เอาตำแหน่งสังฆราชคืนมา
๒๓ มิถุนายน ๒๕๕๙
เตือนกฤษฎีกาอย่าประวิงเวลาตีความม.7ตั้งสังฆราช
เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาฯ เตือนกฤษฎีกา อย่าทอดเวลาตีความมาตรา 7 สถาปนาสังฆราช ในพ.ร.บ.คณะสงฆ์ ขณะที่เครือข่ายชาวพุทธ รอคำวินิจฉัย เชื่อหากวินิจฉัยออกมาขัดจารีต การปกครองคณะสงฆ์ หลายองค์กรจะออกมาโต้แย้ง
พุธที่ 22 มิถุนายน 2559 เวลา 15.37 น.
วันนี้(22 มิ.ย.)พระเมธีธรรมาจารย์ (ประสาร จนฺทสาโร) เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการกฤษฎีกา ดำเนินการตีความมาตรา 7 การสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช ในพ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2535 ว่า คณะสงฆ์ห่วงใยการตีความมาตรา 7 เนื่องจากเจตนาของผู้ยื่นให้ตีความนั้น มีความชัดเจนที่ต้องการตีความทางด้านกฎหมาย เพื่อให้มีปัญหาและให้เกิดความขัดแย้งภายใน โดยไม่ได้คำนึงถึงเจตนารมณ์ของพ.ร.บ.คณะสงฆ์ และจารีตประเพณีที่เคยปฏิบัติมา ซึ่งที่ผ่านมาคณะสงฆ์เองก็ไม่เคยคิดว่า จะมีคนคิดแบบนี้ เพราะเจตนารมณ์มาตรา 7 ก็ชัดเจนได้ระบุถึงหน้าที่และวิธีการปฏิบัติไว้อย่างชัดเจน
พระเมธีธรรมาจารย์ กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาการเสนอนามสมเด็จพระราชาคณะ เพื่อสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช ก็เริ่มต้นจากมหาเถรสมาคม(มส.) ที่จะให้คณะสงฆ์ปกครองกันเอง ภายใต้พ.ร.บ.ฉบับนี้ เพราะฉะนั้นหากจะให้นายกรัฐมนตรี มาเสนอนามสมเด็จพระราชาคณะ เพื่อสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช ก็ผิดเจตนารมณ์ของกฎหมาย จารีตประเพณี ซึ่งไม่ว่าขณะนี้ หรือในอนาคต นายกรัฐมนตรี จะรู้ได้อย่างไรว่า สมเด็จพระราชาคณะ มีรูปไหนบ้างอย่างไร รูปไหนปฏิบัติศาสนกิจเช่นไร โดยเรื่องนี้เป็นเรื่องการปกครองภายในของคณะสงฆ์
“ไม่คิดเลยว่า ผู้ตรวจการจะรับเรื่องแล้วส่งให้กฤษฎีกาตีความ และกฤษฎีกาเองตั้งแต่ได้รับเรื่องจนกระทั่งถึงวันนี้ ก็ยังทอดเวลามายาวนาน ไม่ชัดเจนว่าจะตีความเมื่อไหร่รวมทั้งจะได้ข้อสรุปวันไหน ปัญหาที่เกิดขึ้นควรจะได้ข้อยุติโดยเร็ว พอมีเรื่องทางคณะสงฆ์เกิดขึ้นทีกฤษฎีกาก็ออกมาบอกว่า ภายในสัปดาห์นี้ก็จะตีความแล้ว ดังนั้น เครือข่ายชาวพุทธได้หารือกันแล้วว่า จะรอคำวินิจฉัยของกฤษฎีกาว่าจะออกมาอย่างไร แต่หากวินิจฉัยออกมาตามเจตนารมณ์เดิมของกฎหมาย จารีตที่ปฏิบัติมา ทางรัฐบาลเอง ก็ควรเร่งดำเนินการไม่ให้ล่าช้า ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายได้มองเห็นภัยของความล่าช้าว่า เกิดวิกฤติอย่างไร แต่หากฤษฎีกา วินิจฉัยออกมาว่าเห็นตามผู้ยื่น จะเกิดปัญหาใหญ่ในคณะสงฆ์อย่างแน่นอน และเชื่อว่าจะมีหลายองค์กรออกมาโต้แย้งเรื่องนี้” เลขาธิการศูนย์พิทักษ์ฯ กล่าว
https://www.dailynews.co.th/education/504233
——————————————-
นานๆ จะโผล่ออกมาซักที นึกว่าจะมีทีเด็ดอะไร
สุดท้ายเฮียแกก็โผล่มาทวงตำแหน่งสังฆราชให้สมเด็จช่วงนี่เอง
ไม่รู้เฮียแกความจำเสื่อมหรือว่าแกหูหนวกตาบอด สมองพิการ กันแน่
เฮียไม่รู้หรือไงว่า ว่าที่สังฆราชของเฮียยังตกเป็นผู้ต้องสงสัยพัวพันในคดีครอบครองรถหรูหนีภาษี อยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ
แล้วใจคอเฮียจะให้ตั้งผู้ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้เป็นสังฆราชทีเดียวหรือ
หรือเฮียจะเร่งให้ตั้งเพื่อให้ไปช่วยเจ้าลัทธิอลัชชีธรรมกายแล้วนำมาเก็บเอาไว้ไหว้เองกลุ่มเดียว
เพราะถ้าจะให้พุทธบริษัททั้งประเทศเขายกมือไหว้พระสังฆราชที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีครอบครองรถหรูหนีภาษี เขาคงไม่ไหว้แน่
หากไม่เชื่อเฮียลองทำแบบสอบถามไปไล่แจกพุทธบริษัททุกคนดูว่า เขาจะยอมรับสังฆราชที่มีมลทินไหม
โถ นานๆ คนระดับเจ้าคุณ รองอธิการบดีมจร. ออกมาโพสทั้งที นึกว่าจะให้สติปัญญาแก่สานุศิษย์และสังคม
ดันออกมาโพสทวงตำแหน่งสังฆราช
ถามจริงเถิดเฮีย ในสมองพวกเฮียคิดได้แค่นี้จริงๆ น่ะหรือ
เรื่องให้ปัญญา ชี้ถูกชี้ผิดตามหลักธรรมวินัยคิดกันไม่ได้หรือเฮีย
เอางี้ไหมเฮีย เห็นเฮียเคยเชียร์ลัทธิธรรมกายอยู่
ขนาดไปชุมนุมที่พุทธมณฑลยังมีทนายธรรมกาย โฆษกธรรมกาย และสาวกธรรมกายไปร่วมด้วย ให้ทั้งกำลังหนุน ทั้งทุน ทั้งคน
เมื่อเฮียแสดงพฤติกรรมยอมรับลัทธิธรรมกายอย่างชัดเจนเช่นนี้
เฮียก็รอให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ก่อนแบบที่พวกสาวกธรรมกายเรียกร้อง แล้วจึงตั้งสังฆราช ดีไหม
ส่วนตอนนี้บ้านเมืองยังไม่เป็นประชาธิปไตย พวกเฮียก็รอๆ ไปก่อน โอเคไหม
พุทธะอิสระ