ขออนุญาตแชร์นะจ๊ะ

0
83

ขออนุญาตแชร์นะจ๊ะ
๕ พฤษภาคม ๒๕๕๙

050559-บทความ-ขออนุญาตแชร์นะจ๊ะจานบินดิ้นป้อง’ธัมมชโย’ DSIจับตา15พค.ระดมคน
“บิ๊กต๊อก” สั่งดีเอสไอเกาะติดธรรมกายระดมศิษย์หมื่นคน 15 พ.ค.นี้ วอนลัทธิจานบินอย่าเดินนอกกระบวนการยุติธรรม เตือนวุ่นวายแน่ ขณะที่ลูกศิษย์ธัมมชโยบุกศูนย์ดำรงธรรมปทุมธานี ขอความเป็นธรรมให้เจ้าลัทธิ อ้างคืนแล้วจบ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนฯ ถอนฟ้องแล้ว แต่ดีเอสไอกลับเล่นงานต่อ

พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวเมื่อวันพุธ ถึงกรณีความเคลื่อนไหวของกลุ่มลูกศิษย์พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ซึ่งถูกดีเอสไอออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาในความผิดฐานสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงินและรับของโจร เตรียมเดินทางเข้ายื่นเรื่องขอความเป็นธรรมต่อศูนย์ดำรงธรรม และสำนักงานพระพุทธศาสนาประจำจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ รวมถึงเรียกร้องให้ดีเอสไอยุติการดำเนินคดีกับพระธัมมชโยว่า บอกไปแล้วว่าขอให้ใช้กระบวนการยุติธรรม ใช้ทิศทางที่ราชการได้กำหนดไว้ ซึ่งการร้องไปยังศูนย์ดำรงธรรมก็เป็นสิทธิ์ของเขา และเป็นการรักษาสิทธิ์ของประชาชนทั่วไปที่สามารถทำได้

เขากล่าวว่า ทางราชการก็คงจะชี้แจงว่าเหตุผลเพราะอะไร อย่างไรก็ตาม อยากให้ทำในกระบวนการยุติธรรม หากมีข้อสงสัยไม่ได้รับความเป็นธรรมในประเด็นใด ก็ขอให้มาที่กรมสอบสวนคดีพิศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งตนได้สั่งอธิบดีดีเอสไอไปแล้วว่า ถ้าผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีมีความสงสัย ก็ให้ตอบคำถามให้หมด ดีกว่าการที่เขาจะไปใช้แนวทางอื่นที่ไม่ใช่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งมันจะไม่ถูกต้อง และอาจทำให้เกิดความวุ่นวายและปัญหาที่เชื่อมโยงกับคดีได้ ดังนั้นจึงอยากให้นัดหมายมาโดยตรงที่อธิบดีดีเอสไอ เพราะจะได้ชี้แจงให้ทราบเลย เพราะเป็นนโยบายของตนอยู่แล้ว

ถามถึงกรณีวัดพระธรรมกายเตรียมระดมลูกศิษย์เข้าวัดพระธรรมกาย 10,000 คน ในวันที่ 15 พ.ค.นี้ ก่อนวันวิสาขบูชา พล.อ.ไพบูลย์ตอบว่า อยากให้มองในแง่บวก เพราะทุกคนก็มีสิทธิ์ที่จะทำกิจกรรมทางศาสนา จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่ได้สั่งให้อธิบดีดีเอสไอได้คอยติดตามเรื่องดังกล่าวอยู่แล้วในฐานะเจ้าของเรื่อง แต่เรื่องทั้งหมดถ้ามีอะไรแอบแฝงมันก็จะมุ่งไปสู่สิ่งที่สื่อถาม มันก็อาจจะมุ่งไปสู่ความไม่เรียบร้อย ตรงนั้นก็เป็นเรื่องของฝ่ายความมั่นคง

“ผมเข้าใจสิ่งที่สื่อถามในเชิงว่าการออกมารวมตัวในครั้งนี้จะเป็นการรวมตัวป้องกันในทางที่ไม่ใช้กระบวนการทางกฎหมายใช่หรือไม่ ซึ่งผมก็เคยถามว่าทำไมสื่อถึงคิดแบบนี้ ผมก็เชื่อว่าในสังคมนี้หากใครทำอะไรที่ไม่เป็นธรรมชาติแล้ว ใครก็มองในแง่มุมหนึ่งได้ มันก็หมิ่นเหม่ที่วัดพระธรรมกายจะจัดกิจกรรมในลักษณะที่มันไม่สอดคล้อง เช่นที่สื่อถามผมด้วยประเด็นที่ว่ามีอะไรเคลือบแคลง ซึ่งสื่อถามผมลักษณะนี้ ผมก็ตอบไปว่ามันเป็นเรื่องกิจกรรมทางศาสนา ซึ่งผมมองในแง่บวก แต่อีกมุมมองหนึ่งคนจะมองอีกมุมหนึ่งได้ ซึ่งมันก็จะกลับไปที่วัดพระธรรมกายจะต้องตอบคำถาม”

