เอ้า พวกลัทธิอลัชชี ดูซะ
๒๗ เมษายน ๒๕๕๙
ฉันเดินทางไปทองผาภูมิ เพื่อไปดูสถานที่ปลูกต้นไม้ ระหว่างทาง เห็นแถวภิกษุสามเณร เดินเท้าอยู่ข้างทาง จึงสั่งให้ช่างภาพบันทึกภาพเอาไว้
ขณะที่อุณหภูมิ ๔๐ องศา ในเวลา ๓ โมงเย็น
จากนั้น เป็นเวลา ๖ โมง ๔๐ กว่านาที ยังเห็นแถวพระเณร เดินกันหน้าดำ คิดในใจว่า เสียดาย เราไม่ได้นำน้ำหรือปานะติดมาด้วย
อยากถวายน้ำและปานะ แก่พระเณรกลุ่มนี้จริงๆ จึงสั่งให้จอดรถ พร้อมให้เจ้าวารินทร์และเจ้าแป๊ะ ลงไปถาม แล้วนิมนต์ให้ไปพักที่ธุดงคสถาน ณ ศูนย์ธรรมชาติบำบัดทองผาภูมิ ที่อยู่เลยจากนี้ประมาณ ๓ กิโล จะได้ถวายน้ำปานะด้วย
ได้รับแจ้งจากพระอาจารย์พี่เลี้ยงว่า จะแวะพักที่จุดนัดคือ โรงพยาบาลทองผาภูมิ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากนี้มากนัก เพราะพระเณรเริ่มอิดโรย อ่อนเพลีย กันมากแล้ว
เณรเดินเท้าเช่นนี้มา ๓ วันแล้ว
วันละสิบกว่าโล
แม้จะไม่ครบสูตรของการเดินธุดงค์
ที่ต้องเดินตามชายป่า หรืออยู่ในป่า
แต่ก็ถือว่า เป็นการเดินบนถนนที่ตัดลัดเลาะไปตามแนวป่าทองผาภูมิ
ถือได้ว่าเป็นการเดินย่างกิเลสให้เร่าร้อน
แม้จะสำรอกกิเลส ยังไม่ได้
สำหรับเด็กๆ เณรน้อยๆ ที่ยังไม่ค่อยเข้าใจอะไรมากนัก
แต่สิ่งที่พวกเขาได้ คือ การฝึกฝนตนเอง ให้มีความอดทน
มีระเบียบวินัย ควบคุมพฤติกรรมตนเองได้
ต้องขอชื่นชม อนุโมทนา แด่คณะพระครูบาอาจารย์ ผู้มากไปด้วยเมตตาทุกรูป ที่เสียสละ นำพาลูกเณร หลานเณร ออกเดินธุดงค์
ให้ได้สัมผัสถึงพุทธวิถี แห่งพระธรรมคำสอนที่แท้จริงของพระพุทธเจ้า
ไม่เหมือนลัทธิอลัชชี ที่สอนให้เดินธุดงค์ แสวงหาลาภ
จัดธุดงค์อีเว้นท์ เพื่อโฆษณา มอมเมาผู้คน ให้หลงเชื่อ อย่างผิดธรรม ผิดวินัย
เดินแบบอลัชชี ที่ต้องมีคนนั่งโปรยกลีบดอกไม้เช่นนี้
นอกจากจะสำรอกกิเลสไม่ออกแล้ว
ยังเป็นการพอกพูนตัณหา อวิชชา อุปาทาน ชั่วร้ายอีกตะหาก
ท่านทั้งหลาย ที่เรียกตัวเองว่า เป็นพุทธบริษัท ก็ควรจะให้มีปัญญาวิเคราะห์ เลือกสรรเอาเองว่า จะเชื่อพระพุทธเจ้า หรือจะเชื่ออลัชชี
พุทธะอิสระ