ไม่เข้าใจว่าประชาธิปไตยไทย ทำไมต้องให้ใครมาชี้นำ
๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๙
ช่วงนี้จะมีการเคลื่อนไหวของเผ่าพันธุ์คนเสื้อแดง ทั้งรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ รุ่นเก่า รุ่นใหม่ ต่างดาหน้ากันออกมาแสดงพลังเรียกร้องความสนใจ ทั้งไทยและเทศ ปรากฏให้เห็นอย่างต่อเนื่อง
โดยมี แบ็คใหญ่ กระเป่าหนัก ทุ่มไม่อั้น อยู่เบื้องหลัง
เหตุการณ์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มีผู้คนเขามาเล่าให้ฟังว่า
การชุมนุมจัดกิจกรรมของกลุ่มประชาธิปไตยใหม่ นำโดย นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว ได้มีการเตรียมการมาเป็นอย่างดี
มีการนัดหมายมวลชนมาร่วมประมาณ ๓๐๐ – ๔๐๐ คน
ตามด้วยกองทัพนักข่าวทั้งไทยและเทศ
ที่ดูเท่ห์สุดสุดก็คือ มีกลุ่มองค์กรสิทธิมนุษยชน หรือ ฮิวแมนไรท์วอทช์ ของยูเอ็นมาร่วมสังเกตการณ์ด้วย
และที่น่าตื่นตา ตื่นใจ เป็นอย่างมากก็คือ เราได้เห็นความกล้าหาญของชาวบ้านร้านตลาด ที่เขาทนต่อพฤติกรรมก่อกวน ป่วนความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองของคนกลุ่มนี้ไม่ไหว จึงออกมาแสดงสิทธิในการไม่เห็นด้วย ไม่ยอมรับต่อพฤติกรรมของพวกที่จ้องจะโค่นล้มรัฐบาลของพวกนี้
วันนี้บ้านเมืองสงบ สังคมปลอดภัย จากผู้มีอิทธิพล พ้นจากการครอบงำของพวกขี้โกง
คนไทยส่วนใหญ่ พึงพอใจ และมีความสุข
สังเกตได้จากสารพัดโพล ที่สำรวจความคิดเห็นของคนทุกระดับยอมรับ ในการทำหน้าที่ผู้นำของคุณประยุทธ์ว่า เด็ดขาด ซื่อสัตว์ เสียสละ ทำเพื่อชาติและประชาชน อย่างแท้จริง
จนมีผลสำรวจจากซูเปอร์โพล เมื่อต้นเดือนเมษายน พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ยังลังเลไม่เชื่อมั่นต่อนักการเมือง พร้อมยังมองไม่เห็นบุคคลอื่นเหมาะสมกับตำแหน่งน่ายกฯ มากกว่า ‘พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา’ โดยเสียงสนับสนุน ร้อยละ ๗๖.๑ ยังไม่มีบุคคลอื่นที่จะเหมาะสมกว่า ให้พลเอกประยุทธ์ ได้ทำหน้าที่ต่อไป
แต่ก็มีคนไทยบางส่วน ที่ฝังใจต่อระบบประชาธิปไตยแบบลากตั้ง
ประชาธิปไตยแบบจูงจมูก ประชาธิปไตยแบบวัดครึ่งกรรมการครึ่ง
ประชาธิปไตยแบบโกงได้ แต่ต้องแบบประชาธิปไตยแบบต้องก้มหัวให้ชาติตะวันตก ดุจดังไทยตกเป็นเมืองขึ้นของพวกมัน
