————————–
เมื่ออยาก ‘จะเป็น’ ก็ต้อง ‘ไม่เป็น’
เปลวสีเงิน
“พรุ่งนี้ (๑๒ ก.ค.๕๙) อาตมาจะประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับพระแกนนำ ๔-๕ รูป เพื่อกำหนดท่าทีของพระสงฆ์และองค์กรชาวพุทธที่มีต่อคำให้สัมภาษณ์ของผู้นำประเทศ
ส่วนจะเหลืองทั้งแผ่นดินหรือไม่นั้น อาตมายังไม่กล้าพูดขนาดนั้น แต่พูดได้ว่า จะมีการเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน”
แหม…เจ้าคุณประสาร “เปรี้ยว” จนสบงตุงเชียวนะ
หลังทราบกฤษฎีกาตีความมติ มส.ที่เสนอ “สมเด็จช่วง” เป็นพระสังฆราชไม่ขัดมาตรา ๗ พ.ร.บ.คณะสงฆ์
และคุณโยม “นายกฯ ประยุทธ์” ถวายความเห็นเนิบๆ ว่า
“ก็ไม่ได้ว่าอะไร ………..
อำนาจใครก็อำนาจใคร ผมมีหน้าที่อะไร…มีหน้าที่นำขึ้นทูลเกล้าฯ แล้วผมทูลเกล้าฯ ในสิ่งที่มีปัญหาได้หรือไม่…ถ้าไม่ได้ ก็จบ”
แต่ “เจ้าคุณประสาร” ไม่ยอมให้จบ สวมวิญญาณเอแดร์ ศูนย์หน้าโปรตุเกส ยิงสวน
“ในเมื่อมติดังกล่าวชอบด้วยกฎหมายและจารีตประเพณีแล้ว มีเหตุผลอะไรที่นายกรัฐมนตรีจะไม่ปฏิบัติตาม
มีเหตุผลอะไรที่นายกรัฐมนตรีจะไม่เสนอนามสมเด็จพระราชาคณะที่ถูกเสนอชื่อโดยชอบแล้ว
นายกรัฐมนตรีควรปฏิบัติตามกฎหมาย จารีตและครรลองอันดีงาม ช่วยกันให้ความเคารพบูชาต่อคณะสงฆ์ทั้งประเทศและมหาเถรสมาคมด้วยเถิด อย่าประวิงเวลา………
อย่าเอาการเมืองมาเล่นในคณะสงฆ์ อย่าเดินตามกลุ่มบุคคลที่ไม่หวังดีต่อคณะสงฆ์เลย
เดินหน้าตามกระบวนการที่ถูกต้องเถิด ความสงบสุขจะกลับมาสู่คณะสงฆ์ดังเดิม”
ผมว่าญาติโยมฟังเจ้าคุณประสารพูดแล้ว คงมีจำนวนมาก เกิดศรัทธา อยาก “ถวายบาตร” เจ้าคุณประสารกัน คนละบาตร-สองบาตร!
เจ้าคุณประสารที่ว่านี้ คือหัวโล้น-ห่มเหลืองชื่อประสาร มีสมณศักดิ์ที่ “พระเมธีธรรมาจารย์”
เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาส “วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร”
อื้อฮือ…ไม่น่าเชื่อ!
เป็นรองอธิการบดี “มหาวิทยาลัยสงฆ์” มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
อ้อ…งี้เองนี่เล่า!
เป็นเลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนา
อ๋อ…ดงซ่องสุมแดงในเหลือง!
เป็น “กุมารทอง” ซ้าย-ขวา “คู่มหาโชว์ พิทักษ์มหาเถรฯ-ระบอบทักษิณ”
อุ๊ย…หัวใจชาติ-ศาสนา!
เป็นพระที่จรรโลงพระพุทธศาสนา ด้วยการร่วมขบวนการ นปช.เปลี่ยนประเทศเป็น “แดงทั้งแผ่นดิน”
เจริญละเมิงงงง…แบบนี้!
และเป็นหัวคิวจัดนำ “พระธรรมทูต” ในต่างประเทศ เวียนเข้าเฝ้าทักษิณ พร้อม “รับซอง”
อิอิ…”โซตอง ตอง ยุงต่าม” แปลว่า ย่ามตุง ซองโตๆ!
ครับ…ในเมื่อพระย่ามแดงมาเฟี้ยวซะขนาดนี้ แล้วจะให้ฆราวาสอย่างผมไปทางไหนถูกล่ะ ก็ต้องส่งเสริมพระเดชพระคุณให้สุดลิ่มทิ่มหอกไปเลย
ประเด็นมาตรา ๗ พ.ร.บ.สงฆ์ น่ะ ล็อก “ตายตัว” อยู่แล้วว่า
“ต้องสมเด็จพระราชาคณะผู้มีอาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์” เท่านั้น ที่จะขึ้นเป็นพระสังฆราชได้
จะใครตี ก็ตีเป็นอื่นไปไม่ได้ ตอนนี้ “สมเด็จพระราชาคณะผู้มีอาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์” ในหมู่สงฆ์ คือ
สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (สมเด็จช่วง) วัดปากน้ำ นั่นเอง!
โดยบรรทัดกฎหมาย โดยสิทธิ์…….
นั่ง-นอนคลำ “เบนซ์ ขม ๙๙” สบาย..สบาย ใจเย็นๆ ใครก็จะแย่งตำแหน่งพระสังฆราชไปไม่ได้
ฉะนั้น เจ้าคุณประสาร ไม่ต้องแปลงร่าง สรุปว่า ในการเสนอชื่อ จะรัฐบาลหรือมหาเถรฯ เสนอ ชื่อเดียวเท่านั้นที่เสนอได้
คือชื่อ “สมเด็จช่วง”!
