คนมันจะจับผิด แม้แต่ตดก็ผิด
๔ กรกฎาคม ๒๕๕๙
Rapin Patan ขอความกรุณาหน่อยเสื้อกั๊กกันหนาวเนี้ยพระใส่ได้เพื่อให้ความอบอุ่นร่างกายไม่ได้ผิดวินัยอะไรแต่…ไม่สมควรที่จะใส่โชว์ออกสื่อแต่ถ้ามันหนาวมากจนทนไม่ไหวก็ควรเอาผ้าจีวรมาห่มทับจะได้ไม่ดูเหมือนชาวบ้านทั่วไปอย่างนี้ถ้าเด็กๆมันดูอยู่มันจะรู้ไหมว่านี้คือพระหรือเปล่าปากนี้พูดมาตลอดว่าฉันแม่นวินัยแต่ทำแบบนี้มันออกแนวโลกวัชชะ..เข้าใจไหมสุวิท
Bunpot Prakarnrat พระคุณเจ้านุ่งห่มถูกต้องตามพระวินัย หรือเปล่าครับ
Parda Mechant ขอความรู้หน่อย เป็นพระแต่งตัวแบบนี้ได้ไหม ใครมีความรู้ช่วยหน่อย
————————————————–
ขอบคุณนะที่ท่านทั้งหลายคอยตักเตือนนักบวชปุถุชนคนธรรมดาอย่างฉัน
เมื่อเป็นนักบวชปุถุชนคนธรรมดาแบบลูกชาวบ้านๆ ไม่ได้เป็นต้นธาตุต้นธรรมอวตารลงมาเป็นผู้ปราบ ที่ทำอะไรก็ไม่ผิดแม้กระทั่งแต่งกายด้วยชุดแบบนี้ (ตามรูป)
แต่นักบวชลูกชาวบ้านอย่างฉัน พอพลาดผิดนิดหน่อยมันดูขัดลูกตา ชวนน่ารังเกียจอย่างที่พวกคุณๆ ตำหนิมา
ถึงฉันจะนุ่งห่มไม่เรียบร้อย เผลอไผลพลั้งพลาดไปบ้าง แต่ไม่ถึงกับเป็นนักบวชเลวชาติสะสมทรัพย์สมบัติ ยักยอก ฉ้อโกง ทรัพย์สินชาวบ้านมาเป็นของตน
และฉันไม่เคยต้องคดียักยอกทรัพย์ถึง ๕๒ คดี ใน ๑๗ ปีที่ผ่าน
และฉันไม่เคยถูกพระสังฆราชองค์ใดโจทก์ด้วยอาบัติปาราชิกและทำอนันตริยกรรม
และฉันไม่เคยแหกตาหลอกเงินชาวบ้านให้ทำบุญจนกระทั่งหมดเนื้อหมดตัว
และฉันไม่เคยสั่งให้บริวารไปไล่โทรจิกทวงเงินชาวบ้านให้บริจาคเงินผ่อนบุญ
และฉันไม่เคยอวดอ้างตนเองว่าเป็นผู้วิเศษ รู้การเกิดการตายของใครๆ แม้แต่สตีฟ จ๊อบส์
และไม่เคยออกเดินธุดงค์อีเว้นท์โฆษณาโปรโมทตัวเองเพื่อหาเงิน
และไม่เคยออกเดินเรี่ยไรไปทั่วประเทศ ทั้งที่รู้ว่าผิดกฎหมาย
และฉันไม่เคยมักมากอยากได้ แสวงหาลาภสักการะด้วยการทุ่มเงินจัดซื้อจัดจ้างพวกพ้องเอาไว้คุ้มกะลาหัวตัวเองและแสวงยศถาบรรดาศักดิ์
และฉันไม่เคยย่ำยีพระธรรมวินัย พระไตรปิฎกว่าบกพร่อง
ไม่เคยตีเสมอพระพุทธเจ้า จาบจ้วงดูหมิ่นพระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วยังไม่รู้จักมาร
แม้พุทธะอิสระมีพฤติกรรมที่ไม่สำรวมกาย ไม่สำรวมวาจา จนเป็นเหตุให้ชาวโลกติเตียน เป็นโลกวัชชะ
