พระธรรมปัญญาภรณ์ (ไพบูลย์ ชินวํโส) เจ้าคณะจังหวัดราชบุรี
๗ เมษายน ๒๕๕๙
เจ้าคณะจังหวัดราชบุรีสั่งระงับโครงการตักบาตรของธรรมกาย
วันที่ 31 มีนาคม 2559 มีรายงานว่า ตามที่สำนักผาสุกวณิช ต.คุ้งน้ำวน อ.เมือง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นสำนักที่มีความเกี่ยวข้องต่อวัดพระธรรมกาย จะจัดโครงการตักบาตรสามเณร 1 หมื่นรูป ในวันที่ 9 เมษายนนี้ ที่บริเวณถนนคฑาธร หน้าโรงเรียนดรุณาราชบุรี ทำให้มีกลุ่มคนออกมาคัดค้านเนื่องเกรงว่าจะเกิดเหตุใหญ่ ต่อมา นายธวัช สุระบาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ได้มีหนังสือถึงหัวหน้าส่วนราชการ องค์กรภาครัฐ และเอกชน พร้อมทั้งสื่อมวลชนให้ทราบโดยอ้างถึงพระธรรมปัญญาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดราชบุรี ได้พิจรณาแล้วเห็นควรระงับการจัดกิจกรรมพิธีตักบาตรสามเณร 1 หมื่นรูป ในวันเสาร์ที่ 9 เมษายน เวลา 16.00 น.ที่บริเวณถนนคฑาธร หน้าโรงเรียนดรุณาถึงสี่แยกห้างโลตัสราชบุรี ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความสงบสุขของบ้านเมือง เนื่องจากประชาชนบางกลุ่มไม่เห็นด้วยต่อวัดพระธรรมกาย ประกอบกับสถานการณ์บ้านเมืองอยู่ในภาวะที่ไม่ปกติ
ที่มา : คมชัดลึก : 1 เมษายน 2559
………………………………………………….
นี่แหละฮีโร่ตัวจริง ตัวอย่างของพระมหาเถระที่กล้าออกมาชนกับลัทธิอลัชชีหากินโดยใช้การเดินธุดงค์ การบิณฑบาตรบังหน้า อ้างความยากลำบากของคณะสงฆ์ภาคใต้ ทั้งที่สิ่งของทรัพย์สินที่เรี่ยไรได้มหาศาล แต่เจียดจ่ายให้แต่ละวัดน้อยแค่น้อยนิด
แท้จริงแล้วก็คือการตระเวนระดมทุน ระดมคน ระดมศรัทธา เพื่อนำมาเป็นฐานอำนาจปกป้องคุ้มกะลาหัวเจ้าลัทธิปาราชิกให้อยู่ยั่งยืนยงและมั่นคงในสถานภาพของผู้ปลอมบวชที่ศาสดาเจ้าลัทธิได้พ้นสภาพความเป็นพระไปตั้งแต่ปี ๔๒ แล้ว
พระดีที่เป็นศักดิ์ เป็นศรี ของพระธรรมวินัยและกล้าหาญเสียสละที่ออกมาชนกับลัทธิอลัชชีธรรมกายอย่างหลวงพ่อพระเดชพระคุณเจ้าคณะจังหวัดราชบุรีองค์นี้
ดูจะหาได้ยากในยุคนี้
มีแต่พวกที่วางเฉย ไม่อยากยุ่ง ไม่อยากเดือดร้อน
พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระธรรมปัญญาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดราชบุรี พระมหาเถระรูปนี้ถือได้ว่าเป็นต้นแบบของเนื้อนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า
