จัดให้ท่านเจ้าคณะจังหวัดปทุมฯ อีกซักดอก

0
436

จัดให้ท่านเจ้าคณะจังหวัดปทุมฯ อีกซักดอก
๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๙

150659-บทความ-จัดให้ท่านเจ้าคณะจังหวัดปทุมฯ-อีกซักดอกในฐานะที่ท่านเป็นเจ้าคณะจังหวัด เป็นผู้ปกครองคณะสงฆ์ในจังหวัดปทุมธานี มีอำนาจหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕

มาตรา ๒๐ คณะสงฆ์ต้องอยู่ภายใต้ปกครองของมหาเถรสมาคม การจัดระเบียบการปกครองคณะสงฆ์ให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎมหาเถรสมาคม

มาตรา ๒๓ การแต่งตั้ง ถอดถอนพระอุปัชฌาย์ เจ้าอาวาส รองเจ้าอาวาส ผู้ช่วยเจ้าอาวาส พระภิกษุอันเกี่ยวกับตำแหน่งปกครอง คณะสงฆ์ตำแหน่งอื่น ๆ และไวยาวัจกร ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ที่กำหนดในกฎมหาเถรสมาคม
———————————————-

กฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ ๒๓ (พุทธศักราช ๒๕๔๑) ว่าด้วย ระเบียบการปกครองคณะสงฆ์

เจ้าคณะภาค เจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะตำบล มีอำนาจหน้าที่ปกครองคณะสงฆ์ในเขตของตน ดังนี้

(๑) ดำเนินการปกครองคณะสงฆ์ให้เป็นไปตามพระธรรมวินัย กฎหมาย กฎมหาเถรสมาคมข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง มติ ประกาศ พระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช คำสั่งของผู้บังคับบัญชาเหนือตน

(๕) ควบคุมบังคับบัญชาเจ้าคณะและเจ้าอาวาส ตลอดถึงพระ ภิกษุสามเณรผู้อยู่ในบังคับบัญชาหรืออยู่ในเขตปกครองของตน และชี้แจงแนะนำการปฏิบัติหน้าที่ของผู้อยู่ในบังคับบัญชา ให้เป็นไปโดยความเรียบร้อย
———————————————-

แต่พระเทพรัตนสุธี เจ้าอาวาสวัดเขียนเขต เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี กลับไม่ทำหน้าที่อย่างเคร่งครัด ปล่อยปละละเลยให้คณะสงฆ์วัดพระธรรมกายซึ่งมีพระเทพญาณมหามุนี ธัมมชโย หรือ นายไชยบูลย์ สุทธิผล ผู้เป็นเจ้าอาวาส

ผู้อยู่ภายใต้การปกครองของท่าน กระทำการละเมิดต่อพระธรรมวินัยเป็นอาจิณ

ละเมิดต่อ พ.ร.บ.คณะสงฆ์
ละเมิดต่อ พระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช
ละเมิดต่อ คำสั่งมหาเถรสมาคม
ละเมิดต่อ ธรรมเนียมปฏิบัติและกฎหมายบ้านเมือง

ตัวอย่างการละเมิดต่อพระธรรมวินัยจนเป็นที่โจทก์จันรับรู้กันทั้งแผ่นดิน ดังนี้คือ

เดินธุดงค์ดาวรวยไปทั่วประเทศ ทั้งที่หลักการธุดงค์องค์พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสั่งสอนคือวัตรปฏิบัติเพื่อให้กิเลสเร่าร้อน เพื่อสำรอกอาสวะกิเลส เพื่อยังพรหมจรรย์ให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ นี่ยังไม่รวมที่ปล่อยให้เดินบิณฑบาตเรี่ยไรผิดกฎหมายไปทั่วประเทศนะ

แต่ท่านเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ในฐานะเจ้าคณะปกครองคณะสงฆ์สูงสุดภายในจังหวัดกลับปล่อยให้คณะสงฆ์วัดพระธรรมกาย โดยธัมมชโยภิกษุผู้เป็นเจ้าอาวาสจัดกิจกรรมธุดงค์ ทำอีเว้นท์โฆษณาประชาสัมพันธ์ลัทธิธรรมกาย นำเอาอริยวินัยมาย่ำยีด้วยการให้ภิกษุมารับนิมนต์มาจำนวนมากเพื่อเดินบนกลีบดอกดาวเรือง