แต่ก็ไม่เคยเลวระยำถึงกับต้องอาบัติปาราชิกหลายสิกขาบทดั่งเจ้าลัทธิของพวกคุณ
พุทธะอิสระอาจจะพูดไร้มารยาท เถื่อนถ่อย ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน
แต่ผู้อื่นที่พุทธะอิสระด่าว่านั้นล้วนเป็นคนชั่ว คนเลว พวกมิจฉาทิฏฐิ ที่ย่ำยีพระธรรมวินัยและทำร้ายบ้านเมือง
และถึงฉันจะแต่งตัวไม่เรียบร้อย แต่ก็ไม่เคยเป็นพวกหน้าตัวเมีย หลบๆ แอบๆ อยู่ใต้กระโปรงสาวก เวลามีใครแจ้งความฟ้องร้องก็เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาทุกครั้ง ไม่เคยหวาดกลัวสะดุ้งผวา
ส่วนเรื่องการที่ฉันออกมาสู้รบกับพวกอลัชชีที่กินรวบพระธรรมวินัย เหตุการณ์แบบนี้ก็ไม่ใช่ไม่เคยมีมาก่อน แม้ในอดีตซึ่งมีปรากฏอยู่ในบทพุทธมนต์พาหุงฯ ซึ่งก็ใช้สวดสาธยายกันอยู่ประจำ
———————————————-
สมเด็จพระผู้มีพระภาค ผู้เป็นจอมของนักปราชญ์ ทรงชนะพญามารพร้อมด้วยเสนา ซึ่งเนรมิตแขนได้ตั้งพัน มีมือถืออาวุธครบทั้งพันมือ ขี่ช้างคิรีเมขล์ ส่งเสียงสนั่นน่ากลัว ทรงชนะด้วยธรรมวิธีมีทานบารมี เป็นต้น
สมเด็จพระผู้มีพระภาค พระจอมมุนีทรงชนะสัจจกนิครนถ์ ผู้เชิดชูลัทธิของตนว่าจริงแท้อย่างเลิศลอย ราวกับชูธงขึ้นฟ้า ผู้มุ่งโต้วาทะกับพระองค์ ด้วยพระปัญญาอันเป็นเลิศดุจประทีปอันโชติช่วง ด้วยเทศนาญาณวิถี
สมเด็จพระผู้มีพระภาค พระจอมมุนีทรงชนะพรหม ชื่อ ท้าวพกะ ผู้รัดรึงทิฏฐิ คือ ความเห็นผิดไว้แนบแน่น โดยสำคัญผิดว่าตนบริสุทธิ์มีฤทธิ์รุ่งโรจน์ ด้วยวิธีวางยาอันวิเศษ คือ เทศนาญาณ
สมเด็จพระผู้มีพระภาค พระจอมมุนีทรงชนะพญานาคชื่อนันโทปนันทะ ผู้หลงผิดและมีฤทธิ์มาก ด้วยทรงแนะนำวิธี และ อิทธิฤทธิ์แก่พระโมคคัลลานะ พระเถระภุชงค์ พุทธบุตร ให้ไปปราบจนเชื่อง
———————————————-
พวกที่หยิบเอาโอวาทปาฏิโมกข์มาเปรียบกับพุทธะอิสระอยู่ตลอดเวลา เพื่อจะให้สังคมเห็นว่าพุทธะอิสระนี้มันเป็นคนเลวชาติเสียเหลือเกิน แม้พระธรรมคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้ามันยังไม่ปฏิบัติตาม
พุทธะอิสระขอบอกว่า ขอน้อมยอมรับความผิดทุกประการ
หากพุทธะอิสระออกมากำจัดพวกเหล่าอลัชชีย่ำยีพระธรรมวินัยและทำร้ายแผ่นดินกินรวบประเทศไทย แล้วมันจะเป็นความผิดชั่วบาป
