โปรดใช้วิจารณญาณในการรับข่าว บุคคลที่ปัญญาอ่อนอาจจะอ่านข่าวนี้ไม่รู้เรื่อง

0
82

ขออนุญาตแชร์นะจ๊ะ
โปรดใช้วิจารณญาณในการรับข่าว บุคคลที่ปัญญาอ่อนอาจจะอ่านข่าวนี้ไม่รู้เรื่อง
๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๙
170559-บทความ-โปรดใช้วิจารณญาณในการรับข่าว

สาวกธรรมกายป้อง’ธัมมชโย’ ร้อง’ปปช.’ฟัน’ดีเอสไอ’ผิดม.157 (ประมวลภาพ)
วันจันทร์ ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2559, 10.27 น.
16 พ.ค. 59 เมื่อเวลา 08.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ คณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย อ่านแถลงการณ์ ภายหลังเข้าร้องทุกข์ต่อ ป.ป.ช. กล่าวโทษ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 มาตรา 200 มาตรา 83 และ มาตรา 86
แถลงการณ์ระบุว่า ตามที่ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้ออกหมายเรียกพระเทพญาณมหามุนี (ไชยบูลย์ธมมฺชโย) เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ในฐานะผู้ต้องหากระทำความผิดฐานสมคบกันฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร ทางกลุ่มเห็นว่า พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เคยส่งสำนวนการสอบสวนทั้งหมดไปให้อัยการเพื่อสั่งฟ้องพระธัมมชโย ต่อมาอัยการได้พิจารณาแล้วไม่มีคำสั่งฟ้อง แต่ปรากฎว่าภายหลัง ดีเอสไอ กลับมีการตั้งคดีใหม่เป็นคดีพิเศษที่ 27/2559 ขึ้นมาดำเนินคดีกับพระธัมมชโย ในมูลคดีเดิมที่ได้สอบสวนเสร็จสิ้นไปแล้ว และตั้งข้อหาว่าร่วมกันฟอกเงินและรับของโจร ซึ่งถือว่าเป็นการดำเนินคดีซ้ำซ่อน ขัดกับหลักกฎหมายที่ว่า การกระทำครั้งเดียวจะดำเนินคดีซ้ำซ้อนไม่ได้
[ที่มา : https://www.naewna.com/local/215936]
—————————————–

ดีเอสไอยังไม่ไปธรรมกาย ชี้เอกสารป่วยธัมมชโยยังไม่ครบ ให้ทนายส่งใหม่
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม

16 พฤษภาคม 2559 14:47 น. (แก้ไขล่าสุด 16 พฤษภาคม 2559 16:14 น.)
MGR Online – “ทนายธัมมชโย” ยื่นเอกสารอาการอาพาธเพิ่มเติมให้ดีเอสไอพิจารณาไปแจ้งข้อกล่าวหาที่วัดพระธรรมกายแทน ด้านอธิบดีดีเอสไอชี้หลักฐานไม่ครบให้ส่งมาใหม่ เตรียมประชุมพิจารณาอีกครั้ง 17 พ.ค.นี้
จากกรณีทนายความของพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย มายื่นเอกสารที่ดีเอสไอเพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ไปแจ้งข้อกล่าวหาสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร ตามหมายเรียกครั้งที่ 3 ในวันที่ 16 พ.ค.นี้ เวลา 14.00 น. ที่วัดพระธรรมกาย เนื่องจากมีใบรับรองแพทย์ระบุว่าอาพาธไม่สามารถเดินทางมาได้ในวันเวลาที่นัดหมาย
ล่าสุดวันนี้ (16 พ.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสัมพันธ์ เสริมชีพ ทนายความของพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย พร้อมด้วยแพทย์ที่ทำการรักษา 2 ราย เดินทางมายื่นเอกสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาการอาพาธของพระธัมมชโย รวมทั้งขอให้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอเปลี่ยนแปลงสถานที่แจ้งข้อกล่าวหาเป็นวัดพระธรรมกายแทน
ต่อมา เวลา 11.00 น. นายสัมพันธ์กล่าวเปิดเผยหลังเข้าพบพนักงานสอบสวนว่า วันนี้เดินทางมายื่นเอกสารเกี่ยวกับการรักษาพระธัมมชโยเพิ่มเติมต่อเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ พร้อมพาแพทย์ที่ทำการรักษามาด้วย 2 รายและเป็นผู้ร่วมแถลงเกี่ยวกับอาการอาพาธเมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อให้พนักงานสอบสวนสอบถามและยืนยันว่าอาพาธจริง รวมทั้งแพทย์ที่ทำการรักษาพระธัมมชโยมีจรรยาบรรณคงไม่เอาวิชาชีพตัวเองมาทำให้เสียชื่อและอนาคตแน่นอน ส่วนอาการอาพาธนั้นต้องไปถามแพทย์ที่รักษาเนื่องจากมีคำศัพท์เฉพาะทางเป็นภาษาอังกฤษและภาษาไทยซึ่งตนไม่ค่อยเข้าใจ
นายสัมพันธ์กล่าวอีกว่า สำหรับการเผยแพร่รูปเท้าของพระธัมมชโยเป็นแผลแต่ไม่เห็นใบหน้านั้น จรรยาบรรณแพทย์บอกว่าเป็นสิทธิของผู้ป่วย หากผู้ป่วยไม่ให้ถ่ายก็เป็นสิทธิส่วนบุคคล และถ้าพนักงานสอบสวน จะส่งคณะแพทย์จากส่วนกลางไปร่วมตรวจสอบอาการอาพาธพระธัมมชโยนั้นก็ยินดี นอกจากนี้ ตามหลักการแล้วเจ้าหน้าที่ดีเอสไอสามารถไปแจ้งข้อกล่าวหาที่วัดพระธรรมกายได้และที่ไหนก็ได้ อย่างเช่น กรณีผู้ต้องหาบาดเจ็บอยู่ในโรงพยาบาลก็ไปแจ้งข้อกล่าวหาได้เช่นกัน ทั้งนี้ ยังยืนยันให้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอไปแจ้งข้อกล่าวหาที่วัดพระธรรมกาย และหากมีการขออนุมัติศาลออกหมายจับ ตนก็จะไปคัดค้าน
“ล่าสุดผมพบท่านหลังงานเมื่อวันที่ 22 เม.ย. ท่านก็เริ่มมีอาพาธแล้ว ผมจึงไม่ได้มีการพูดคุยเกี่ยวกับคดีความ แต่เป็นหน้าที่ของผมที่จะดำเนินการแทน ส่วนกระแสข่าวว่าอาจหนีออกนอกประเทศแล้ว ท่านยืนยันจะไม่ไปไหน ขอมรณภาพที่วัด ส่วนเหล่าบรรดาลูกศิษย์วัดร่วมตัวไปคัดค้านที่ ป.ป.ช.นั้น เนื่องจากว่ามีหลายกลุ่ม ไม่ทราบว่าใครจะไปทำอะไรบ้าง ทั้งนี้ กลุ่มลูกศิษย์เคยมาปรึกษากับทนายวัดพระธรรมกายแต่ก็ทะเลาะกันทุกที ความเห็นของนักกฎหมายไม่ตรงกัน อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าหากเจ้าหน้าที่ดีเอสไอไปแจ้งข้อกล่าวหาที่วัดพระธรรมกาย ผมรับรองจะไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พร้อมทั้งต้อนรับอย่างดี”
จากนั้นเวลา 12.30 น. พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วย พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ รองอธิบดีดีเอสไอ พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล ผู้บัญชาการสำนักคดีการเงินการธนาคาร ร่วมแถลงหลังการประชุมพนักงานสอบสวนร่วมอัยการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดย พ.ต.อ.ไพสิฐกล่าวว่า ทนายความและแพทย์ที่รักษาพระธัมมชโยได้มายื่นเอกสารเพิ่มเติมแต่ยังไม่ครบถ้วนเนื่องจากไม่มีการเซ็นมอบอำนาจจากพระธัมมชโย และไม่มีเอกสารขั้นตอนการรักษา หรือเวชระเบียน โดยพนักงานสอบสวนให้ทีมทนายนำเอกสารมายื่นใหม่อีกครั้ง วันพรุ่งนี้ (17 พ.ค.) ก่อนประชุมในเวลา 10.00 น. เพื่อพิจารณาว่าจะไปแจ้งข้อกล่าวหาที่วัดพระธรรมกายตามคำร้องขอหรือไม่ ทั้งนี้ ส่วนใหญ่ผู้ต้องหาจะมารับทราบข้อกล่าวหาที่ ดีเอสไอ เพราะจะมีหนังสือส่งไปยังผู้ต้องหาได้รับทราบก่อน
พ.ต.อ.ไพสิฐกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีทางลูกศิษย์วัดพระธรรมกายรื้อฟื้นคดีเก่าขึ้นมาใหม่เนื่องจากนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด กระทำความผิดต่างกรรมต่างวาระและโดนดำเนินคดีหลายข้อหา ทั้งฉ้อโกงประชาชน, ยักยอกทรัพย์, ลักทรัพย์นายจ้าง ฯลฯ แต่คดีนี้เป็นคดีฟอกเงิน รับของโจรก็ต้องดำเนินคดี นอกจากนี้ กรณีลูกศิษย์วัดพระธรรมกายรวมตัวไปฟ้อง ป.ป.ช.เป็นสิทธิทำได้แต่ขอยืนยันพนักงานสอบสวนดีเอสไอทำตามกระบวนการกฎหมายและสามารถชี้แจงได้
[ที่มา : https://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx…]
—————————————–

