หลวงปู่ฟ้องเจ้าคุณประสารฐานยุยงปลุกปั่นคณะสงฆ์ ประชาชน ต่อต้านรัฐบาล

0
107

หลวงปู่ฟ้องเจ้าคุณประสารฐานยุยงปลุกปั่นคณะสงฆ์ ประชาชน ต่อต้านรัฐบาล
๘ กรกฎาคม ๒๕๕๙

080759-บทความ-หลวงปู่ฟ้องเจ้าคุณประสารฐานยุยงปลุกปั่นคณะสงฆ์

จากพฤติการณ์ในอดีตจนถึงปัจจุบันของเจ้าคุณเมธีธรรมาจารย์ รองอธิการบดีฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแผ่ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ที่ชอบออกมาพูดข่มขู่รัฐบาลมาโพสยั่วยุให้เกิดการต่อต้านอำนาจรัฐ

แม้ล่าสุดวันที่ ๑-๕ ก.ค. ๕๙ ก็ออกมาโพสข้อความยุยง ปลุกปั่นให้คณะสงฆ์ออกมาเคลื่อนไหวด้วยการส่งหนังสือกดดันรัฐบาล นายกรัฐมนตรี โดยการทวงถามตำแหน่งพระสังฆราชให้กับสมเด็จช่วง

โดยมีเนื้อหาบิดเบือนปลุกระดมอย่างชัดเจน ดังเช่นกรณีข้อความที่โพสในวันที่ ๑ ก.ค. ๕๙ ความช่วงหนึ่งว่า

“ขณะนี้มีเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อพระพุทธศาสนาและวงการคณะสงฆ์ คือการดำเนินการแก้ไขพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ มาตรา ๗ ว่าด้วยการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช โดยมหาเถรสมาคมแลคณะสงฆ์ไม่รู้เรื่อง
สถานการณ์คับขันมาก เพราะคณะกรรมการกฤษฎีกากำลังพิจารณาจะให้แล้วเสร็จในต้นเดือนกรกฎาคมนี้ แล้วส่งให้คณะรัฐมนตรีนำเสนอเข้าสภานิติบัญญัติแห่งชาติออกเป็นกฎหมาย

ต่อมาวันที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๕๙ เวลา ๑๔.๑๕ น. เผยแพร่ข้อความว่า

“คณะสงฆ์หวังว่า คณะกรรมการกฤษฎีกาจะวินิจฉัยอย่างตรงไปตรงมา ไม่ขัดแย้งกับกฎหมายและจารีตที่เคยปฏิบัติมา”

วันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๕๙ เวลา ๑๔.๑๐ น. เผยแพร่ข้อความว่า

“จะมีความความเคลื่อนไหวจากองค์กรพุทธแน่นอนหากจะสร้างความแตกแยกให้กับคณะสงฆ์” พร้อมแนบภาพถ่ายพาดหัวข่าวว่า “ขู่เคลื่อนไหวนายกฯตั้งสังฆราช”

วันที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๙ เวลา ๑๐.๕๑ น. เผยแพร่ข้อความว่า

“ภัยทั้งภายในและภายนอกที่กำลังเป็นบ่อนคุกคามพระสงฆ์และพระพุทธศาสนาอยู่ในขณะนี้ บัดนี้มีข่าวถึงการแก้ไข พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.๒๕๐๕ โดยมีความพยายามตีความหมายให้คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงและจารีตประเพณีอันดีงามที่ปฏิบัติกันมาช้านานและพยายามที่จะมีการแก้ไขสาระสำคัญของพ.ร.บ.ฉบับนี้ในมาตรา ๗ ว่าด้วยการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช” พร้อมเผยแพร่ภาพถ่ายหนังสือ เรื่อง การแก้พรบ.คณะสงฆ์ มาตรา ๗ ว่าด้วยการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราช ลงวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๙ มีข้อความตอนหนึ่งว่า “น่าสงสัยว่าผู้แก้กฎหมายมีวาระซ่อนเร้นอะไร ในเมื่อเรื่องนี้มหาเถรสมาคมได้มีมติเป็นเอกฉันท์….การดำเนินการอย่างมีอคติ มีวาระแฝงเร้น จะก่อให้เกิดความแตกแยกในคณะสงฆ์อย่างรุนแรง”