พุทธะอิสระก็พร้อมยอมรับด้วยความภาคภูมิใจที่ในชีวิตนี้ไม่ได้อยู่อย่างไร้ค่า
ถ้าฉันชั่วผิดบาปแล้วทำให้พระวินัยกลับมาสะอาดปลอดภัย แผ่นดินไทยมั่นคงรุ่งเรือง แม้พุทธะอิสระจะตกนรกหมกไหม้ ก็คุ้มและภาคภูมิที่ได้ทำ
ขอบคุณนะที่ช่วยชี้ขุมทรัพย์ ตำหนิติชมด้วยความรู้สึกห่วงใยในภาพลักษณ์ของฉัน
แต่อยากบอกว่า อย่ามาเสียเวลาห่วงฉันอยู่เลย เอาเวลาที่เหลือไประดมหัวคิดหาวิธีช่วยลูกพี่อลัชชีให้รอดจากมาตรา ๔๔ จะดีกว่าไหม
อันที่จริงการใส่อังสะกันหนาว ฉันก็ใส่มาตั้งแต่วันบวชวันแรกๆ แล้ว ใส่อยู่ทุกวันโดยเฉพาะในฤดูฝนกับฤดูหนาว
เพราะปอดฉันไม่แข็งแรง (แต่ก็ไม่เคยปอดแหกนะจ๊ะ) เป็นภูมิแพ้ มีเสมหะมาก
ส่วนที่ใส่โดยไม่มีจีวรห่มทับ ก็เพราะเป็นที่อยู่เฉพาะตน และเป็นอิริยาบถที่กำลังทำงาน ไม่ได้อยู่ในที่รโหฐานหรือออกรับแขก
ที่ต้องใส่เครื่องกันหนาวอยู่ข้างนอกอังสะก็เพราะอังสะกันหนาวมันเป็นไหมพรหม ใช้มานาน หากใส่ให้แนบเนื้อมันจะรู้สึกคันตัว ระคายเคือง เลยสวมทับอังสะ จึงดูไม่งามในสายตาผู้พบเห็น
อีกทั้งเจ้าแป๊ะเขาอยากนำเสนออิริยาบถที่สบายๆ ของฉันในขณะทำงานแล้วพูดคุยสัพเพเหระ ปกิณกะให้คนฟัง เขาก็แนะนำว่าเพื่อให้บรรยากาศดูสบายๆ แก่ผู้คนที่รับชม
ฉันก็ผิดเองที่ไม่ระวัง ไม่สำรวม ไม่รักษาภาพ
อาจเป็นเพราะคิดว่าเรากำลังอยู่ในที่พักของเรา คงไม่มีใครเขามาจับผิด เลยไม่ได้ระวังว่ามันจะมีพวกสาวกอลัชชีมาจ้องจับผิดเราอยู่ในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้
อันที่จริงก็เป็นสิ่งที่อธิบายได้ตามหลักพระธรรมวินัย
เพราะหากจะถือตามพระวินัยแล้ว ภิกษุไม่ต้องสวมอังสะก็ยังได้
ด้วยเพราะผ้าที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้ภิกษุใช้มีอยู่แค่ ๓ ผืน คือ ผ้านุ่ง(สบง) ผ้าห่ม(จีวร) ผ้าห่มซ้อนนอกในเวลาหนาว(สังฆาฏิ) และจะมีอนุญาตพิเศษคือผ้าอาบน้ำฝน ให้ใช้เฉพาะฤดูฝน
ฉะนั้นอังสะจึงเป็นผ้าที่กำหนดขึ้นมานอกวินัย ถ้าฉันจะเปลือยอกไม่สวมอังสะก็มิได้ผิดอะไร
แต่ก็มีพระวินัยว่า ภิกษุห้ามนุ่งห่มผ้าอย่างคฤหัสถ์ ทำเช่นนั้นต้องอาบัติทุกกฎ
