พระธรรมวินัยนี้สอนให้ฉันรู้จักแยกแยะดีต่างกับชั่ว บุญต่างกับบาป กุศลต่างกับอกุศล

0
128

พระธรรมวินัยนี้สอนให้ฉันรู้จักแยกแยะดีต่างกับชั่ว บุญต่างกับบาป กุศลต่างกับอกุศล
๑๑ มิถุนายน ๒๕๕๙

110659-บทความ-พระธรรมวินัยนี้สอนให้ฉันรู้จักแยกแยะดี
ขอแสดงความดีใจกับหลวงพี่พยอมแกด้วย
ที่สาวกเจ้าลัทธิผู้ต้องปาราชิกเขาเมตตากรุณาถอนแจ้งความให้
ถือว่าความผิดพลาดครั้งนี้เอามาเป็นครู
ต่อไปเวลาวิพากษ์วิจารณ์ใครก็อย่าแค่เอามัน แต่ต้องมีข้อมูลชัดเจน เขาจะได้ไม่ย้อนศรเอาได้
ส่วนพวกที่ไปแจ้งความพุทธะอิสระโดยไม่มีข้อมูลความจริงก็ต้องถูกย้อนศรเช่นกัน
แต่พุทธะอิสระไม่ใช่หลวงพี่พยอม
พุทธะอิสระชื่นชอบอยู่กับความสะอาด ความถูกต้อง และความโปร่งใส ซื่อตรง เปิดเผย
ด้วยเพราะพระธรรมวินัยนี้สอนพุทธะอิสระให้มีสติปัญญารู้จักแยกแยะ
ดีมันต่างกับชั่ว
บุญมันต่างกับบาป
ถูกมันต่างกับผิด
ซื่อตรงมันต่างกับการคดโกง
ฉลาดมันต่างกับโง่
กุศลมันต่างกับอกุศล
ความสะอาดมันต่างจากความสกปรก
นี่คือสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอน
อีกทั้งพ่อแม่ปู่ย่าตายายของพุทธะอิสระก็พร่ำสอนอยู่ตลอดเวลาว่า
“เกิดเป็นคนหากแยกแยะดีชั่วถูกผิดไม่ได้ ก็เสียชาติเกิด”
เมื่อพุทธะอิสระถูกอบรมสั่งสอนมาอย่างนี้มาตั้งแต่เล็กแต่น้อย
เวลาพุทธะอิสระจะพูด จะทำ จะคิด ต้องชัดเจน ถูกต้อง พิสูจน์ได้ทุกครั้ง
ด้วยเหตุผลเหล่านี้แหละ พุทธะอิสระจึงอยู่รอดมาได้ถึง ๒ ปี ในขณะที่ต่อสู้กับพวกอลัชชีรอบด้าน
เพราะพุทธะอิสระยืนหยัดยึดมั่นอยู่กับความจริง
พุทธะอิสระได้ค้นพบว่า เมื่อใดที่เรามีความเห็นตรงถูกต้องตามความเป็นจริง
จักทำให้เราแกล้วกล้า อาจหาญ มั่นคง
และสามารถตั้งมั่นอยู่ในทุกสถานการณ์ได้อย่างไม่สะทกสะท้าน ไม่หวั่นหวาด หรือสะดุ้งผวาต่อสิ่งเร้าเครื่องล่อใดๆ
ที่ผ่านมาหลวงพี่พะยอมท่านก็ทำดีที่สุดแล้วตามจริตของท่าน
แต่ต้องยอมรับว่าท่านไม่ได้ต่อสู้กับเรื่องนี้มาแต่ต้น จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ข้อมูลอาจจะคลาดเคลื่อนไม่ตรงต่อความจริงมากนัก แต่ที่จริงร้อยเปอร์เซ็นคือธัมมชโยมันอวดอุตริมนุสธรรมต้องอาบัติปาราชิกแล้ว
เสียดายหน่อยเดียวว่า เมื่อหลวงพี่แกเมื่อมีโอกาสพบปะพูดคุยกับสาวกอลัชชีปาราชิกทั้งที มันน่าจะชี้ให้เห็นโทษเห็นภัยของคำสอนที่บิดเบือนจากแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา
ชี้ให้เขาเห็นวิถีที่ถูกต้องตามครรลองของอริยมรรคทั้ง ๘ ประการ
ที่เริ่มต้นจากการทำความเห็นของตนให้ถูกต้องตามความเป็นจริง แล้วจบลงด้วยสมาธิชอบ คือความตั้งมั่น แห่งปัญญารู้ชัดตามความเป็นจริง เรียกว่าปัญญาเห็นชอบที่ตั้งมั่นดีแล้ว เช่นนี้จึงชื่อว่ามีสมาธิชอบ
คนผู้มีมิจฉาทิฏฐิ สู้อุตส่าห์เข้ามากราบ หลวงพี่ดันไปพูดแต่เงินๆ ทองๆ ของสำนักเขา
ช่างเป็นเรื่องเศร้าและเสียโอกาสของพระพุทธศาสนา หากหลวงพี่ไม่ไปห่วงเรื่องเงินของเขาแล้วยึดเอาหลักธรรมวินัยที่แท้จริงมาอบรมชี้แนะ น่าจะเป็นคุณูปการแก่พระธรรมวินัยยิ่งนัก
แต่ไม่ว่ายังไงก็ขอแสดงความดีใจกับหลวงพี่แกด้วย ที่คู่กรณีทั้งสองต่างขอโทษขอโพยกันและกัน
ช่างน่าเอ็นดูนัก
พุทธะอิสระ

ขอบคุณข่าวจาก
https://headshot.tnews.co.th/contents/192025/