ท่านได้ทำหน้าที่ของสงฆ์สาวกศากยวงศ์ที่ซื่อตรง ปกปักษ์รักษาพระธรรมวินัยดุจดังพระบรมศาสดา
อยากเรียกร้อง วิงวอน หมู่สงฆ์ผู้ทรงไตรสิกขาทั้งหลาย
ช่วยกันออกมาแสดงจุดยืนที่เด่นชัดในการรักษาพระธรรมวินัย
อย่าปล่อยให้อลัชชีแห่งลัทธิธรรมกายมากินรวบสังฆมณฑลอยู่เช่นนี้เลย
หากวันนี้พวกเราไม่ช่วยกันแสดงพลังขับไล่ลัทธิกินรวบสังฆมณฑลอย่างธรรมกาย
ไม่รู้ว่าอีกร้อยปีพวกเราจะมีโอกาสได้ฟื้นฟูพระธรรมวินัยที่บริสุทธิ์บริบูรณ์ให้กลับคืนมาเป็นมรดกสงฆ์มอบให้ยุวสงฆ์ในอนาคตได้หรือไม่
วันนี้เรามีรัฐบาลที่เขาพร้อมจะเดินเคียงบ่าเคียงไหล่กับคนไทยผู้มีหัวใจรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
สงฆ์ไทยที่ซื่อตรงผู้รักภักดีต่อหลักพระธรรมวินัยของพระบรมศาสดา ควรใช้โอกาสนี้ขอให้รัฐบาลที่เขาพร้อมจะเป็นแขนเป็นขา เป็นแรงให้พวกเราเหยียบยืน รุกไล่ กำจัดอลัชชีชั่วร้ายให้พ้นไปจากสังฆมณฑล
ลุกขึ้นเถิดพี่น้องสงฆ์ไทย อย่าให้โอกาสสูญเปล่า รักษาพระธรรมวินัยของเรา เหมือนดังพงษ์เผ่าตนตระกูลไทย
หากพวกเราเหล่าภิกษุสงฆ์ผู้มีหน้าที่โดยตรงที่จะสืบทอดอุดมการณ์ของพระบรมศาสดา กลับปล่อยให้อลัชชีทั้งหลายทำการย่ำยีบิดเบือนพระธรรมวินัย แล้วไม่คิดจะทำอะไรกันเลยหรือ
จะไม่เป็นการดูดาย แล้งน้ำใจ ไร้เมตตา ปฏิเสธความรับผิดชอบ ขาดความกตัญญูกันเกินไปดอกหรือ
ที่ว่าดูดาย
เพราะพวกเรามีหน้าที่จะปกปักษ์รักษา สืบทอดอุดมการณ์พระบรมศาสดา เมื่อพบคนทำลายพระธรรมวินัยปรากฏตรงหน้า กลับวางเฉยเช่นนี้ เรียกว่าดูดาย
ที่ว่าแล้งน้ำใจ
เพราะยังมีพุทธศาสนิกชนผู้มีศรัทธา แต่ขาดปัญญา เขาไม่สามารถแยกแยะได้ว่าสิ่งไหนควร สิ่งไหนไม่ควร สิ่งไหนเป็นธรรม สิ่งไหนเป็นวินัย หรือไม่เป็นธรรมไม่เป็นวินัย
พอโดนอลัชชีพูดหลอกล่อหลอกลวงให้หลงเชื่อในอสัทธรรม แล้วไม่มีผู้รู้คัดค้าน ผู้ศรัทธาเหล่านั้นก็จะหลงเชื่อ เข้าใจว่าใช่ ตัวอย่างเช่นบรรดาสาวกของพวกลัทธิธรรมกายเป็นต้น
ทั้งที่พวกเรารู้อยู่อยู่เต็มอกว่า นั่นไม่ใช่ธรรม ไม่ใช่วินัย แต่กลับไม่มีใครไปชี้ให้เห็นโทษ พอสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชออกมาทรงชี้ พวกอลัชชีก็กล่าวหาพระองค์ท่านว่าอิจฉา คนละนิกาย ไม่มีสิทธิ
เพราะความประมาทมัวเมาในอัตตาของนิกายเช่นนี้ แล้วประโยชน์ที่พวกผู้ศรัทธาจะพึงมุ่งหวังได้จะหามาจากไหน
หรือพวกท่านทั้งหลายหลงลืมไปแล้วว่า
องค์พระบรมศาสดาทรงสั่งสอนพวกเราภิกษุบริษัททั้งหลายให้ตั้งมั่นอยู่ใน
อถโข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ หนฺททานิ ภิกฺขเว อามนฺตยามิ โว วยธมฺมา สงฺขารา อปฺปมาเทน สมฺปาเทถ
“ภิกษุทั้งหลาย เราเตือนท่านทั้งหลาย สังขารทั้งหลายทั้งปวงมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลายจงยังประโยชน์ตนและประโยชน์ท่านให้ถึงพร้อม ด้วยความไม่ประมาทเถิด”
หากวกเราหมู่สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าเอาแต่นิ่งเฉย แสวงหาแต่ประโยชน์ตน ไม่ทำประโยชน์ท่านผู้มีคุณ ผู้ให้ก้อนข้าวหยดน้ำเรากินกันบ้าง เช่นนี้ จะไม่ชื่อว่าเป็นผู้แล้งน้ำใจกระนั้นหรือ
ที่ว่าไร้เมตตา
พวกเราเห็นๆ อยู่ว่าอลัชชีชั่วมันกำลังทำร้ายทำลายย่ำยี บิดเบือนพระธรรมวินัย ที่เป็นหลักชัยของมนุษย์ชาติสรรพสัตว์ทั้งปวง แต่พวกเรากลับปล่อยให้ลัทธิอลัชชีชั่วย่ำยีจนผู้ศรัทธาที่มีปัญญาน้อยเกิดความคลางแคลงสงสัยในหลักชัยของพระพุทธศาสนา นี่ไม่เรียกว่าทำลายศรัทธาอันบริสุทธิ์ที่มีต่อพระพุทธศาสนา แล้วจะเรียกว่าอะไร
การที่พวกเราละเลย ขาดจิตเมตตา ไม่ช่วยอนุเคราะห์ชี้นำบอกกล่าวเล่าแจ้ง แสดงพระธรรมวินัยที่ถูกตรงให้พวกผู้หลงผิดได้เข้าใจ ก็เท่ากับเราเป็นผู้ทำลายประโยชน์เขาทั้งในภพนี้และภพหน้า เช่นนี้จะไม่เรียกไร้เมตตาแล้วจะเรียกว่าอะไร
ที่ว่าไร้ความรับผิดชอบ ขวดความกตัญญู
ก้อนข้าวทุกเม็ด น้ำทุกหยดของชาวบ้าน กว่าเขาจะได้มานั้นสุดแสนจะยากลำบาก เมื่อเขาเสียสละแบ่งปันบริจาคมาหล่อเลี้ยงชีวิตภิกษุสงฆ์ทั้งหลาย
พวกเราก็ควรจักตอบแทนอุปการะคุณ ชี้ให้ท่านผู้มีคุณเหล่านั้นได้เห็นความจริง ไม่ใช่ปล่อยให้เขาเดินไปตกเหวอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
อย่าคิดว่าเขานำอาหารมาให้เรา เขาได้บุญเราก็จบหน้าที่
ถามใจตนเองกันดูบ้างก็ได้ ว่าพวกเราเป็นตัวบุญที่บริสุทธิ์บริบูรณ์จริงๆ แล้วหรือ
ทำไมไม่ช่วยท่านผู้มีคุณผู้หลงทางให้เขาเดินในทางที่ถูกที่ควร ตรงต่อพระธรรมคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้าให้ได้ล่ะ
ทำเท่าที่ทำได้ดีกว่าไหม ดีกว่าไม่คิดจะทำอะไรกันเลยอย่างปัจจุบันนี้
ทางไหนที่อลัชชีทั้งหลายสร้างเอาไว้หลอกล่อ พวกเราก็ต้องช่วยบอกพุทธบริษัทเขาให้เห็นแจ้ง อย่าปล่อยให้เขาเดินไปตกเหวตกหลุม
มันจะกลายเป็นความฉิบหายของชาติภพที่พวกเขาจะได้รับ เห็นความฉิบหายของผู้มีคุณแล้ววางเฉยอย่างนี้ จะไม่เรียกว่าไม่รับผิดชอบ ขาดสำนึกกตัญญู แล้วจะเรียกว่าอะไร
พุทธะอิสระ