กฎหมายอย่างนี้ซิ ถึงจะเรียกว่าปฏิรูปวงการคณะสงฆ์และกิจการพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง
๒ กรกฎาคม ๒๕๕๙
วันที่ ๗ สิงหาคม ๕๙ ที่จะถึงนี้จะเป็นวันที่คนไทยผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกคนออกไปแสดงสิทธิใช้เสียงของตนต่อการเลือกทิศทางประเทศไทย ว่าจะช่วยกันนำพาประเทศไปสู่กระบวนการปฏิรูปหรือไม่
เท่าที่ทราบรัฐธรรมนูญฉบับยกร่างของคุณมีชัยนี้ ดูจะเป็นยาขมปี๋ ยาแรง สำหรับพวกนักการเมืองยิ่งนัก แต่เป็นยาหวาน ยาสุขุม สำหรับประชาชน
โดยเฉพาะหมวด ๓ ที่ว่าด้วย สิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทย
มาตรา ๓๑ “บุคคลย่อมมีเสรีภาพบริบูรณ์ในการถือศาสนาและย่อมมีเสรีภาพในการปฏิบัติหรือประกอบพิธีกรรมตามหลักศาสนาของตน แต่ต้องไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อหน้าที่ของปวงชนชาวไทย ไม่เป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของรัฐ และไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน”
มาตรานี้มีอยู่ในรัฐธรรมนูญฉบับปี ๔๐ และปี ๕๐
แต่รัฐธรรมนูญทั้ง ๒ ฉบับที่ผ่านมาไม่มีมาตรา ๖๗ ที่ช่วงหนึ่งเขียนว่า
มาตรา ๖๗ “รัฐพึงอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่น
ในการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาอันเป็นศาสนาที่ประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่นับถือมาช้านาน รัฐพึงส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาและการเผยแผ่หลักธรรมของพระพุทธศาสนาเถรวาทเพื่อให้เกิดการพัฒนาจิตใจและปัญญา และต้องมีมาตรการและกลไกในการป้องกันมิให้มีการบ่อนทําลายพระพุทธศาสนาไม่ว่าในรูปแบบใด และพึงส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนมีส่วนร่วมในการดําเนินมาตรการหรือกลไกดังกล่าวด้วย”
สรุปว่ารัฐธรรมนูญฉบับยกร่างของคุณมีชัยเขียนกำหนดให้รัฐต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการศึกษาและเผยแผ่ตามหลักธรรมวินัยของเถรวาท หรือหินยาน
ซึ่งเป็นหลักธรรมวินัยดั้งเดิมที่สืบทอดกันมาตั้งแต่มีการทำปฐมสังคายนาครั้งแรก
อีกทั้งรัฐยังต้องมีหน้าที่ช่วยเหลือสนับสนุนให้มีการศึกษาและเผยแผ่หลักธรรมวินัยของพระพุทธเจ้าให้ถูกตรงจนมีการพัฒนาจิตใจและปัญญาของพุทธบริษัทอย่างเต็มที่
และรัฐยังต้องมีหน้าที่หามาตรการกลไกในการป้องกันมิให้มีการบ่อนทำลายพระพุทธศาสนาไม่ว่าจะรูปแบบใด
อ่านกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับยกร่างมาตรานี้แล้วฉันหายเหนื่อย ไม่เสียแรงที่ทุ่มเทต่อสู้มาร่วม ๓ ปี
ต่อไปนี้หากพุทธบริษัทท่านใดเห็นอลัชชีเข้ามาเกาะกินพระธรรมวินัย ด้วยอาศัยอำนาจของรัฐธรรมนูญมาตรานี้หากถูกประกาศใช้ ช่วงท้ายเขียนไว้ว่า
รัฐพึงส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนมีส่วนร่วมในการดำเนินมาตรการหรือกลไกในการป้องกันมิให้มีการบ่อนทำลายพระธรรมวินัยดังกล่าว
พุทธบริษัททุกคนก็จะสามารถร้องทุกข์กล่าวโทษด้วยตนเองแก่พวกที่บิดเบือนพระธรรมวินัย จาบจ้วงพระบรมศาสดา ทำลายพระพุทธศาสนา
พระธรรมวินัยนี้จะบริสุทธิ์ สะอาด ผ่องแผ้ว ปราศจากขยะฝุ่นธุลี ไม่มีอลัชชีเข้ามาเกาะกินได่อีกต่อไป
สาธุ สาธุ ขอบคุณคสช. ขอบคุณรัฐบาล ขอบคุณคณะยกร่างรัฐธรรมนูญและคุณมีชัย
ที่ทำให้การต่อสู้ครั้งนี้ของเวทีแจ้งวัฒนะมีความหมาย สามารถพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินได้มากขนาดนี้
ขอบคุณ ขอบคุณมากๆ
พุทธะอิสระ
ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ มาตรา ๖๗ ได้ที่
https://ilaw.or.th/node/4080
นับถอยหลังประชามติ รธน.: วิวาทะว่าด้วยเรื่อง “ศาสนา” ในรัฐธรรมนูญ