เมื่อรับอาสาเข้ามาทำหน้าที่ ก็สมควรที่จะทำหน้าที่ให้เต็มที่
๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๙
รู้ๆ กันอยู่ ถ้าหูไม่หนวก ตาไม่บอด ประสาทสัมผัสไม่พิการ
ทุกคนในแผ่นดินก็จักรับรู้ได้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นแก่เจ้าสำนักธรรมกาย ไม่เว้นแม้แต่เด็กอนุบาล
หากมหาเถรสมาคม เจ้าคณะหน เจ้าคณะภาค เจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล ผู้ปกครอง คณะสงฆ์ภาค ๑ โดยเฉพาะจังหวัดปทุมธานี
จักต้องรับรู้ถึงปัญหาและพฤติกรรมการหลบหลีกไม่ปฏิบติตามพระธรรมวินัยและกฎหมายของเจ้าอาวาสวัดธรรมกาย
ทั้งที่มีตำแหน่งเป็นพระสังฆาธิการ เป็นอุปัชฌาย์ เป็นเจ้าคุณชั้นเทพ กลับไม่มีความรับผิดชอบต่อพระธรรมวินัย
ไม่รับผิดชอบต่อกฎหมายบ้านเมือง
ไม่รับผิดชอบต่อ พ.ร.บ.ปกครองคณะสงฆ์และคำสั่งมหาเถรสมาคม
ที่จะต้องมีจรรยาบรรณ มีคุณธรรม ความรับผิดชอบ เรียกว่า จริยาพระสังฆาธิการ
และหากละเมิดจะต้องมีโทษถึงขนาดถอดถอนออกจากตำแหน่ง หรือถ้าประพฤติชั่วร้ายแรงต้องถึงขนาดถูกจับสึกจากสมณเพศได้ในทันที
อีกทั้งตามธรรมเนียมปฏิบัติของพระธรรมวินัยก็เป็นที่รู้กันโดยทั่วว่าในสังฆมณฑลนี้ หากเกิดเรื่องหรืออธิกรณ์ขึ้น หมู่สงฆ์จะต้องช่วยกันระงับอธิกรณ์นั้นๆ ให้ยุติโดยไวด้วยความถูกต้องชอบธรรม เพื่อไม่ให้เสื่อมเสียต่อพระธรรมวินัยและไม่เป็นที่ติเตียนของชาวโลก (โลกวัชชะ)
ธรรมเนียมเหล่านี้ผู้ที่บวชเข้ามาไม่ว่าจะเป็นผู้บวชเก่าบวชใหม่ล้วนรู้ดีอยู่แก่ใจ
หากไม่กระทำถือว่ามีส่วนปกปิดอาบัติ จะต้องมีโทษตามพระธรรมวินัย
แต่กรณีความฉาวโฉ่เน่าเหม็นที่เกิดขึ้นแก่เจ้าลัทธิธรรมกาย ไม่ใช่พึ่งเกิด เกิดมานานอย่างต่อเนื่อง จนมีคดีฟ้องร้องกันในโรงในศาลถึง ๕๒ คดี ตลอดระยะเวลา ๑๘ ปีที่ผ่านมา
นอกจากเจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช และสมเด็จมหาธีราจารย์แห่งวัดชนะสงครามแล้ว นอกนั้นทำเป็นหูหนวกตาบอด ประสาทเสื่อม
ไม่มีภิกษุสงฆ์รูปใดจะออกมาโจทก์หรือระงับเรื่องราวฉาวโฉ่ของเจ้าลัทธิธรรมกายผู้นี้กันเลย
นอกจากจะไม่ช่วยระงับเรื่องราวความเลวร้ายที่เกิดขึ้นแล้ว ยังจะไปช่วยสนับสนุนส่งเสริมให้มันยิ่งใหญ่ขึ้นทุกๆ ปี จนแผ่อิทธิพลครอบงำสังฆมณฑลและสังคมไปทั่วแผ่นดิน