ต่างพากันออกมาแสดงการต่อต้าน หาเรื่องป่วน ก่อความวุ่นวาย ทำให้รัฐบาลหงุดหงิดรำคาญ เสียเวลา เสียสมาธิ กับคนพวกนี้มาใน ๒ ปี
ว่าที่จริงแล้ว ก็ต้องตำหนิรัฐบาล ที่ไปให้ราคา จ่านิว จนกลายเป็นฮีโร่ของกลุ่มเสื้อแดง
หากวันนั้นปล่อยให้คนกลุ่มจ่านิว เดินทางไปอุทยานราชภักดิ์ตามปกติ แม้จะมีการกระทบกระทั่ง จากพี่น้องคนหัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี รัฐบาลก็เข้าไปทำหน้าที่เพียงแค่ระงับเหตุในวันนั้น
วันนี้ จ่านิว คงไม่สามารถออกมาเดินเชิดหน้า ท้าทายอำนาจรัฐ โดยมีต่างชาติคอยเป็นเกราะให้อย่างนี้ดอก
งานนี้ ต้องถือว่า สิบนิ้วยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง ไม่เป็นไร ถือว่าผิดเป็นครู มาเริ่มต้นคิดแผนตั้งรับกันใหม่
ปล่อยให้คนกลุ่มนี้ป่วนไป เดี๋ยวประชาชนคนสุจริต เขาทนไม่ได้ ก็ออกมายืนชี้หน้าด่าบรรพบุรุษขุดโคตร อย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ผ่านมานั่นเอง
รัฐบาลก็มีหน้าที่ระมัดระวัง อย่าให้เกิดเหตุการณ์บานปลายออกไปก็แล้วกัน
เมื่ออีกฝ่ายอ้างสิทธิแสดงความคิดเห็น
อีกฝ่ายหนึ่ง ที่เขาเห็นด้วยกับ คสช. ก็มีสิทธิ ที่จะออกมาชี้หน้าด่าว่า ขับไล่พวกป่วนเมือง ให้หลาบจำได้เหมือนกัน
หากมีเหตุการณ์กระทบกระทั่งจนบานปลาย รัฐบาล ค่อยเข้ามาระงับเหตุ
พวกฝรั่งชาวตะวันตก และยูเอ็นองค์กรสิทธิ จะได้ไม่กล้าเข้ามาวุ่นวาย
ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว คุณประยุทธ์ เมื่อเขามาใช้สิทธิในการแสดงออก ก็ปล่อยให้แสดงกันให้เต็มที่ พอเขาเหนื่อยแล้ว แล้วเชิญไปกินข้าวต้มในคุก เรื่องก็จบ
รัฐบาล ต้องไม่กลัวการแสดงออก แต่ถ้าหากผิดกฎหมาย ก็จัดการได้เลย อย่างตรงไปตรงมา
ยังไง ยังไง เหตุการณ์วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ต้องขอชื่นชม ปรบมือให้กับประชาชนผู้กล้า ที่ออกมาใช้สิทธิปกป้องแผ่นดินอันเป็นที่รักของพวกเรา
แผ่นดิน ต้องมาก่อน ประชาธิปไตยเอาไว้ทีหลัง
นี้คือหลักคิดของคนรักชาติรักแผ่นดิน
ขอบคุณ ขอบคุณมากๆ ฉันเอาใจช่วยทุกคนนะ
หากสถานการณ์มันหนักหนาสาหัส วันนั้นพวกคุณอาจเห็นพุทธะอิสระออกไปเป็นพญาราชสีห์ แห่งทุ่งท้องถนนอีกครั้ง
พุทธะอิสระ
—————————————————–
กลุ่มประชาธิปไตยใหม่จัดกิจกรรมครบ 2 ปี คสช.
เรื่องโดย Nation TV | ภาพโดย ฐานิส สุดโต,NationPhoto
22 พฤษภาคม 2559 21:37 น.