อีกทั้งยังกล่าวอ้างว่ารัฐบาลจะมีการตรวจยึดทรัพย์แก่พระทุกวัด ด้วยการใช้ธรรมกายโมเดลเป็นต้นแบบ และข้อความลักษณะเดียวกันนี้ยังได้ถูกส่งต่อไปยังวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ทำให้คณะสงฆ์ที่ไม่รู้ความจริงเกิดความวิตกกังวล เตรียมที่จะเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาลตามที่พระเมธีธรรมาจารย์ หรือเจ้าคุณประสารชี้นำ
ด้วยพฤติการณ์ของพระเมธีธรรมาจารย์ เป็นการละเมิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๖ มาตรา ๘๔ และ ๘๕

อีกทั้งยังเป็นการฝ่าฝืนประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๘/๒๕๕๗ เรื่องการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่อสาธารณะชน

ข้อ ๕ ฝ่าฝืนเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ส่อให้เกิดความสับสน ยั่วยุ ปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้ง หรือสร้างให้เกิดความแตกแยกในราชอาณาจักร

ด้วยพฤติการณ์เช่นนี้ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๖ กำหนดบทลงโทษจำคุกไม่เกิน ๗ ปี

ส่วนที่เจ้าคุณประสารชอบอ้างว่าจารีตประเพณีในการแต่งตั้งสมณศักดิ์

ถ้าหากจะว่ากันตามจารีตประเพณีธรรมเนียมปฏิบัติในเรื่องการได้มาซึ่งสมณศักดิ์แล้วล่ะก็ ขอบอกว่า

เดิมที่มาของสมณศักดิ์ทุกระดับชั้นล้วนมาจากฆราวาส คือพระเจ้าแผ่นดินทรงพระราชทานให้ ด้วยทรงเห็นว่าผู้ที่จะได้รับพระราชทานสมณศักดิ์นั้นๆ เป็นผู้เหมาะสมด้วยศีล สมาธิ ปัญญา เป็นผู้ทรงธรรมทรงวินัย เป็นที่ศรัทธาของมหาชนและเป็นกำลังของพระราชาได้ในการเผยแผ่คุณธรรมศีลธรรม

เพื่อให้คนในแผ่นดินของพระองค์อยู่ร่วมกันอย่างมีคุณธรรม รักใคร่ปรองดอง
ตามจารีตประเพณีที่มีมาแต่โบราณ พระสงฆ์ไม่อาจขอยศศักดิ์ใดๆ จากฆราวาสได้ นอกจากพวกอลัชชีทะเยอทะยาน อยากใหญ่เท่านั้นที่มักมาก

เมื่อการมอบสมณศักดิ์เป็นสิทธิ์ของฆราวาส คือพระเจ้าแผ่นดิน พระองค์ก็ต้องทรงดำริเพื่อทรงเลือกภิกษุรูปใดที่มีจริยาวัตรงดงาม จากการได้ทรงเห็น ทรงสัมผัสรับรู้ด้วยพระองค์เอง

หรือไม่ก็จากการเทิดทูลของเสนาบดีที่ทำงานต่างพระเนตรพระกรรณ ที่ถวายรายงานถึงวัตรปฏิบัติของพระภิกษุผู้ทรงศีลทรงธรรม ที่มีจริยาวัตรดีงาม เป็นที่ยอมรับของมหาชน หรือพระภิกษุผู้เป็นเอตทัคคะเลิศในด้านใดด้านหนึ่ง ที่ราชสำนักจักเห็นว่าเป็นประโยชน์แก่การบริหารราชการแผ่นดิน จึงยกภิกษุนั้นให้ดำรงตำแหน่ง เหล่านี้คือโบราณประเพณี

แต่เจ้าคุณประสารและพวกก็พยายามอ้างประเพณีที่ตนคิดว่าจักเป็นประโยชน์แก่ฝ่ายตนโดยไม่คำนึงถึงความเป็นจริง ผิดวินัยของสมณะผู้สละวาง ปล่อยเว้น
อาตภาพจึงมาขอแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อเจ้าพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามให้ดำเนินคดีกับพระเมธีธรรมาจารย์ ในฐานความผิดละเมิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๖ ๘๕ ๘๔ และฝ่าฝืนคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๘/๒๕๕๗ ข้อ ๕ และกฎหมายอาญาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องให้ถึงที่สุด

พุทธะอิสระ

แหล่งข่าวประกอบ
https://daily.khaosod.co.th/view_news.php…
https://www.dailynews.co.th/education/506786
https://www.thairath.co.th/content/654747
https://www.winnews.tv/news/5038