ขออนุญาตแชร์นะจ๊ะ
ปูดอีก ! ศิษย์ธรรมกายเล่นแร่แปรธาตุที่ดินพันไร่
๒๗ เมษายน ๒๕๕๙
ปูดอีก !
ศิษย์ธรรมกายเล่นแร่แปรธาตุที่ดินพันไร่
ขายได้แบ่งกันเท่าไหร่ ดีเอสไอตามเช็คบิลล์ !
อา..ก็ไม่มีอะไร นายสถาพรเคยให้การว่า “ทำธุรกิจตั้งแต่ครั้งยังอยู่ในผ้าเหลือง” ก็ในวัดอะไรนั่นแหละ สึกปุ๊ปรวยปั๊บ แต่แปลก ! มหาเศรษฐีหมื่นล้าน “ซุกหัว” อยู่ในห้องเช่าเก่าๆ โทรมๆ พอๆ กับหมาจรจัด ทุกวันนี้ก็ยังไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนเป็นหลักแหล่ง หรือจะเป็นทฤษฎี”อยู่อย่างต่ำ ทำอย่างสูง” ก็เป็นได้ นี่ไง โป้งรวย โป้งรวย ตัวจริง !
ซ้าย : สถาพร ขวา : ศุภชัย
โหงงเฮ้งคนรวยตามสูตรธัมมชโย
บริษัทอดีตพระธรรมกายโผล่รับเงินค่าที่ดิน “ศุภชัย” 40 ล้าน-อดีตนายแบงก์คนสั่งโอน
ในการขายที่ดินของนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น 1,822 ไร่ วงเงิน 477 ล้านบาท ตามมติของคณะกรรมการประสานดำเนินการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย ที่มีตัวแทนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และตัวแทนสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ร่วมด้วยนั้น
หลายคนอาจทราบไปแล้วว่า บริษัท พิษณุโลกเอทานอล จำกัด เอกชนผู้มาซื้อที่ดินดังกล่าว สั่งจ่ายแคชเชียร์เช็ค 6 ใบ โดยโอนคืนสหกรณ์ฯ เพียง 100 ล้านบาท และสั่งจ่ายคืนนายศุภชัยถึง 249 ล้านบาท ขณะเดียวกันมีการจ่ายเช็คให้กับนายณฐพร โตประยูร ที่ปรึกษาด้านกฎหมายประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน (นายศรีราชา วงศารยางกูร) จำนวน 60 ล้านบาท (แบ่งให้กลุ่มนายหน้า 40 ล้านบาท ผู้ร่วมงาน 5 ล้านบาท ตัวเองได้ 15 ล้านบาท) ทั้งที่ไม่ปรากฏรายชื่อในสัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน
อย่างไรก็ดี สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบแคชเชียร์เช็คที่สั่งจ่ายเงินค่าที่ดินดังกล่าว ไม่ปรากฏชื่อของนายศุภชัยแต่อย่างใด ?
แต่จากการตรวจสอบพบว่า นอกเหนือจากแคชเชียร์เช็คข้างต้นแล้ว ปรากฏใบเสร็จในการโอนเงินผ่านระบบบาทเนต (BATHNET) จากธนาคารกรุงเทพ สาขาทาวน์ อิน ทาวน์ เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 2557 เข้าบัญชีกลุ่มคนต่าง ๆ บริษัทเอกชน และสหกรณ์อื่น ๆ รวม 5 ฉบับ
ปรากฏชื่อ ‘โชคอนันต์’ เป็นผู้สั่งโอน โดยหักจากบัญชีธนาคารเลขที่ 905-7-026xx-x
โดยในใบเสร็จการโอนเงินดังกล่าว พบชื่อ S.W. HOLDING GROUP ได้รับเงิน 40 ล้านบาท ปรากฏธนาคารกรุงไทย สาขาตลาดไท กทม. เป็นธนาคารผู้รับโอนด้วย
สำหรับ S.W. HOLDING GROUP ปรากฏชื่อ นายสถาพร วัฒนาศิรินกุล อดีตพระลูกวัดธรรมกาย เป็นเจ้าของและผู้ถือหุ้นใหญ่จำนวน 1,110 ล้านบาท โดยบริษัทดังกล่าวถูก ปปง. อายัดไว้ ภายหลังตรวจสอบพบว่า หุ้นจำนวนดังกล่าว เคยปรากฏชื่อของนายศุภชัยเป็นผู้ถือครอง ก่อนโอนต่อไปให้นายสถาพร