ถามต่อว่า หากในวันที่ 16 พ.ค.นี้ พระธัมมชโยไม่เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก จะดำเนินการอย่างไร รมว.ยุติธรรมตอบว่า ก็ต้องทำเรื่องไปที่ศาล เพราะเราไม่สามารถออกหมายจับเองได้ ซึ่งก็บอกไปหลายครั้งแล้วว่าก็ต้องทำแบบนี้ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลว่าจะมีดุลยพินิจอย่างไร เพราะในแง่มุมครั้งที่แล้วคือเหตุผลของการเจ็บป่วย และไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ศาลจึงให้ออกหมายเรียกอีกครั้ง แต่ในวันที่ 16 พ.ค.นี้ ยังไม่ทราบว่าจะออกมาประเด็นอะไร ถ้าออกมาเจ็บป่วย พนักงานสอบสวนก็คงจะพิจารณา อีกทั้งที่ผ่านมา เขาก็พิจารณาแล้วว่าพระธัมมชโยสามารถเดินทางมาได้ ทั้งนี้ เราก็ต้องเอาเหตุผลของแพทย์มาประกอบ เพราะเราก็เชื่อว่าแพทย์มีจริยธรรมอยู่แล้ว

พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล ผู้บัญชาการสำนักคดีการเงินการธนาคาร กรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า ถ้าวันที่ 16 พ.ค.นี้ พระธัมมชโยไม่มาตามนัด ดีเอสไอจะประชุมเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป เพราะการที่ดีเอสไอนำหมายเรียกไปติดไว้ที่หน้าวัดพระธรรมกายถือว่าทำสมบูรณ์แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศิษย์ธัมมชโยนำโดยนายอดิศักดิ์ วรรณสิน นายกสมาคมพุทธศาสน์สัมพันธ์ พร้อมสมาชิกกว่า 100 คน ได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ที่ศูนย์ดำรงธรรม และสำนักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดปทุมธานี โดยมีนายธวัชชัย ศรีทอง หัวหน้าสำนักงานจังหวัดปทุมธานี เป็นตัวแทนรับหนังสือเพื่อนำเสนอต่อผู้บังคับบัญชา

นายอดิศักดิ์เผยว่า สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนฯ ได้ถอนฟ้องพระเทพญาณมหามุนี และวัดพระธรรมกาย พร้อมทำหนังสือแสดงเจตจำนงไม่ประสงค์จะดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและทางอาญากับพระเทพญาณมหามุนีและวัดพระธรรมกาย ซึ่งได้ทำหนังสือขอบคุณมายังคณะลูกศิษย์ ถือว่าคดีจบ แล้วยังมาฟ้องเอาผิดเพื่ออะไร สมาคมพุทธศาสน์สัมพันธ์จึงเห็นว่าดีเอสไอ ไม่ได้ให้ความเป็นธรรมกับพระมหาเถระที่ตั้งใจทำความดี

ด้านนายธวัชชัย ศรีทอง หัวหน้าสำนักงานจังหวัดปทุมธานี เปิดเผยว่า หลังรับหนังสือได้ลงรับเลขที่ 1366 ลงวันที่ 4 พ.ค.2559 และจะได้นำเรียนผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

พระสุวิทย์ ธีรธมฺโม หรือพระพุทธะอิสระ แห่งวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม เข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ตรวจสอบสำนักพระพุทธศาสนา (พศ.) กรณีให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชเบิกเงินอุดหนุนศาสนกิจประจำตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช ว่าเป็นการดำเนินการชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ โดยหลวงปู่พุทธะอิสระกล่าวว่า ต้องการให้ผู้ตรวจฯ ตรวจสอบว่าผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชต้องได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งด้วยหรือไม่ และมีอำนาจศักดิ์และสิทธิเท่าเทียมกับสมเด็จพระสังฆราชหรือไม่

พระพุทธะอิสระระบุว่า เท่าที่ทราบ สตง.ยังมีการยับยั้งการเบิกของสำนักพุทธฯ เพราะฉะนั้นแสดงว่าที่ผ่านมาเงินอุดหนุนส่วนนี้ไม่น่าจะเบิกมาใช้ได้ จึงอยากขอให้ทางผู้ตรวจฯ ดำเนินการตรวจสอบกรณีดังกล่าว เพื่อให้เกิดความชัดเจนจะได้ไม่เป็นข้อกังขาของคนในสังคม และจะได้นำไปสู่การชี้มูลในเรื่องอื่นๆ ต่อไป..

[ที่มา: https://www.thaipost.net/…]