และในเสขิยวัตร หมวดสารูป ว่าด้วยกิริยามารยาทที่ควรประพฤติในเวลาเข้าไปในละแวกบ้าน กำหนดว่า ภิกษุต้องปกปิดกายด้วยดี นุ่งให้เป็นปริมณฑล (เบื้องบนปิดสะดือ เบื้องล่างปิดเข่า ไม่ห้อยหน้าห้อยหลัง) ห่มให้เป็นปริมณฑล(ให้ชายผ้าเสมอกัน) จึงเข้าไปในละแวกบ้าน
แต่ไม่ว่าอะไร ฉันก็รู้สึกว่ามันไม่ควรอยู่ดีที่นุ่งห่มไม่เรียบร้อยแล้วออกอากาศเผยแพร่
อ้อ แล้วอย่าลืมไปจับผิดคนๆ นี้ด้วยนะ
เพราะฟอร์มนี้ไม่เคยเห็นในพระธรรมวินัยมาก่อนนะจ๊ะ
โดยเฉพาะยิ่งเวลาแสดงธรรมด้วยมีพระวินัยห้ามไว้ว่า
ห้ามใส่รองเท้า ห้ามสวมหมวก ถือว่าไม่เคารพในพระธรรมของพระผู้มีพระภาคเจ้าและผู้ฟัง มีมาใน
———————————————-
พระวินัยปิฎกเล่มที่ ๕ มหาวรรคภาค ๒ เรื่อพระฉัพพัคคีย์ทรงจีวรสีครามล้วน ความว่า
[๑๖๙] ก็โดยสมัยนั้นแล พระฉัพพัคคีย์ทรงจีวรสีครามล้วน ทรงจีวรสีเหลืองล้วน
ทรงจีวรสีแดงล้วน ทรงจีวรสีบานเย็นล้วน ทรงจีวรสีดำล้วน ทรงจีวรสีแสดล้วน ทรงจีวรสี
ชมพูล้วน ทรงจีวรที่ไม่ตัดชาย ทรงจีวรมีชายยาว ทรงจีวรมีชายเป็นลายดอกไม้ ทรงจีวรมีชาย
เป็นแผ่น สวมเสื้อ สวมหมวก ทรงผ้าโพก ประชาชนพากันเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า
เหมือนพวกคฤหัสถ์ผู้บริโภคกาม ภิกษุทั้งหลายจึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค.
พระผู้มีพระภาคตรัสห้ามว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงทรงจีวรสีครามล้วน ไม่พึง
ทรงจีวรสีเหลืองล้วน ไม่พึงทรงจีวรสีแดงล้วน ไม่พึงทรงจีวรสีบานเย็นล้วน ไม่พึงทรงจีวรสีดำ
ล้วน ไม่พึงทรงจีวรสีแสดล้วน ไม่พึงทรงจีวรสีชมพูล้วน ไม่พึงทรงจีวรที่ไม่ตัดชาย ไม่พึงทรง
จีวรมีชายยาว ไม่พึงทรงจีวรมีชายเป็นลายดอกไม้ ไม่พึงทรงจีวรมีชายเป็นแผ่น ไม่พึงสวมเสื้อ
ไม่พึงสวมหมวก ไม่พึงทรงผ้าโพก รูปใดทรง ต้องอาบัติทุกกฏ.
———————————————-
แม้แต่การยืนแสดงธรรมแก่ผู้ฟังที่เป็นไข้ ก็ต้องอาบัติทุกกฎ ตามบทที่ว่าด้วยเสขิยวัตร หมวดธรรมเทศนาปฏิสังยุต
รวมความว่าการที่พวกคุณๆ ทั้งหลายมีเมตตา กรุณา คอยจ้องจับผิดฉัน
สำหรับฉันถือว่าเป็นการชี้ขุมทรัพย์ ที่ทำให้ฉันรู้สึกเพื่อการเปลี่ยนแปลงนิสัยแก้ไขพฤติกรรมในโอกาสต่อไป
แต่ต้องเตือนด้วยจิตที่หวังดีและเอ็นดูนะจ๊ะ
หากเตือนด้วยจิตคิดจะใส่ร้าย ใส่ความ เช่นนั้นคงต้องเจอกันในศาลนะจ๊ะ
พุทธะอิสระ