คนที่จะนำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายในบรรทัดกฎหมายมาตรา ๗ ก็ตายตัวเช่นกัน
ให้ “นายกรัฐมนตรี” เป็นผู้นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย
ดังนั้น ไม่ต้องระดมพลมาเหลือง-มาแดงทั้งแผ่นดินหรอก เปลืองข้าวสุกเปล่าๆ ถ้าทำอย่างนั้น “คณะสงฆ์” โดยรวม มัวหมองไปด้วยเปล่าๆ
รักษาฟอร์ม “รองเจ้าอาวาส” กับ “รองอธิการบดี” ทำตัวให้เห็นว่า “คุณภาพถึงตำแหน่ง” หน่อยซิ
ไม่มีใครค้าน “คุณสมบัติ” พระราชาคณะผู้มีอาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์ “สมเด็จช่วง” ผ่านฉลุย
แต่…เจ้าคุณประสาร เข้าใจตรงนี้ใช่มั้ย?
ในฐานะรองเจ้าอาวาส ต้องทราบ “ผู้ชายทุกคน” เมื่ออายุ ๒๐ แล้ว มีสิทธิ์บวชพระได้ อย่างนั้นใช่มั้ย?
ใช่….
แต่ชายทุกคน จะใช้สิทธิ์นั้น “บวชเลย” ไม่ได้ใช่มั้ย?
ใช่….
ยังมีกฎอื่น เช่น ต้องไม่เป็นคนที่พระพุทธเจ้าทรงห้ามบวชด้วยใช่มั้ย?
ใช่…
ผู้ชายอีก ๘ จำพวก ๕ ประเภท ที่ห้ามบวชด้วย ใช่มั้ย?
ใช่….
คนต้องอาญา, โจร-ผู้ร้าย, คนหนีคุก, คนทำผิดกฎหมายอาญา, คนถูกหมายจับ เหล่านี้ ก็ห้ามบวชใช่มั้ย?
ใช่….
เห็นมั้ยเจ้าคุณประสาร ใช่ว่าผู้ชายมีเดือย ก็เกณฑ์มาทีละแสนคน-ล้านคน ให้บวชกันง่ายๆอย่าง “วัดพี่-วัดน้อง” ทำ
ด้วยกฎระเบียบ “พวกต้องคดี-มีหมาย-หนีคดี” ถึงเป็นผู้ชาย เขาไม่อนุญาตให้บวชก็บวช เพราะอยู่ในข่าย “บุคคลห้ามบวช”!
ฉันใด-ก็ฉันนั้น……….
สมเด็จช่วง สิทธิ์ตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ สามารถเป็นพระสังฆราชได้
แต่เวลานี้ สมเด็จช่วง “ต้องมลทิน” ทางคดีความ “เรื่องเบนซ์คลาสสิก” ดีเอสไอ ขอสอบปากคำ ก็ยังบ่ายเบี่ยงเลี่ยงเรื่อยมา
ไม่เพียงเท่านั้น ถูกนายไพบูลย์ นิติตะวัน ยื่นเรื่องต่อมหาเถรสมาคม ให้ตรวจสอบในข้อกล่าวหา ……..
“นำเงิน ๑ ล้านบาท จากบัญชีส่วนตัว ไปจ่ายค่าเบนซ์เถื่อน ซึ่งต้องอาบัติร้ายแรงตามพระวินัย”
แถมยังถูกยื่นเรื่องให้ DSI สอบ ฐาน “ผู้ปฏิบัติหน้าที่พระสังฆราช” และประธานมหาเถรสมาคม
แต่มีการกระทำเข้าข่ายปฏิบัติ-ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ “กรณีธัมมชโย” ผิดตามมาตรา ๑๕๗
เนี่ย…สาธุชนทั้งหลาย รวมทั้งเจ้าประสาร ใช้ “จิตตรง” ตอบซิ
ผู้แปดเปื้อนมลทินเช่นนี้ เหมาะสมมั้ย ถูกต้องมั้ย…….
ที่จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อทรงสถาปนาขึ้นเป็น “สมเด็จพระสังฆราช”?
และที่นายกฯ ประยุทธ์พูดว่า
“……….ผมมีหน้าที่นำขึ้นทูลเกล้าฯ แล้วผมทูลเกล้าฯ ในสิ่งที่มีปัญหาได้หรือไม่…?”
กับที่เจ้าประสารพูดว่า
“……………มีเหตุผลอะไร ที่นายกฯ จะไม่ปฏิบัติตาม มีเหตุผลอะไร ที่นายกฯ จะไม่เสนอนามสมเด็จพระราชาคณะที่ถูกเสนอชื่อโดยชอบแล้ว….?”
อย่างไหน “รับฟังได้” กว่ากัน?
และใครบัณฑิต และใครโจร?
จะประทานกราบเรียน “สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์” ในความเห็นผม เดือนหน้า นายกฯสามารถนำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายได้
เพียงแต่ เดือนนี้ พระเดชพระคุณ เข้ารับทราบข้อกล่าวหากับดีเอสไอ คดีเบนซ์เถื่อน เพื่อดีเอสไอรีบสรุปสำนวนส่งอัยการ
ถ้าพระเดชพระคุณบริสุทธิ์ อัยการสั่งไม่ฟ้อง นั่น…นายกฯ สามารถนำ “สิ่งที่ไม่มีปัญหา” ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายได้
จะเป็น “พระสังฆราช”…..
ก็ต้องไม่เป็น “ผู้ต้องหา” ดังนี้แล!