นำภาพและข่าวสถานการณ์เบี้ยวนัดของอลัชชีธัมมชโยมาให้ท่านทั้งหลายได้อ่านได้ชมกัน เผื่อผู้มีสติปัญญาจะเมตตา สมเพช หาทางออกให้กับผู้ต้องหาที่กำลังป่วยใกล้ตายได้เห็นทางสว่าง
อีกทั้งยังประสงค์จะแนะนำให้ท่านผู้อ่านได้กรุณาจับประเด็นสำคัญในการต่อสู้ของสาวกทาสธรรมกายที่ยกขึ้นมาอ้าง
๑. เจ้าลัทธิกำลังป่วยอาการหนัก หากเดินทางอาจถึงตาย
๒. ขอให้ดีเอสไอเดินทางไปแจ้งข้อกล่าวหา ณ ที่พักของเจ้าลัทธิ
๓. สาวกทาสอ้างข้อต่อสู้คดีว่า ดีเอสไอบังอาจรื้อฟื้นคดีที่จบไปแล้วขึ้นมากล่าวหา ผิดหลักกฎหมาย
คำอธิบายชี้แจงของดีเอสไอในแต่ละประเด็นมีดังนี้
– ที่ทนายธรรมกายและแพทย์ผู้ให้การรักษามายื่นเอกสารคัดค้านการเดินทางมาให้ปากคำที่ดีเอสไอของเจ้าลัทธิอลัชชี
– แต่ดีเอสไอสรุปว่าเอกสารไม่สมบูรณ์
– ไม่มีลายเซ็นใบมอบอำนาจของเจ้าลัทธิ
– ไม่มีเอกสารแจ้งขั้นตอนในการรักษาหรือเวชระเบียน
– ภาพถ่ายแสดงอาการป่วยของเจ้าลัทธิไม่เห็นใบหน้า เห็นแต่ขา จึงไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นขาใคร
– โดยดีเอสไอให้เวลาทนายกลับไปรวบรวมเอกสารหลักฐานมาชี้แจงให้ครบภายในวันที่ ๑๗ พ.ค. นี้ก่อนที่ดีเอสไอจะประชุมกันในเวลา ๑๐ โมงเช้า
กรณีปัญหาข้อเรียกร้องของทนายและแพทย์ให้ดีเอสไอเดินทางไปแจ้งข้อกล่าวหาที่สำนักธรรมกาย
ดีเอสไอแจ้งว่าทีมงานจะต้องประชุมกันก่อนแล้วจึงให้คำตอบ แต่ส่วนใหญ่โดยทั่วไปผู้ต้องหาจะต้องมารับทราบข้อกล่าวหาที่ดีเอสไอกันทั้งนั้น
กรณีปัญหาข้อต่อสู้ของสาวกทาสธรรมกายอ้างว่าดีเอสไอมีเจตนาไม่บริสุทธิ์ ไปรื้อฟื้นคดีที่จบไปแล้วขึ้นมาพิจารณาใหม่ ถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ดีเอสไอชี้แจงว่า คดีนี้มีข้อกล่าวหาหลายข้อกล่าวหา เช่น
ฉ้อโกงประชาชน ยักยอกทรัพย์ ลักทรัพย์นายจ้าง
แต่คดีนี้เข้าข่ายคดีฟอกเงินและรับของโจร มีการกระทำผิดต่างกรรมต่างวาระจึงต้องดำเนินคดี
ฉันสรุปเนื้อข่าวออกมาเป็นประเด็นๆ แบบคร่าวๆ เพื่อให้พวกท่านทั้งหลายได้เข้าใจสถานการณ์
แต่ก็ขอเตือนพวกสาวกทาสธรรมกายว่า
โปรดใช้วิจารณญาณในการรับข่าว บุคคลที่ปัญญาอ่อนอาจจะอ่านข่าวนี้ไม่รู้เรื่องนะจ๊ะ

พุทธะอิสระ