โดยในการก่อตั้งบริษัทเมื่อเดือน มี.ค. 2554 มีทุนจดทะเบียนเพียง 10 ล้านบาท ต่อมาเมื่อเดือน เม.ย. 2554 ได้แจ้งเพิ่มทุนเป็น 1,111 ล้านบาท โดยแหล่งเงินที่นำมาเพิ่มทุนมาจากนายสถาพรกว่า 1,090 ล้านบาท
ต่อมาเมื่อเดือน ก.ย. 2555 บริษัทแจ้งเพิ่มกรรมการใหม่ 1 คน คือนายศุภชัย พร้อมเพิ่มทุนจดทะเบียนอีกครั้ง วงเงิน 5,550 ล้านบาท โดยแหล่งเงินที่นำมาเพิ่มทุนครั้งนี้มี 3 แหล่ง คือนายสถาพร จำนวน 2,774 ล้านบาท นายศุภชัย จำนวน 1,110 ล้านบาท และนางรินนา วัฒนาศิรินุกุล (นามสกุลเดียวกับนายสถาพร) 550ล้านบาท
ข้อมูลจากสำนักงาน ปปง. ระบุว่า นายสถาพร เคยบวชเป็นพระอยู่ในวัดธรรมกาย มานานกว่า 20 ปี ก่อนจะสึกออกมาเมื่อปี 54 ซึ่งเป็นช่วงปีเดียวกับที่มีการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท เอส.ดับบลิว.โฮลดิ้งกรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด
ขณะที่บริษัท อยู่ห่างจากวัดพระธรรมกายประมาณ 1 กิโลเมตร ส่วนการตรวจสอบตู้เซฟของบริษัทฯ สำนักงาน ปปง. พบว่า ทรัพย์สินมีค่าจำนวนมาก บางชิ้นเป็นของศักดิ์สิทธิ์มีความเชื่อมโยงไปถึงวัดพระธรรมกายด้วย
(อ่านประกอบ : หลักฐานมัด “ศุภชัย” ขนเงินสด 1.1 พัน ล. จ่าย บ.อดีตพระธรรมกาย ก่อนโดนอายัด, แกะรอย”อดีตพระธรรมกาย”เพิ่งสึกใหม่!ไฉนมีเงินสด 3.8 พัน ล. ตั้ง บ.อสังหาฯ, 1.64 หมื่นล้าน! ขุมธุรกิจ “อดีตพระธรรมกาย” ขนเงินลงทุน 7 บริษัท, ข้อมูลลับ ปปง.! เส้นทางเงิน 100 ล. อดีตพระธรรมกาย โผล่ลาว ตามคืนไม่ได้แล้ว?, ข้อมูลใหม่ อดีตพระธรรมกาย ซุกตัวแฟลตทหาร โผล่ตั้ง บ.ในลาว คนแห่เรียก”บอส”)
ขณะเดียวกันก่อนหน้านี้ นายณฐพร โตประยูร ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศรา กรณีกลุ่มนายหน้าที่ได้รับเงินไปจำนวน 40 ล้านบาทตอนหนึ่งว่า มีบุคคลชื่อ‘โชคอนันต์’ ลงชื่อเป็นพยานในสัญญานายหน้าขายที่ดิน แต่จำนามสกุลไม่ได้ รู้แค่เป็นอดีตผู้จัดการธนาคาร
ซึ่งตรงกันกับ ‘โชคอนันต์’ ที่ปรากฏชื่อเป็นผู้สั่งโอนเงินผ่านระบบบาทเนต 5 ฉบับข้างต้น
นอกจากนี้ ธนาคารที่ ‘โชคอนันต์’ ดำเนินการโอนเงินคือ ธนาคารกรุงเทพ สาขาทาวน์ อิน ทาวน์ ซึ่งเป็นสถานที่เดียวกันกับการโอนแคชเชียร์เช็คสั่งจ่ายนายณฐพร 3 ฉบับ รวม 60 ล้านบาท นอกจากนี้วันที่ในการโอนยังตรงกันคือวันที่ 9 ม.ค. 2557 อีกด้วย
ที่มา : สำนักข่าวอิศรา : 27 เมษายน 2559
…………………………………………
นี่ไง ความศักดิ์สิทธิ์ของประติมากรรมสวรรค์ ชิตังเม โป้งรวย โป้งรวย แอ๊ะ แอ๋
ตาสว่างหรือยังหล่ะ สาวกทาสทั้งหลาย
หรือเห็นว่า นี่เป็นพฤติกรรมปกติธรรมดาของอลัชชีในลัทธินี้
ที่หากินจากความศรัทธา แหกตาชาวบ้านจนร่ำรวย
เชื่อเถอะต่อให้มีหลักฐาน ถูกจับส่งฟ้องศาล จนศาลตัดสินติดคุก
พวกทาสอลัชชีผู้ซื่อสัตย์ก็จะบอกว่า ผมถูกใส่ร้าย หนูถูกกลั่นแกล้ง กระบวนการยุติธรรมลำเอียง
การยอมรับกฎหมาย และสำนึกถูกผิด หาได้ยากจากอลัชชีพวกนี้
พุทธะอิสระ
[ขอบคุณข้อมูลจาก: www.alittlebuddha.com]