จะจบยังไงล่ะพระเดชพระคุณ
๗ มิถุนายน ๒๕๕๙
ถก 3 ฝ่ายไร้ข้อสรุป ดีเอสไอยันไม่ยื้อเวลา เผยยื่นข้อดีหาก “ธัมมชโย” มอบตัวให้วัดธรรมกายพิจารณา(มีคลิป)
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม
6 มิถุนายน 2559 18:27 น. (แก้ไขล่าสุด 6 มิถุนายน 2559 18:50 น.)
MGR Online – มติที่ประชุม 3 ฝ่ายไร้ข้อสรุปการจับกุม เผยหากเข้ามอบตัวได้ประกันทันที ขณะที่เจ้าคณะจังหวัดปทุมฯ ยัน “ธัมมชโย” ยังอยู่วัด ขาซ้ายยังบวมอยู่ไม่สามารถเดินได้ รับเกินหน้าที่จะเรียกเข้ามอบตัวเหตุไม่ใช่คดีสงฆ์ แค่เป็นผู่ร่วมประสานเท่านั้น ด้านดีเอสไอระบุยังไร้ข้อสรุปเรื่องการจับกุม ยันไม่ประวิงเวลาเพื่อดำเนินคดี สรุปข้อดีการมอบตัวให้วัดธรรมกายแล้วถกอีกที 14 มิ.ย.นี้
วันนี้ (6 มิ.ย.) เวลา 14.00 น. วัดเขียนเขต จ.ปทุมธานี พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษดีเอสไอ และตัวแทนสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เข้าร่วมประชุมหารือกับพระเทพรัตนสุธี เจ้าอาวาสวัดเขียนเขต พระอารามหลวง เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ซึ่งมีนายสมศักดิ์ โตรักษา ทนายความวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เป็นตัวแทนผู้ประสานงาน เกี่ยวกับแนวทางมาตรการคดีที่ 27/2559 เกี่ยวข้องพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ผู้ต้องหาตามหายจับในข้อหาสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร
นายสมศักดิ์กล่าวก่อนการประชุมว่า วันนี้ได้มีการเชิญตัวแทนของวัดพระธรรมกายมาร่วมเข้าประชุม ***แต่ได้รับการปฏิเสธเนื่องจากไม่สะดวกเพราะมีการทำงานหลายฝ่ายจึงได้นำข้อเสนอทางวัดพระธรรมกายและพระธัมมชโยมาร่วมหารือ ทั้งนี้ หากต้องการให้มอบตัวจะต้องได้รับการประกันตัวทันทีและต้องให้แพทย์จากโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าเข้าตรวจอาการพร้อมกับพระเทพรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี เข้าร่วมเป็นสักขีพยานในการแจ้งข้อกล่าวหา***
ต่อมาเวลาประมาณ 15.30 น. ภายหลังการประชุมเสร็จสิ้น นายสมศักดิ์เปิดเผยว่า การประชุมหารือข้อเสนอของวัดพระธรรมกายขณะนี้ผ่านไปแล้วร้อยละ 95 ขาดอีกเพียงร้อยละ 5 โดยทางดีเอสไอเป็นผู้ตัดสินใจก็จะเสร็จเรียบร้อยแต่เหลือเรื่องอะไรบ้างนั้นไม่สามารถเปิดเผยได้ ***โดยมีเงื่อนไขของวัดพระธรรมกาย 2 ข้อ***ที่ผ่านการเห็นชอบของประชุมแล้ว โดยการพิจารณาเงื่อนไขต่างๆ จะต้องขึ้นอยู่กับกรอบกฎหมาย ตามอำนาจดีเอสไอ
“แม้วันนี้ตัวแทนจากวัดพระธรรมกายจะไม่ได้มาเข้าร่วมหารือ แต่ในที่ประชุมมีการทำบันทึกข้อเสนอเพื่อให้ทางตัวแทนพระธัมมชโยรับทราบและพิจารณาต่อไป นอกจากนี้ ได้มีการประสานกับทางวัดพระธรรมกายมาแล้ว 2 ครั้งพร้อมให้ความร่วมมือด้วยดีในการเจรจา อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่วัดพระธรรมกายไม่ส่งตัวแทนมาร่วมประชุมเพราะมีการประชุมร่วมกันหลายฝ่ายภายในวัด ได้แก่ พระธัมมชโย ฝ่ายกฎหมาย ลูกศิษย์ และทีมทนาย” สมศักดิ์เผย