เมื่อไหร่หมู่ภิกษุผู้มีอำนาจหน้าที่จะได้มีจิตสำนึกรับผิดชอบ รักษาปกป้องพระธรรมวินัยและหันมาร่วมมือกันกำจัดอลัชชีชั่วที่เข้ามาเกาะกินพระพุทธศาสนาให้หมดสิ้นไปเสียทีนะ
ฉันล่ะเหนื่อยใจไปกับคนพวกนี้จริงๆ
ออ… และหากพุทธะอิสระมีเรื่องราวฉาวโฉ่เน่าเหม็น ก็ไม่ต้องเกรงใจนะ พุทธะอิสระยินดีให้ตั้งอธิกรณ์สอบได้ตลอดเวลา
แค่อยากให้กล้าๆ ช่วยกันรักษาพระธรรมวินัยกันหน่อย ไม่ใช่คิดแต่ว่าธุระไม่ใช่ ตัวใครตัวมัน
แล้วชาวบ้านที่เขาศรัทธา เขาจะแยกแยะได้ไหมล่ะว่า อะไรจริง อะไรเท็จ ไหนดี ไหนชั่ว เพราะผู้มีหน้าที่ชี้ให้เขาเห็นดันกลายเป็นคนหูหนวกตาบอด ทำเป็นบื้อบ้าใบ้กันไปหมดแล้ว
เลยต้องมาตกหนักอยู่กับคนที่ทำใจให้ยอมรับกับอลัชชีไม่ได้อย่างพุทธะอิสระนี่ไง
วันนี้เลยต้องหอบสังขารไปจัดให้อีกดอกหนึ่ง
พอลงมาจากรถ อดีตโยมอุปัฏฐากเจ้าประคุณสมเด็จมารอรับพร้อมพูดว่า กงล้อแห่งกรรมมันหมุนวนมาบรรจบอีกครั้งหนึ่งแล้ว
ยังไงคราวนี้หลวงปู่ต้องทำให้สำเร็จแทนเจ้าพระคุณสมเด็จนะครับ
ฉันตอบว่า จะพยายามเท่าที่ชีวิตยังมีอยู่
พุทธะอิสระ
———————————————-
31 พฤษภาคม 2559
เรื่อง ขอให้ถอดถอนพระเทพญาณมหามุนีออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย หรือพักจากตำแหน่งหน้าที่เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย และขอได้ดำเนินอธิกรณ์ตามกฎนิคหกรรม ด้วยข้อกล่าวหาต้องอาบัติปาราชิก สิกขาบทที่ ๔ อย่างเร่งด่วน
นมัสการเรียน ท่านเจ้าประคุณพระราชวิสุทธิเวที (สายชล ฐานวุฑโฒ ป.ธ.๙)
เจ้าคณะภาค ๑ วัดชนะสงคราม
ตามที่ปรากฎแก่พุทธศาสนิกชนและประชาชนทั่วไปว่า พระเทพญาณมหามุนี เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย หรือ พระไชยบูลย์ ธมฺมชโย ซึ่งเดิมดำรงสมณศักดิ์ เป็นที่ พระราชภาวนาวิสุทธิ์ ได้กระทำการล่วงละเมิดพระธรรมวินัย จริยาพระสังฆาธิการและกฎหมายบ้านเมืองเป็นอาจิณทำให้พุทธศาสนิกชนเสื่อมเสียศรัทธาเป็นโลกวัชชะ ชาวโลกติเตียนเป็นอันมาก เป็นที่เสื่อมเสียแก่พระธรรมวินัยและสังฆมณฑล ทั้งยังกระทบกระเทือนต่อการปกครองคณะสงฆ์
เป็นการฝ่าฝืนกฎระเบียบการปกครองคณะสงฆ์ที่มหาเถรสมาคมได้ตราไว้เป็น กฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ ๒๔ (พุทธศักราช ๒๕๔๑) ว่าด้วย การแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ
ข้อที่ ๔๔ กำหนดว่า “พระสังฆาธิการต้องเอื้อเฟื้อต่อกฎหมาย พระราชบัญญัติ
คณะสงฆ์ กฎกระทรวง กฎมหาเถรสมาคม ระเบียบ คำสั่ง มติ ประกาศ พระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช สังวร และ ปฎิบัติตามพระธรรมวินัยโดยเคร่งครัด”
ข้อที่ ๕๔ กำหนดว่า “พระสังฆาธิการรูปใดประพฤติละเมิดจริยา ต้องได้รับโทษฐานละเมิดจริยาอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้ (๑) ถอดถอนจากตำแหน่งหน้าที่”
ข้อที่ ๕๖ กำหนดว่า “พระสังฆาธิการรูปใดต้องอธิกรณ์ หรือถูกฟ้องเป็นจำเลยใน
คดีอาญา และอยู่ในระหว่างพิจารณาวินิจฉัย หรือมีกรณีต้องหาว่าละเมิดจริยาอย่างร้ายแรง และอยู่ในระหว่างสอบสวน ถ้าผู้บังคับบัญชาใกล้ชิดเห็นว่าจะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างพิจารณา หรือสอบสวนจะเป็นการเสียหายแก่การปกครองคณะสงฆ์ จะสั่งให้พักตำแหน่งหน้าที่ก็ได้”
อีกทั้งพฤติกรรมของภิกษุธัมมชโย ไชยบูลย์ สุทธิผล หรือพระเทพญาณมหามุนี มีพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยเป็นอาจิณ ถึงขนาดต้องอันติมวัตถุ (หมายถึง อาบัติปาราชิก ซึ่งทำให้ภิกษุผู้ต้อง มีโทษถึงที่สุดคือขาดจากภาวะของตน) เป็นอาบัติปาราชิกในกรณีอวดอุตริมนุสธรรมหลายครั้งหลายครา ดังที่ปรากฏตามหลักฐานที่แนบมา
ทั้งยังกล่าววาจาจาบจ้วงพระพุทธเจ้า พระธรรมวินัย อย่างร้ายแรง เช่นกรณีกล่าวว่าพระไตรปิฎกบกพร่อง ถึงขนาดบัญญัติสิ่งที่พระพุทธเจ้ามิได้บัญญัติ สอนในสิ่งที่พระพุทธเจ้าไม่ได้สอน จนนำมาซึ่งการเขียนพระไตรปิฎกของตนเองขึ้นมาเผยแพร่อันเป็นเหตุให้พระธรรมวินัยวิปริต สังฆมณฑลแตกแยก
กระผมจึงขอโจทก์ภิกษุธัมมชโย ไชยบูลย์ สุทธิผล หรือพระเทพญาณมหามุนี ว่ากระทำอนันตริยกรรมด้วยการกล่าวตู่พระพุทธเจ้า พระธรรมวินัย และทำลายพระสงฆ์
จึงขออาราธนาท่านเจ้าคณะภาค ๑ พระราชวิสุทธิเวที สายชล ฐานวุฑฺโฒ ได้โปรดกรุณาใช้อำนาจในทางปกครอง ดำเนินการสอบสวนทำความจริงให้เป็นที่ประจักษ์ เพื่อนำตัวผู้ผิดมาลงโทษ
และกำจัดเสี้ยนหนามของพระธรรมวินัย เพื่อดำรงรักษาไว้ซึ่งความบริสุทธิ์ บริบูรณ์ของพระธรรมวินัยและสังฆมณฑลสืบไป
(พระสุวิทย์ ธีรธมฺโม หรือ พระพุทธะอิสระ)
———————————————-
[ขอบคุณภาพประกอบจาก NationTV แนวหน้า และ SpringNews]