บทความ
รอง ผอ.สำนักพุทธมาสนทนากับพุทธะอิสระ เจรจากัน ๒ ชั่วโมง ตอนที่ ๑
๒๙ มีนาคม ๒๕๕๙
พุทธะอิสระ: วันนี้คุณมาหาฉันด้วยธุระอะไร
นายชยพล พงษ์สีดา: ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนว่าวันนี้ผมมานมัสการเป็นการส่วนตัวนะครับ ไม่เกี่ยวกับหน้าที่การงาน
พุทธะอิสระ: แล้วคุณมาด้วยธุระอะไรล่ะ
นายชยพล พงษ์สีดา: มาถามความเห็นเกี่ยวกับเรื่องสังฆราชครับ ว่าหลวงปู่มีความเห็นว่าอย่างไร
พุทธะอิสระ: ฉันคงยอมรับบุคคลที่มีมลทินต่อพระธรรมวินัยมาเป็นผู้ทำหน้าที่ปกครองคณะสงฆ์ไม่ได้
เขาจะเอาคุณธรรมอะไรมาอบรมสั่งสอนให้หมู่สงฆ์ปฏิบัติตามได้ เมื่อผู้ปกครองเป็นผู้ละเมิดพระธรรมวินัยเสียเอง แล้วใครเขาจะศรัทธา
จะมีก็แต่พวกมักมากอยากได้ลาภยศเท่านั้นแหละที่สนับสนุน
ชั่วชีวิตฉันไม่สนใจเรื่องลาภยศสรรเสริญ สนใจแต่หลักธรรมวินัย
คุณไม่รู้หรือว่า ว่าที่สังฆราชของคุณเป็นคนร่ำรวย ชมชอบสะสมทรัพย์สินเงินทอง
นายชยพล พงษ์สีดา: สมัยนี้มันเป็นธรรมดานี่ครับที่พระต้องมีเงินเอาไว้ใช้สอยตามความจำเป็น
พุทธะอิสระ: คุณพูดว่าตามความจำเป็น
ฉันถามคุณว่าแสวงหาครอบครองรถหรูโบราณที่ผิดกฎหมายนี่มันจำเป็นขนาดไหนหรือ มันทำให้บรรลุธรรมในชั้นไหนได้หรือ
นายชยพล พงษ์สีดา: คงเพื่อการศึกษามั้งครับ
พุทธะอิสระ: ฉันพึ่งจะรู้นะเนี่ยว่าภิกษุในพระพุทธศาสนานี้เขาสอนดูรถกันแล้ว นอกจากดูรถแล้วยังดูบอล เชียร์บอล แล้วพระธรรมวินัยเอาไปไว้ไหน
ไหนคุณบอกฉันว่าคุณเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อชา อย่าว่าแต่สะสมรถหรูเลย แค่ตู้บริจาคมีในวัดถ้ำแสงเพชร หลวงพ่อชาท่านยังไม่ยอมเลย
และคุณอ้างว่าเป็นลูกศิษย์ท่านมาทำหน้าที่ รอง ผอ.สำนักพุทธ ที่มีอำนาจหน้าที่ดูแลปกป้องพระธรรมวินัย กลับปล่อยให้พระละเมิดพระธรรมวินัยต่อหน้าต่อตา
นายชยพล พงษ์สีดา: แม้ผมจะเป็น รอง ผอ.สำนักพุทธ แต่ก็มีสถานะแค่ลูกศิษย์วัด จะทำอะไรได้ครับ
พุทธะอิสระ: นั่นสินะ พวกคุณเลยเอาแต่นั่งมองบรรดาอาเฮียอาเสี่ยห่มเหลืองเสวยสุข สะสมทรัพย์สินจากศรัทธาของชาวบ้านที่เขาบริจาคให้อย่างไม่รู้สึกละอาย
หากสำนักพุทธและมหาเถรสมาคมมองเห็นความมั่งคั่งร่ำรวยด้วยทรัพย์สินเงินทองยศศักดิ์ของภิกษุเป็นเรื่องธรรมดา พระพุทธศาสนานี้คงไม่เหลืออะไรแล้วล่ะ
นายชยพล พงษ์สีดา: เรื่องความมั่งคั่งร่ำรวยของพระภิกษุจะไปโทษพระฝ่ายเดียวก็ไม่ได้นะครับ เพราะทรัพย์ทั้งหมดชาวบ้านเขาให้ด้วยศรัทธาทั้งนั้น
พุทธะอิสระ: คุณคิดว่าในครั้งพุทธกาลไม่มีคนถวายทรัพย์สินเงินทองให้แก่พระภิกษุในพุทธศาสนาเลยหรือ
นายชยพล พงษ์สีดา: มีครับ
พุทธะอิสระ: ใช่มี แต่ไม่มีภิกษุรูปใดตะกละสะสม เพราะพวกเขาไม่ได้บวชเพื่อเข้ามาสะสมทรัพย์
สมัยครั้งพุทธกาล อนาถบิณฑิกเศรษฐีและจิตตคหบดีเศรษฐี ใช้ทองคำปูพื้นพระวิหารที่ประทับของพระพุทธเจ้า
แล้วสมัยนี้มีใครใช้ทองคำปูพื้นถวายพระบ้าง…
เป็นคำสนทนาที่ไม่ได้ถูกอัดคลิป เพราะกล้องถ่ายคลิปมาติดตั้งไม่ทัน
ทนๆ อ่านกันหน่อยนะจ๊ะ เพราะยังมีอีกหลายตอน
พุทธะอิสระ