อัยย่ะ ไม่รู้จะสมเพชดี หรือว่า สมน้ำหน้าดี
๒๕ เมษายน ๒๕๕๙
จากผู้ต้องสงสัย ศาสดาต้นธาตุ ต้นธรรม มีสติปัญญา ทำให้ตัวเองกลายเป็นผู้ต้องหาได้
ถือว่า สติปัญญา เจ้าลัทธิอลัชชีนี้ ช่างล้ำเลิศจริงๆ พุทธะอิสระเทียบไม่ติดจริงๆ
แล้วบรรดาสาวกทั้งหลาย จะแถกแถกันอย่างไรหล่ะทีนี้
หรือจะกลับมาใช้มุกศิษย์รักหน้าเหลี่ยมสาวกว่า เจ๊ถูกกลั่นแกล้ง เจ๊ถูกใส่ร้าย
ยังไง ยังไง ก็ต้องขอเตือน พวกทาสที่คลั่งไคล้ในตัวศาสดาทั้งหลายว่า อย่าปล่อยให้เจ้าลัทธิตัวเองกระทำอัตวินิบาตกรรมตามผีเฮียเหนาะไปหล่ะ
เพราะสนิทชิดเชื้อกันอยู่มิใช่หรือ
ยังไง ยังไง งานนี้ดูแล้วน่าจะรอดยาก
มีอยู่วิธีเดียวแหละที่จะรอด
คือ นั่งเครื่องบินส่วนตัวหนีออกไปนอกประเทศ
ไปลงลาว เขมร พม่า หรือสิงคโปร์ มาเล อะไรก็ว่าไป
แล้วค่อยต่อเครื่องบินไปลงที่ประเทศปาราชิก
ที่มีรุ่นพี่อย่าง ยันตระ สมีคำ และคนอื่นๆ รออยู่
แต่ก็ดูจะยากนะ
เพราะพุทธะอิสระ ได้ไปยื่นหนังสือต่อดีเอสไอ และสำนักงานตรวจคนเข้า – ออกเมือง ให้ตรวจตราดูแล สกัดกั้นผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง และฟอกเงิน เช่น นายไชยบูลย์ และพวกเอาไว้แล้ว
หากศาลออกหมายจับจริง แสดงว่าความผิดปรากฏชัด มีหลักฐานบ่งชี้ว่า เป็นบุคคลต้องห้ามเดินทางเข้า หรือ ออกประเทศใดๆ
นี่แค่ดอกแรกนะจ๊ะ บรรดาทาสทั้งหลาย
ยังมีเจ้าทุกข์อีก ๒,๐๐๐ กว่าราย เตรียมตัว จะมอบของขวัญวันเกิดให้ ด้วยคดีฟ้องแพ่ง เรียกค่าเสียหายเป็นเงินไม่ต่ำกว่า ๒,๐๐๐ ล้าน รออยู่
ตามด้วยคดีนำความเท็จขึ้นสู่ระบบคอมพิวเตอร์ อวดอุตริมนุสธรรม
คดีแต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์ ในสถานะที่เป็นปาราชิกมาตั้งแต่ปี ‘๔๒ เรื่องพระลิขิต
ทั้งยังมีคดีดูหมิ่นเบื้องสูง มาตรา ๑๑๒ ไม่ได้เป็นพระแต่หลอกลวงขอพระราชทานสมณศักดิ์ในปี ‘๕๔
งานนี้คงจะโดนกันเป็นเข่ง
ก็เตือนแล้ว บอกแล้ว กลับไม่เชื่อ
ต้องขอขอบคุณ ขอบใจ เจ้าหน้าที่ดีเอสไอทุกท่าน
ตลอดจนถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ท่านอธิบดีดีเอสไอ รัฐบาล และคุณประยุทธ์
ที่ทำให้กฎหมาย กลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีผลบังคับใช้กับทุกคนโดยไม่ยกเว้น
ขอบคุณ ขอบคุณมากๆ จากใจคนรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
พุทธะอิสระ