โดยมีพวกเด็กนักเรียนที่ถูกเกณฑ์มานั่งตากแดดได้รับความลำบาก เสียเวลาเล่าเรียน ต้องมานั่งเข้าแถวโรยกลีบดอกดาวเรืองอยู่ข้างถนน

พฤติกรรมเหล่านี้ไม่เคยมีปรากฏในแบบธรรมเนียมของธุดงค์ทั้ง ๑๓ ข้อ ดังเช่น
๑. ปังสุกูลิกังคะ ถือทรงผ้าบังสุกุลเป็นวัตร
๒. เตจีวริกังคะ ถือทรงเพียงไตรจีวรเป็นวัตร
๓. ปิณฑปาติกังคะ ถือเที่ยวบิณฑบาตเป็นวัตร
๔. สปทานจาริกังคะ ถือเที่ยวบิณฑบาตไปตามลำดับเป็นวัตร
๕. เอกาสนิกังคะ ถือนั่งฉัน ณ อาสนะเดียวเป็นวัตร คือฉันวันละมื้อเดียว ลุกจากที่แล้วไม่ฉันอีก
๖. ปัตตปิณฑิกังคะ ถือฉันเฉพาะในบาตรเป็นวัตร คือ ไม่ใช้ภาชนะใส่อาหารเกิน ๑ อย่างคือบาตร
๗. ขลุปัจฉาภัตติกังคะ ถือห้ามภัตที่ถวายภายหลังเป็นวัตร คือเมื่อได้ปลงใจกำหนดอาหารที่เป็นส่วนของตน ซึ่งเรียกว่าห้ามภัต ด้วยการลงมือฉัน เป็นต้นแล้ว ไม่รับอาหารที่เขานำมาถวายอีก แม้จะเป็นของประณีต
๘. อารัญญิกังคะ ถืออยู่ป่าเป็นวัตร อยู่ห่างบ้านคนอย่างน้อย ๕๐๐ ชั่วธนู คือ ๒๕ เส้น
๙. รุกขมูลิกังคะ ถืออยู่โคนไม้เป็นวัตร
๑๐. อัพโภกาลิกังคะ ถืออยู่ที่แจ้งเป็นวัตร
๑๑. โสสานิกังคะ ถืออยู่ป่าช้าเป็นวัตร
๑๒. ยถาสันถติกังคะ ถืออยู่ในเสนาสนะแล้วแต่เขาจัดให้
๑๓. เนสัชชิกังคะ ถือการนั่งเป็นวัตร คือเว้นนอน อยู่ด้วยเพียง 3 อิริยาบถ
จะเห็นว่าในธุดงค์ ๑๓ นี้ ไม่มีข้อใดเลยที่บอกให้ชักแถวธุดงค์ข้างถนนกลางเมือง มีหน้ามาเข้าแถวโรยกลีบดอกไม้ มีรถนำขบวนโฆษณาเรียกคนให้มาร่วมบริจาคเงินทำบุญ
จากธุดงค์เพื่อสำรอกกิเลส กลายเป็นมาเดินธุดงค์พอกกิเลส

จนเป็นที่โจทก์จันดูแคลนของคนทั่วไป เป็นโลกะวัชชะ มีโทษทั้งทางโลกและทางธรรมวินัย ถือเป็นการย่ำยีอริยวินัยอย่างชัดเจน

แต่ท่านเจ้าคณะจังหวัดปทุม ในฐานะเจ้าคณะปกครองคณะสงฆ์ภายในจังหวัดกลับเพิกเฉย ปล่อยปละละเลย ไม่บังคับบัญชาให้คณะสงฆ์ภายใต้ปกครองให้ปฏิบัติเป็นไปตามหลักพระธรรมวินัย เช่นนี้ชื่อว่าไม่เอื้อเฟื้อต่อพระธรรมวินัย
ไม่บังคับบัญชาการคณะสงฆ์ภายใต้การปกครองให้เป็นไปตามพ.ร.บ.คณะสงฆ์ที่ว่าด้วยจริยาพระสังฆาธิการ เช่นนี้ชื่อว่าไม่เอื้อเฟื้อต่อพรบ.ปกครองคณะสงฆ์ ดังปรากฏใน

———————————————-
กฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ ๒๔ (พุทธศักราช ๒๕๔๑) ว่าด้วย การแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ

ข้อที่ ๔๔ กำหนดว่า “พระสังฆาธิการต้องเอื้อเฟื้อต่อกฎหมาย พระราชบัญญัติ
คณะสงฆ์ กฎกระทรวง กฎมหาเถรสมาคม ระเบียบ คำสั่ง มติ ประกาศ พระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช สังวร และ ปฏิบัติตามพระธรรมวินัยโดยเคร่งครัด”
———————————————-

ทั้งที่พระเทพญาณมหามุนี ธัมมชโย เป็นถึงเจ้าอาวาสและพระอุปัชฌาย์มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามพรบ.ปกครองคณะสงฆ์และคำสั่งมหาเถรสมาคม แต่กลับไม่ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
เมื่อผู้ใต้บังคับบัญชาไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎระเบียบพ.ร.บ.คณะสงฆ์ แทนที่ผู้บังคับบัญชาอย่างเจ้าคณะจังหวัดจะว่ากล่าวตักเตือนให้เปลี่ยนแปลงนิสัย แก้ไขพฤติกรรม กลับมีพฤติกรรมเห็นดีเห็นงาม เข้าร่วมกระทำผิดกับผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างโจ่งแจ้ง เช่นนี้ชื่อว่าเป็นผู้ไม่เอื้อเฟื้อต่อแบบธรรมเนียมปฏิบัติของสมณสารูป

จึงถือว่าบกพร่อง ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่อย่างร้ายแรง ผิดจริยาพระสังฆาธิการ ไม่เอื้อเฟื้อต่อพระธรรมวินัย ไม่เอื้อเฟื้อต่อพ.ร.บ.คณะสงฆ์ ไม่เอื้อเฟื้อต่อธรรมเนียมปฏิบัติของสมณสารูป เช่นนี้จึงสมควรถูกลงโทษตามที่บทกำหนดโทษในพ.ร.บ.คณะสงฆ์ ว่าด้วยโทษของผู้ละเมิดจริยาพระสังฆาธิการ
———————————————-

กฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ ๒๔ (พุทธศักราช ๒๕๔๑) ว่าด้วย การแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ

ข้อที่ ๕๔ กำหนดว่า “พระสังฆาธิการรูปใดประพฤติละเมิดจริยา ต้องได้รับโทษฐานละเมิดจริยาอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้
(๑) ถอดถอนจากตำแหน่งหน้าที่
(๒) ปลดจากตำแหน่งหน้าที่
(๓) ตำหนิโทษ
(๔) ภาคทัณฑ์”

ข้อที่ ๕๖ กำหนดว่า “พระสังฆาธิการรูปใดต้องอธิกรณ์ หรือถูกฟ้องเป็นจำเลยในคดีอาญา และอยู่ในระหว่างพิจารณาวินิจฉัย หรือมีกรณีต้องหาว่าละเมิดจริยาอย่างร้ายแรง และอยู่ในระหว่างสอบสวน ถ้าผู้บังคับบัญชาใกล้ชิดเห็นว่าจะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างพิจารณา หรือสอบสวนจะเป็นการเสียหายแก่การปกครองคณะสงฆ์ จะสั่งให้พักตำแหน่งหน้าที่ก็ได้”
———————————————-

กระผมภิกษุสุวิทย์ธีรธมฺโม ทองประเสริฐ แห่งวัดอ้อน้อยธรรมอิสระ จึงขอร้องทุกข์กล่าวโทษเรียกร้องให้สอบสวนพิจารณาโทษให้ปลดพระเทพรัตนสุธี เจ้าอาวาสวัดเขียนเขต เจ้าคณะจังหวัดปทุม ออกจากตำแหน่ง ในฐานความผิดข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗

กฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ ๒๓ พ.ศ. ๒๕๔๑ ว่าด้วยการปกครองคณะสงฆ์ ข้อ ๑๕ (๑)-(๕)

และกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ ๒๔ พ.ศ. ๒๕๔๑ ว่าด้วย การแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ ข้อที่ ๕๔ (๑)-(๔)

กระผมจึงกราบเรียนสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สมศักดิ์ อุปสโม) เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม วรวิหาร กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ผู้มีอำนาจหน้าที่ปกครองคณะสงฆ์หนกลาง ได้กรุณาพิจารณารับเหตุแห่งความเสียหายที่เกิดจากความบกพร่องต่อหน้าที่ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ของพระเทพรัตสุธี (สมศักดิ์ โชตินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดเขียนเขต เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี

เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างของผู้ปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าคณะพระสังฆาธิการอื่นๆ สืบไป

พุทธะอิสระ