จากการขอเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน กลายมาเป็นขอเลื่อนการตรวจของแพทย์ส่วนกลาง

0
127

จากการขอเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน กลายมาเป็นขอเลื่อนการตรวจของแพทย์ส่วนกลาง
๑๐ มิถุนายน ๒๕๕๙
100659-บทความ-จากการขอเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน-กลายมาเป็นขอเลื่อนการตรวจของแพทย์ส่วนกลาง
“”ธรรมกาย” ยื่นเงื่อนไขใหม่ ขอเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนเรื่องโดย ปิยะนุช ทำนุเกษตรไชย | ภาพโดย Nation TV
6 มิถุนายน 2559 19:49 น.
ธรรมกาย ยื่นเงื่อนไขใหม่ ขอเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน อ้างไม่ไว้ใจการปฏิบัติหน้าที่ ด้านอธิบดีดีเอสไอ ยัน สรุปสำนวนส่งฟ้องตามกรอบเวลา
เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 59 พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีที่พนักงานสอบสวนเข้าหารือกับฝ่ายปกครองทางสงฆ์รอบ 2 เกี่ยวกับการมอบตัวเพื่อรับทราบข้อหาของพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายว่า การหารือยังไม่ได้ข้อยุติ เนื่องจากวัดพระธรรมกายยังมีเงื่อนไขหลายข้อ เช่น การขอเปลี่ยนพนักงานสอบสวนบางคนโดยอ้างว่าไม่ไว้วางใจการปฏิบัติหน้าที่อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การพิจารณาดำเนินคดีเป็นไปตามกฏหมาย หากเจ้าคณะปกครองไม่สามารถส่งมอบตัวพระธัมมชโยให้พนักงานสอบสวนดีเอสไอได้ ดีเอสไอก็จะสรุปสำนวนส่งฟ้องคดีตามกำหนดเวลาเดิม คือดำเนินการภายใน 2 สัปดาห์ ซึ่งขณะนี้ถือว่าผ่านมา 1 สัปดาห์แล้ว” https://www.nationtv.tv/main/content/social/378504443/
——————————————–
10 มิถุนายน 2559
ด้านนายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 3 สำนักการสอบสวน กล่าวถึงกรณีทนายความวัดพระธรรมกาย ได้ทำหนังสือร้องขอเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนในคดีดังกล่าว
“ผมไม่มีปัญหาแต่อย่างใด พร้อมจะปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ยืนยันว่าการทำหน้าที่ไม่มี 2 มาตรฐาน ยืนยันว่าพระธัมมชโยไม่สามารถต่อรองได้ ทางทนายความของพระธัมมชโยและทีมวัดพระธรรมกายพยายามที่จะวางประเด็นเพื่อขุดบ่อล่อให้เจ้าพนักงานเกิดแผล ดังนั้น พนักงานสอบสวนต้องระมัดระวังทุกขั้นตอนไม่ให้เกิดเหตุทำผิดมาตรา 157 ยืนยันว่าที่ผ่านมาพนักงานสอบสวนไม่ได้ดำเนินการโดยพลการ แต่ดำเนินการตามมติที่ประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีทุกประการ”
นายขจรศักดิ์กล่าวว่า
“การที่ผู้ต้องหาจะมอบตัวในวัดนั้น เจ้าพนักงานอาจมีความผิดอาญามาตรา 157 เข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตนยืนยันว่าถ้าเป็นพนักงานสอบสวนคดีพระธัมมชโย ก็จะไม่ยอมให้มีการทำผิดกฎหมาย เพราะพระธัมมชโยต้องได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป ไม่เช่นนั้นจะเกิดอะไรขึ้นถ้าคดีอื่นที่ผู้ต้องหาถูกออกหมายจับแล้วก็ต่อรองให้ไปแจ้งข้อกล่าวหาที่บ้าน ที่พักอาศัย ที่เซฟเฮาส์ แล้วต้องได้ประกันตัวด้วย ซึ่งขณะนี้คดีพระธัมมชโยได้ล่วงเลยมาถึงขั้นตอนออกหมายจับแล้ว พนักงานสอบสวนก็ต้องปฏิบัติกับผู้ต้องหาตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โดยต้องส่งสำนวนคดีพร้อมนำตัวผู้ต้องหาให้อัยการสั่งฟ้อง”
https://www.thaipost.net/
——————————————–
8 มิถุนายน 2559
เวลาต่อมา นายกแพทยสภา นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา บอกว่า ความคืบหน้าในการตรวจอาการอาพาธของ พระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่แบบไม่เป็นทางการว่า ทางวัดขอเลื่อนในการตรวจของแพทยสภาไปแบบไม่มีกำหนด หรือหากเข้าใจอีกอย่างก็คือ ยกเลิกการตรวจไปเลย ซึ่งทางแพทยสภา จะรอหนังสือตอบอย่างเป็นทางการในเรื่องนี้จากวัดพระธรรมกายอีกครั้งหนึ่ง
คาดว่า ในวันนี้ หนังสือตอบปฏิเสธคงจะมาถึงแพทยสภา และจะนำเข้าแจ้งต่อที่ประชุมใหญ่แพทยสภา ในวันที่ 9 มิ.ย. อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งการยกเลิกการตรวจครั้งนี้ คาดว่าผลการตรวจไม่ได้มีผลต่อรูปคดี หรือการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาในคดีพระธัมมชโย เนื่องจากดีเอสไอระบุว่าไม่จำเป็นต้องใช้ผลตรวจแล้ว
นพ.สมศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า การที่ทางวัดพระธรรมกายยกเลิกการตรวจอาการ ทำให้แพทยสภารู้สึกสบายใจขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมา มีทั้งผู้ที่คัดค้านการตรวจและหนุนให้ตรวจ โดยหากมีการตรวจผลออกมาอย่างใด ทางแพทยสภาจะต้องมีทั้งถูกชมและตำหนิแน่นอน ดังนั้นการยกเลิกจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด”https://www.nationtv.tv/main/content/social/378504633/
——————————————–
ทั้ง ๒ คดีนี้คือแผนการประวิงเวลา ต่อรองไปเรื่อยๆ จนหมดเวลาของรัฐบาลชุดนี้ เพื่อรอเลือกตั้ง
ต่อรอง เพื่อให้ตนเองได้เปรียบมากที่สุดเพื่อจะได้ไม่ต้องติดคุก
เพราะพวกเขาเชื่อว่าเมื่อเลือกตั้งแล้ว ลัทธิธรรมกายและเจ้าลัทธิจะรอด ไม่ต้องนอนคุกเพราะคอยรอดมาแล้วเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล
พวกเขาจึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลให้ได้ภายในเร็ววัน ซึ่งท่านทั้งหลายจะเห็นว่าฟากฝั่งอำนาจเก่าต่างดาหน้ากันออกมาวิพากษ์วิจารณ์ แสดงอาการร้อนรนเพื่อจะปกป้องเจ้าลัทธิอลัชชีปาราชิกผู้นี้กันทั่วหน้า
จ่ายตัง พวกเขาเชื่อว่า เมื่อเกิดรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ทุกอย่างย่อมจบลงได้ด้วยเงิน แม้กระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งมีข่าวลือมาตลอดทั้งในอดีตและปัจจุบันที่พวกเขาเคยใช้ได้ผลมาแล้วในอดีต
แต่ฉันเชื่อว่าวิธีนี้คงใช้ไม่ได้ผลในรัฐบาลชุดนี้
พุทธะอิสระ