๙ คำถามที่รำคาญที่จะตอบ

0
93

๙ คำถามที่รำคาญที่จะตอบ
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๙
300659-บทความ-๙-คำถามที่รำคาญที่จะตอบ
๒ ปีกว่าที่ผ่านมา มีชาวบ้านและนักข่าวทั้งไทยและเทศชอบมาตั้งคำถามที่ซ้ำซากจนฉันรู้สึกรำค้านรำคาญที่จะตอบ จึงขอตอบสั้นๆ ด้วยความรำคาญว่า
๑. ทำไมท่านต้องออกไปเป็นแกนนำเวที
ตอบ เพราะมีนักการเมืองทรราชจับมือกับอลัชชีชั่วกำลังกินรวบประเทศไทย
๒. ท่านไม่กลัวจะทำผิดหน้าที่หรือ
ตอบ ไม่กลัว เพราะฉันกำลังทำหน้าที่ของพุทธบริษัทและหน้าที่ของลูกไทยหลานไทยที่ต้องตอบแทนคุณแผ่นดิน หน้าที่ที่คนไทยทุกคนควรจะทำแล้วไม่มีใครทำ ฉันจึงต้องทำเพราะจิตใจฉันไม่ด้านพอที่จะดูเฉยๆ ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่ามันผิด
๓. สิ่งที่ท่านทำไม่กลัวว่าจะมีผลเสียย้อนกลับมากระทบต่อท่านดอกหรือ
ตอบ ไม่กลัว หากสามารถตอบแทนคุณชาติ คุณพระศาสนา และคุณสถาบันพระมหากษัตริย์ได้ ต่อให้ต้องตายก็ยอม
๔. มีคำร่ำลือกันในโลกโซเชี่ยลว่าการที่ท่านกล้าออกมาฟาดฟันกับนักการเมืองและธรรมกายได้เช่นนี้ ท่านต้องมีแบคดีหนุนหลัง
ตอบ มี ฉันมีกำลังใจจากแม่ และคำสอนของบรรพบุรุษ ที่สอนให้ฉันมีชีวิตอยู่เพื่อทำประโยชน์ตนและประโยชน์ท่านให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาท และมีกำลังหนุนจากพี่น้องไทยผู้มีหัวใจรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ผู้มีอุดมการณ์เดียวกัน
๕. ผมหมายถึงแบคที่เป็นสถาบันและทหาร
ตอบ สถาบันทรงกระทำและพร่ำสอนให้คนไทยทุกคนต้องรู้จักทำหน้าที่อย่างซื่อตรง และพอเพียงเหมาะสมตามสถานะของตน พร้อมเสียสละประโยชน์สุขส่วนตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม
คนไทยผู้มีหัวใจซื่อตรง รับผิดชอบต่อหน้าที่ ย่อมน้อมนำเอาพระราชจริยวัตร พระราชดำรัส มาเป็นบรรทัดฐานในการดำเนินชีวิตอยู่แล้ว ไม่เห็นจะเสียหายตรงไหน
ส่วนทหารในหลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม ไฟไหม้ ฝนแล้ง โรคระบาด คนไทยมีอันตราย แผ่นดินมีภัย ทหารก็เข้าไปช่วยเหลือโดยไม่หวังผลตอบแทน ไม่เคยเรียกร้องคะแนนเสียง
ฉะนั้นการที่ฉันจะชื่นชมทหาร มันจะเสียหายตรงไหน
แต่ถ้าจะให้ตอบด้านกายภาพก็ขอตอบตรงๆ ว่า คนอย่างพุทธะอิสระเมื่อตัดสินใจไปเป็นพญาราชสีห์แห่งเวทีแจ้งวัฒนะ หากจำเป็นต้องสู้เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ แม้ไม่มีแบค ก็จะสู้
๖. ท่านไม่กลัวหรือว่า เมื่อหมดยุครัฐบาลคสช.แล้ว จะเกิดผลกระทบต่อตัวท่านอย่างรุนแรง
