จักต้องอ้างยี่ห้อนั้นยี่ห้อนี้มาทำไม

0
69

จักต้องอ้างยี่ห้อนั้นยี่ห้อนี้มาทำไม
๖ มิถุนายน ๒๕๕๙

060659-บทความ-จักต้องอ้างยี่ห้อนั้นยี่ห้อนี้มาทำไม
กองทัพศิษย์ธรรมกายเดินเครื่องเช็คบิล “พุทธอิสระ-หมอมโน” ใครจะอยู่ใครจะไป!!!
6 มิถุนายน 2559
“ประสิทธิ์ สันจิตร ประธานเครือข่ายพิทักษ์พุทธ” พร้อมด้วยกลุ่มชาวพุทธจะเข้ายื่นเรื่องขอให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนความผิดทางพระวินัยตามกฎ “นิคหกรรม” ด้วยข้อกล่าวหาต้องอาบัติ “ปาราชิก” ต่อ “พระสุวิทย์ ธีรธัมโม (พระพุทธอิสระ)”
จุดที่ 1) เวลา 10.00 น. – ยื่นต่อ “เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม” ณ วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร อ. เมือง จ.นครปฐม
จุดที่ 2) เวลา 13.00 น. – ยื่นต่อ “เจ้าคณะภาค 14” ณ วัดนิมมานรดี (พระอารามหลวง) แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ
จุดที่ 3) เวลา 15.00 น. – ยื่นต่อ “เจ้าคณะใหญ่หนกลาง” ณ วัดพิชยญาติการามวรวิหาร แขวงสมเด็จเจ้าพระยา
เขตคลองสาน กรุงเทพฯ
https://headshot.tnews.co.th/content/191589/
—————————————
ใครๆ เขาก็รู้ว่าพวกนายคือสาวกธรรมกาย
หรือไม่ภูมิใจในยี่ห้อลัทธิของตน จึงมาอ้างว่าเป็นเครือข่ายพิทักษ์พุทธ
แล้วเจ้าลัทธิอลัชชีธัมมชโยกระทำย่ำยีพระธรรมวินัย
ทำไมไอ้องค์กรพิทักษ์พุทธไม่ออกมาทำอะไรเลย
เปลี่ยนชื่อใหม่ดีไหม
เปลี่ยนเป็น “เครือข่ายพิทักษ์อลัชชี” อย่างนี้น่าจะตรงกว่า
โกงเงินวัด
โกงที่ดินวัด
ร่วมกันฉ้อโกงเงินสหกรณ์
ฟอกเงิน
รับของโจร
อวดอุตรมนุสธรรม
กล่าวตู่พระพุทธเจ้า
บิดเบือนคำสอนของพระพุทธเจ้า
ย่ำยีพระธรรมวินัย
ต้องคดีเกี่ยวกับการฉ้อโกงมากมายถึง ๕๒ คดี ในรอบ ๑๗ ปีที่ผ่านมา
แต่เครือข่ายพิทักษ์พุทธไปมุดหัวอยู่ที่ไหน หรือเป็น “อ้วกเอียวอัน”
ที่จริงก็ต้องขอขอบใจที่ช่วยไปยื่นเรื่องฟ้องร้องให้ เพราะเคยไปยื่นเรื่องฟ้องตัวเองกับมหาเถรและสำนักพุทธแล้วกลับเพิกเฉย
เคยโทรนัดรองเจ้าคณะจังหวัดเอาไว้แล้วว่าหากกำจัดอลัชชีลัทธิธรรมกายเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะไปยื่นเรื่องให้คณะสงฆ์จังหวัดนครปฐมสอบตัวเองเหมือนกัน เรื่องนี้เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงรู้เรื่องดี
แต่ก็นะ เมื่อมีคนฟ้องมา
เดี๋ยวพุทธะอิสระจะทำหนังสือขอเร่งเร้าให้คณะสงฆ์สอบอธิกรณ์นี้ให้จบโดยไว
หากพุทธะอิสระผิดจริงพร้อมให้คณะสงฆ์สั่งลงโทษ
แต่ถ้าอลัชชีตัวพ่อปาราชิกผิดแล้วยังบ่ายเบี่ยงไม่ยอมรับผิด ไม่ยอมถูกลงโทษ
พุทธะอิสระจะจัดให้ผู้ฟ้องซักดอก
และข้อกล่าวหาสมองนิ่ม ที่หาว่าพุทธะอิสระบุกรุกสถานที่ราชการจนเกิดความเสียหายถึงกับต้องชดใช้ค่าเสียหายตามคำสั่งศาล
เรียกว่าเป็นปาราชิก เพราะทำให้สถานที่ราชการเสียหาย
ถ้าใช้ตรรกะแบบนี้แล้วเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตร ทุบโบราณสถาน โบราณวัตถุของชาติทิ้งไปหลายหลังไม่ยิ่งกว่าปาราชิกหรือ
แถมเมื่อกรมศิลป์โดยอธิบดีฟ้องเรื่องถึงศาล เจ้าอาวาสวัดกัลยายังแต่งทนายสู้คดีไม่ยอมรับผิดจนถึงทุกวันนี้
ทำไมไอ้องค์กรนี้ไม่ไปฟ้องร้องกล่าวโทษในศาลสงฆ์ข้อหาปาราชิกบ้าง
ส่วนพุทธะอิสระเป็นผู้แถลงต่อศาลเองว่า ขอชดใช้ค่าเสียหายตามเป็นจริง โดยไม่มีเจตนาจะบิดพลิ้วหรือไม่รับผิดชอบ ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังผ่อนชำระอยู่
ไม่รู้ว่าอธิบายไปคนพวกนี้จะฟังรู้เรื่อง เข้าใจหรือเปล่า
เอาไว้ไปฟังกันในศาลอาญาก็แล้วกัน เคนะ
พุทธะอิสระ