อัยยะ… นี่มันศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนา หรือศูนย์พิทักษ์ตำแหน่งสังฆราชกันแน่จ๊ะเฮีย
๒ มิถุนายน ๒๕๕๙
ศูนย์พิทักษ์พุทธศาสนาฯ เตือนรบ.คิดผิดมหันต์ แก้ก.ม.ที่มาสังฆราช
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 1 มิ.ย. 2559 20:57
เลขาฯศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาฯ เตือน รบ. คิดผิดแก้กฎหมายสงฆ์ มาตรา 7 ว่าด้วยที่มาของสมเด็จพระสังฆราช สืบเนื่องจากมติที่ประชุม มส. เสนอชื่อสมเด็จช่วง เป็นสมเด็จพระสังฆราชนั้นขัดกับมาตราดังกล่าว…
เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 59 พระเมธีธรรมาจารย์ (ประสาร จนฺทสาโร) เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ทราบข่าวมาจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกากำลังจะประชุมเพื่อให้ความเห็นเรื่องการยื่นขอแก้ไข พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเติม โดยพ.ร.บ.คณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2 ) พ.ศ.2535 ในมาตรา 7 ว่าด้วยที่มาของสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งเป็นสิ่งที่คณะสงฆ์ทั้งประเทศค่อนข้างแปลกใจ เพราะไม่ปรากฏว่าใครเป็นเจ้าภาพในการแก้ไข พ.ร.บ.คณะสงฆ์ฉบับดังกล่าว นอกจากนั้นแล้วคณะสงฆ์ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงจากการแก้ไข พ.ร.บ.คณะสงฆ์ฉบับนี้ กลับไม่มีส่วนร่วมใดๆ ในการดำเนินการแก้ไขเลย โดยเฉพาะในมาตราที่สำคัญๆ
พระเมธีธรรมาจารย์ กล่าวต่อไปว่า ประเทศไทยตั้งแต่ในอดีต ฝ่ายศาสนจักรและอาณาจักรมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาโดยตลอด ต่างฝ่ายต่างให้เกียรติและไม่ก้าวล่วงกิจการภายในซึ่งกันและกัน รัฐบาลที่ดีย่อมถวายเกียรติต่อคณะสงฆ์ ไม่ละเมิดล่วงเกิน ไม่เดินตามแผนของคนบางกลุ่ม บางพวก วันนี้เชื่อมั่นเหลือเกินว่า ถ้ารัฐบาลเห็นชอบให้มีการแก้ไข พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 แก้ไขเพิ่มเติม โดยพ.ร.บ.คณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535 มาตรา 7 ในส่วนที่มาของสมเด็จพระสังฆราช วันนั้นจะเป็นวันที่รัฐบาลคาดไม่ถึงว่าจะเป็นวันที่รัฐบาลตัดสินใจผิดพลาด อย่างมหันต์จนไม่สามารถแก้ไขได้ ลองคิดทบทวนดู วันนี้ยังไม่สายเกินแก้
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเสนอแก้ไข พ.ร.บ.คณะสงฆ์ในประเด็นดังกล่าว สืบเนื่องมาจากรัฐบาลส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความมาตรา 7 พ.ร.บ.คณะสงฆ์ หลังผู้ตรวจการแผ่นดินมีความเห็นและทำหนังสือถึงรัฐบาล ว่า มติที่ประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) ที่เสนอชื่อสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เป็นสมเด็จพระสังฆราชนั้นขัดกับมาตราดังกล่าว
https://www.thairath.co.th/content/630056
—————————————–
หายไปนาน อยู่ๆ ก็โผล่ออกมาขู่รัฐบาลว่าอาจจะเจอเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง ถือเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดของรัฐบาลซะงั้น
กิจกรรมของเลขาศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนา ในครั้งนี้ก็เพื่อปกป้องมาตรา ๗ อันเป็นที่มาของตำแหน่งสังฆราช ที่อุปัชฌาย์ธัมมชโยควรจะได้
มิใยที่พระธรรมวินัย พ.ร.บ.คณะสงฆ์ คำสั่งมหาเถรสมาคม อำนาจการปกครองคณะสงฆ์ และกฎหมายบ้านเมือง ถูกอลัชชีธัมมชโยย่ำยีขนาดไหน
เฮียประสารในฐานะเลขาศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแกไม่สน แกดูจะไม่เดือดร้อนเสียด้วยซ้ำในกรณีลัทธิธรรมกายซ่องสุมกำลังพลคนเสื้อแดงและท้าทายอำนาจรัฐ
โผล่มาครั้งนี้ก็มาเพื่อเปิดประเด็นใหม่เรื่องมาตรา ๗ ที่จะถูกกฤษฎีกาแก้ไข
คงจะอยากโยนหินถามทางซ้ำเติมสถานการณ์อ้างเหตุผลเรียกชุมนุมคณะสงฆ์เพื่อให้ออกมาสมทบบกับกองกำลังคนเสื้อแดงในวัดธรรมกายอีกกลุ่มหนึ่งเหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วในปี ๕๓
การเคลื่อนไหวครั้งนี้ของเฮียประสารดูจะสอดคล้องกับลัทธิธรรมกาย กลุ่มเสื้อแดง นายจุตพร พรรคเพื่อไทย พล.อ.ชวลิต อย่างชนิดที่ไม่น่าจะเป็นเหตุบังเอิญ
หากทำสำเร็จ อาจจะพาลูกพี่อลัชชีธัมมชโยให้รอดจากการนอนคุกก็ได้
พี่น้องคนรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อย่างพวกเราก็ต้องเฝ้าระวัง สังเกตสังกา ตื่นตัว เป็นหูเป็นตาบอกกล่าวข่าวสารให้รัฐบาลเขารับรู้
คิดว่าสงครามครั้งสุดท้ายกำลังจะเริ่มแล้ว
อย่ามัวแต่คิดว่าธุระไม่ใช่ ตัวใครตัวมัน แบบนั้นไม่ใช่พฤติกรรมของคนรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ นะจ๊ะ
พุทธะอิสระ