ตอบ พุทธะอิสระ หากกลัว ก็ไม่ไปเป็นพญาราชสีห์แห่งเวทีแจ้งวัฒนะหรอก
คนอย่างฉัน นั่งไม่เปลี่ยนชื่อ ยืนไม่เปลี่ยนแซ่
ฉันไม่ใช่จิ้งจกตุ๊กแก ที่จะต้องเปลี่ยนสี เปลี่ยนท่าทีเพื่อความอยู่รอด
๗. มีคนเขาตำหนินินทาต่อบทบาทของท่าน ที่ทำไม่เหมือนกับพระรูปอื่นในเมืองไทย
ตอบ อาจเป็นเพราะฉันรักชาติ รักศาสนา รักสถาบันพระมหากษัตริย์มากเกินไป มากยิ่งกว่าชีวิตฉัน ฉันจึงไม่อาจจะนั่งนิ่งดูดายปล่อยให้ทรราชจับมือกับอลัชชีธรรมกาย กินรวบประเทศไทยต่อไปได้
ส่วนนักบวชคนอื่นๆ ที่นั่งอยู่เฉยๆ ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่รัก แต่คงจะกลัวอันตราย กลัวลำบาก กลัวอยู่ยากในอนาคต และสุดท้าย กลัวตาย
๘. ธรรมกายมีสาวกมาก มีเงินมาก มีอิทธิพลมาก การที่ท่านคนเดียวออกมาต่อกรกับเขา ท่านไม่กลัวหรือ
ตอบ หากธรรมกายมีสาวกมาก มีเงินมาก มีอิทธิพลมาก แล้วเป็นผู้ซื่อตรงต่อพระธรรมวินัย กลับเป็นเรื่องน่ายินดี
แต่ธรรมกายมิใช่ศาสนาพุทธ เป็นแต่เพียงหยิบยืม แอบอ้างเอาคำสอนและรูปแบบบางอย่างของพุทธไปใช้เพื่อเป็นเครื่องมือหากินเท่านั้น
มิหนำซ้ำยังบิดเบือนคำสอน บัญญัติในสิ่งที่พระพุทธเจ้ามิได้บัญญัติ จาบจ้วงพระธรรมวินัย กล่าวตู่พระพุทธเจ้า
เมื่อเป็นเช่นนี้ ต่อให้ธรรมกายมีสาวกเต็มโลก มีเงินล้นฟ้า มีอิทธิพลมหาศาล ฉันก็จะสู้
และฉันมิได้ต่อสู้อยู่คนเดียว ฉันยังมีพี่น้องไทยผู้มีหัวใจรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ร่วมสู้กับฉันด้วย
และที่ถามว่าฉันกลัวไหม ตอบว่า คนอย่างพุทธะอิสระไม่เคยสะดุ้งผวาหวาดกลัวต่อความเท็จและพวกขี้เท็จ เพราะฉันมีอาวุธคือความจริง มีสัมมาทิฏฐิอยู่กับตัว แล้วจะไปกลัวอะไรกับพวกมิจฉาทิฏฐิ
๙. เห็นท่านเที่ยวไปฟ้องร้องคนนั้นคนนี้ ท่านไม่ห่วงภาพลักษณ์ของท่านบ้างหรือ
ตอบ ถ้าฉันไม่ทำ แล้วใครจะทำ
เพราะฉันทำ วันนี้พวกลัทธิธรรมกายจึงไม่กล้าออกเดินเรี่ยไรทั่วประเทศ
เพราะฉันทำ วันนี้คนไทยจึงไม่เห็นการเดินธุดงค์อีเว้นข้างถนน ที่บิดเบือนวัตรปฏิบัติของการธุดงค์
เพราะฉันทำ วันนี้สังคมจึงได้รับรู้ความวิปริตของลัทธิอลัชชีนี้ไง
คนอย่างพุทธะอิสระ พญาราชสีห์แห่งเวทีแจ้งวัฒนะไม่เคยห่วงภาพลักษณ์ แต่ห่วงพระธรรมวินัยและแผ่นดินไทยมากกว่า
ฉันเป็นคนไม่มีต้นทุนอยู่แล้ว และชั่วชีวิตฉันไม่ได้เป็นอยู่เพื่อให้ใครไหว้ ขอแค่ได้มีโอกาสไหว้ตัวเอง บูชาตัวเองได้อย่างสนิทใจ ก็เพียงพอแล้ว
ส่วนใครจะไหว้หรือไม่ไหว้ ฉันจะไปบังคับเขาให้มายอมรับได้อย่างไร
ชั่วชีวิตฉัน ถ้ามีชีวิตอยู่แล้วไม่ภาคภูมิ ก็ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม
พุทธะอิสระ