ด้านพระเทพรัตนสุธีกล่าวว่า ยืนยันว่าพระธัมมชโยยังอยู่ภายในวัดพระธรรมกายแต่ไม่ขอตอบคำถาม และก่อนวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมารองเจ้าคณะจังหวัดได้เข้าเยี่ยมพระธัมมชโย พร้อมรายงานกลับมาว่าขาซ้ายของพระธัมมชโยยังบวมอยู่ไม่สามารถเดินได้ ซึ่งใช้เวลาเข้าเยี่ยมเวลา 10 นาที
—————————————-
พุทธะอิสระ: เมื่อรองเจ้าคณะจังหวัดเข้าไปเยี่ยมผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง ฟอกเงิน รับของโจร จนศาลออกหมายจับ แล้วทำไมถึงไม่ใช้อำนาจทางปกครองสั่งการให้เจ้าลัทธิออกมามอบตัวในฐานะเป็นผู้ต้องหาอยู่ภายใต้การปกครอง
—————————————-
***พระเทพรัตนสุธีกล่าวอีกว่า ส่วนตัวนั้นไม่มีอำนาจในการเรียกพระธัมมชโยมาพบ เนื่องจากคดีที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นคดีทางสงฆ์ แต่เป็นคดีที่ดีเอสไอขอความร่วมมือให้เป็นผู้ประสานเท่านั้น***
—————————————-
พุทธะอิสระ: ไม่รู้ว่าท่านเจ้าคณะจังหวัดปทุมได้เคยอ่านกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ ๒๔ นี้หรือเปล่า
—————————————-
กฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ ๒๔ (พุทธศักราช ๒๕๔๑)
ว่าด้วย จริยาพระสังฆาธิการ และการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ
ข้อที่ ๔๔ กำหนดว่า ***“พระสังฆาธิการต้องเอื้อเฟื้อต่อกฎหมาย พระราชบัญญัติ
คณะสงฆ์ กฎกระทรวง กฎมหาเถรสมาคม ระเบียบ คำสั่ง มติ ประกาศ พระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช สังวร และ ปฎิบัติตามพระธรรมวินัยโดยเคร่งครัด”***
ข้อที่ ๕๔ กำหนดว่า “พระสังฆาธิการรูปใดประพฤติละเมิดจริยา ต้องได้รับโทษฐานละเมิดจริยาอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้ (๑) ถอดถอนจากตำแหน่งหน้าที่”
ข้อที่ ๕๖ กำหนดว่า “พระสังฆาธิการรูปใดต้องอธิกรณ์ หรือถูกฟ้องเป็นจำเลยใน
คดีอาญา และอยู่ในระหว่างพิจารณาวินิจฉัย หรือมีกรณีต้องหาว่าละเมิดจริยาอย่างร้ายแรง และอยู่ในระหว่างสอบสวน ถ้าผู้บังคับบัญชาใกล้ชิดเห็นว่าจะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างพิจารณา หรือสอบสวนจะเป็นการเสียหายแก่การปกครองคณะสงฆ์ จะสั่งให้พักตำแหน่งหน้าที่ก็ได้”
—————————————-
พุทธะอิสระ: หากเจ้าคณะปกครองสงฆ์ระดับจังหวัดบอกว่าไม่มีอำนาจที่จะเรียกธัมมชโยมาพบ ก็ควรลาออกไปเถิด
ให้คนอื่นที่เขามีสำนึกรับผิดชอบในหน้าที่ สามารถใช้อำนาจทางปกครองที่มี รักษาพระธรรมวินัย กฎหมายบ้านเมือง และสั่งการคณะสงฆ์ในปกครองของตนเองได้ สังฆมณฑลจักได้งดงามมากกว่านี้
—————————————-
