อย่างนี้เขาเรียกผีซ้ำด้ามพลอย
๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๙
เห็นข่าวว่าดีเอสไอจะดำเนินคดีกับทีมโฆษกวัดพระธรรมกาย ข้อหาละเมิดอำนาจศาลและหมิ่นประมาทต่อเจ้าพนักงาน
แถมด้วยข้อหาสำแดงเอกสารเท็จของทีมแพทย์
ตามมาติดๆ ด้วยสาวกสุดเลิร์ฟของอลัชชีธัมมชโย
ออกมาล่ารายชื่อ ๑๐๐,๐๐๐ รายชื่อ ร้องทุกข์ต่อโอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐ เพื่อขอลี้ภัย
พุทธะอิสระเลยจัดให้ด้วยการยื่นหนังสือร้องขอต่อดีเอสไอ ให้ยึดอายัดทรัพย์สินของวัดพระธรรมกายและธัมมชโยทั้งหมดเอาไว้ก่อน เพื่อป้องกันการหนี
รวมทั้งนำหลักฐานประติมากรรมสวรรค์ ไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อธัมมชโย ในข้อหานำความเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
ตามมาติดๆ ด้วยการเดินทางไปทวงถามถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีแต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์ของธัมมชโย และละเมิดมาตรา ๑๑๒ ของธัมมชโยและพวกต่อสภอ.ปทุมธานี
ขณะที่ฉันอยู่ที่ดีเอสไอ ได้ตั้งประเด็นคำถามต่อดีเอสไอว่า
ผู้ต้องหาที่ถูกหมายจับแล้วมีอาการป่วยแต่ยังไม่ยอมมามอบตัว เจ้าหน้าที่รัฐจะยินยอมให้ญาตินำตัวไปรักษาพยาบาลก่อน หรือเจ้าหน้าที่รัฐต้องคุมตัวมารักษาในโรงพยาบาลของรัฐที่อยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่
ดีเอสไอได้ตอบว่า เจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำตามกฎหมาย ทำตามคำสั่งศาล
นั่นก็หมายความว่า ธัมมชโยคงต้องท่องคาถา
“ชิตังเม โป้ง คุก ! ชิตังเม โป้ง คุก !” กันแล้วล่ะทีนี้
ขณะที่อยู่ในดีเอสไอ นักข่าวถามฉันว่า ฉันเชื่อไหมที่วัดพระธรรมกายนำคลิปภาพโชว์ขาดำของธัมมชโย
ฉันตอบนักข่าวว่า เมื่ออยากพิสูจน์ให้สังคมรู้ว่าเจ้าลัทธิป่วยจริง ทำไมฉายมาทีละขา ทั้งที่นอนอยู่บนเตียงแต่ถ่ายให้เห็นแค่ขาเดียว แถมหน้าเนี่ยขาวผ่อง
ประเด็นไม่ใช่โชว์ขา ประเด็นอยู่ที่ว่าคุณถูกหมายจับ คุณต้องไปมอบตัว แม้จะต้องเข็นเตียงไปก็ต้องทำ
พุทธะอิสระ