กลุ่มประชาธิปไตยใหม่จัดกิจกรรมครบ2ปี คสช. ชาวบ้านเห็นต่างเผชิญหน้าชุลมุนเล็กน้อย ตำรวจเร่งเข้าแยกหวั่นปะทะหนัก
ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย—เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 22 พฤษภาคม ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ (NDM) นำโดยนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว ,นายรังสิมันต์ โรม ,น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว พร้อมมวลชนผู้ร่วมอุดมการณ์ประมาณ 300 คน ร่วมกันเดินขบวนและจัดกิจกรรม ครบรอบ 2 ปี คสช.กับอนาคตที่ประชาชนไม่ได้เลือก” โดยเดินขบวนจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ท่าพระจันทร์ มายังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
ทั้งนี้ ยังมีมวลชนใส่เสื้อโหวตโน และชูป้ายเรียกร้องประชาธิปไตย โดยระหว่างที่มวลชนเดินทางได้ตะโกน “รัฐบาลทหารออกไป เอาประชาธิปไตยกลับคืนมา” เป็นระยะ
ต่อมา เวลา 18.20 น. ขบวนการประชาธิปไตยใหม่พร้อมมวลชน ได้เดินเข้าสู่ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ท่ามกลางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สำราญราษฎร์ นำโดย พ.ต.อ.ชุมพล ชาญชนะโยธิน ผกก.สำราญราษฎร์ สนธิกำลังตำรวจชุดควบคุมฝูงชน ในสังกัด บก.น.6 1 กองร้อย (150 นาย) เฝ้าสังเกตการณ์รักษาความปลอดภัย ป้องกันเหตุและตรวจกระเป๋ามวลชน แต่ไม่พบสิ่งผิดปกติ ซึ่งสถานการณ์ทั่วไปเป็นไปอย่างปกติ
กระทั่งมีชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงที่เห็นต่างกับขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ประมาณ 20 คน มายืนรวมตัวที่บริเวณเกาะกลางถนนราชดำเนิน ห่างจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยประมาณ 10 เมตร ก่อนจะตะโกนขับไล่และคัดค้านกลุ่มประชาธิปไตยใหม่และมวลชนที่มาทำกิจกรรม โดยอ้างเหตุผลว่า ขอโอกาสให้รัฐบาล คสช. ทำหน้าที่ก่อน แล้วจะคืนประชาธิปไตยให้ จึงส่งผลเกิดการโต้เถียงกันไปมา ก่อนที่ทั้ง 2 ฝ่าย จะกรูเข้ามาเผชิญหน้าแล้วยื้อยุดกันจนเริ่มวุ่นวาย
เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าคลี่คลายสถานการณ์ แยกทั้ง 2 ฝ่ายออกจากกัน โดยกันให้กลุ่มที่เห็นต่างกับขบวนการประชาธิปไตยใหม่ออกจากพื้นที่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการปะทะขึ้นอีก
จากนั้นเวลา 18.40 น. ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ได้เริ่มกิจกรรมทำประชามติโดยแจกกระดาษสำหรับลงคะแนนประชามติ ปรากฏข้อความว่า หยั่งเสียงประชามติเอาไม่เอา คสช. ระบุข้อความเอา และไม่เอา โดยมีช่องว่างสำหรับการเครื่องหมายกากบาท หลังจากมวลชนลงคะแนนแล้วจึงนำกระดาษดังกล่าวหย่อนลงกล่องนับคะแนนที่เตรียมไว้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังมวลชนลงคะแนนเสร็จสิ้น ทางตัวแทนขบวนการประชาธิปไตยใหม่ได้ทยอยกล่าวปราศรัยผ่านเครื่องขยายเสียงถึงการทำงานของรัฐบาล อาทิ ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้องของประชาชน เป็นต้น ก่อนที่ฝนจะกระหน่ำตกลงมาอย่างหนักในช่วงเวลา 19.20 น. ทำให้ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ต้องแจ้งให้มวลชนกางร่มที่เตรียมมา เพื่อฟังการปราศรัย ก่อนจะทยอยกันเดินทางกลับในเวลาประมาณ 20.00 น.อย่างสงบ”
[ขอบคุณข้อมูลจาก : เนชั่นทีวี https://www.nationtv.tv/main/content/politics/378502549/]