ขณะที่ พ.ต.ท.สมบูรณ์เปิดเผยว่า ในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ เวลา 14.00 น.จะมีการประชุมหาข้อสรุปอีกครั้งแต่ยังไม่ทราบว่าการประชุมครั้งต่อไปจะได้ข้อสรุปหรือไม่ โดยยืนยันว่าไม่ได้ประวิงเวลาในการดำเนินคดีเพราะยังสามารถดำเนินการต่อไปได้ ทั้งเรื่องของคดีความและการทำสำนวนเพื่อส่งฟ้องอัยการ หากไม่มีพระธัมมชโยจะสามารถส่งฟ้องได้หรือไม่ ในชั้นของสำนวนการสอบสวนสามารถส่งหมายจับพร้อมสำนวนไปที่อัยการเพื่อพิจารณาสั่งฟ้องได้และจะดำเนินการโดยไม่ต้องรอให้เงื่อนไขการเจรจาบรรลุผล พร้อมยืนยันว่าเงื่อนไขทุกอย่างไม่ได้สองมาตรฐาน และไม่อยู่นอกกรอบของกฎหมาย ทั้งนี้ พระธัมมชโยจะมอบตัวหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจท่านเอง โดยดีเอสไอได้สรุปถึงข้อดีในการมอบตัวให้กับทางวัดพระธรรมกายรับทราบแล้ว ส่วนการจะเข้าไปจับกุมพระธัมมชโยในวัดพระธรรมกายนั้นยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้
—————————————
อยากบอกเจ้าหน้าที่ดีเอสไอและอัยการว่า อย่าไปตกเป็นเบี้ยล่างให้ธัมมชโยมันปั่นหัวอยู่เลย
หาวิธีเอาตัวมาส่งฟ้องศาลให้ได้
หรือไม่ก็รวบรวมพฤติกรรมของผู้ต้องหาชี้ให้ศาลเห็นว่า ธัมมชโยมีพฤติกรรมบ่ายเบี่ยง ไม่ยอมรับคำสั่งศาลมาตลอด อัยการจึงควรทำคำฟ้องส่งฟ้องต่อศาลโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา ๑๔๑
“ถ้ารู้ตัวผู้กระทำความผิด แต่เรียกหรือจับตัวยังไม่ได้ เมื่อได้ความตามทางสอบสวนอย่างใด ให้ทำความเห็นว่าควรสั่งฟ้อง หรือสั่งไม่ฟ้องส่งไปพร้อมกับสำนวนยังพนักงานอัยการ
ถ้าพนักงานอัยการเห็นชอบด้วยว่าควรสั่งไม่ฟ้อง ให้ยุติการ สอบสวนโดยสั่งไม่ฟ้อง และให้แจ้งคำสั่งนี้ให้พนักงานสอบสวนทราบ
ถ้าพนักงานอัยการเห็นว่าควรสอบสวนต่อไป ก็ให้สั่งพนักงาน สอบสวนปฏิบัติเช่นนั้น
ถ้าพนักงานอัยการเห็นว่าควรสั่งฟ้อง ก็ให้จัดการอย่างใดเพื่อให้ได้ตัวผู้ต้องหามา ถ้าผู้ต้องหาอยู่ต่างประเทศให้ พนักงานอัยการจัดการเพื่อขอให้ส่งตัวข้ามแดนมา”
หรือไม่ก็ลุยไปจับตัวมาให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย
หาตำแหน่งให้เหมาะสมชัดเจน แล้วจู่โจมจับกุม จะเวลาไหนก็ได้
ขืนปล่อยให้ผู้ต้องหาสร้างเงื่อนไข เรียกร้องไม่หยุดหย่อน และเจ้าหน้าที่ต้องทำตาม
บ้านเมืองนี้คงไม่ต้องมีกฎหมายแล้ว
เพราะฉันรู้มาว่า ผู้ต้องหาธัมมชโยยื่นเงื่อนไขว่าจะมอบตัวภายในสำนักธรรมกายเท่านั้น และต้องให้ประกันตัวด้วย
แถมยังมีการตั้งเงื่อนไขไปว่า วันใดที่มีการมอบตัว ต้องให้เจ้าคณะจังหวัดปทุมอยู่เป็นสักขีพยานด้วย
นี่มันผู้ต้องหาคดีร่วมกันฉ้อโกง ฟอกเงิน รับของโจร หนีหมายศาล หลบซ่อนตัวอยู่ภายในรัฐอิสระของตนที่ไม่ขึ้นกับใครชัดๆ
ทำอะไรมันไม่ได้ก็ยกแผ่นดิน ๔ พันกว่าไร่ ให้มันประกาศเป็นรัฐอิสระไปเลยก็แล้วกัน จะได้ไม่ต้องเหนื่อย
และอย่าลืมให้พวกมันแยกออกไปใช้ยี่ห้อศาสนาอื่นด้วย
เรื่องจะได้จบ
แต่ถึงยังไงก็ต้องขอขอบคุณและให้กำลังใจดีเอสไอ อัยการ ทีมงานสืบสวนสอบสวนทุกท่าน ที่ต้องมาเหนื่อยกับพวกอลัชชีผีเปรตพวกนี้
พุทธะอิสระ
ขอบคุณข่าวจาก
https://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx…