มาดูตั้วเฮียประสารแกออกมาโอดครวญอย่างน่าสงสารอีกแล้วพี่น้อง

0
172

บทความ

มาดูตั้วเฮียประสารแกออกมาโอดครวญอย่างน่าสงสารอีกแล้วพี่น้อง

๒๕ มีนาคม ๒๕๕๙

 

250359-บทความ-มาดูตั้วเฮียประสารแกออกมาโอดครวญอย่างน่าสงสารอีกแล้วพี่น้อง-(3)

………………………………………………….
พระเมธีธรรมาจารย์ – เจ้าคุณประสาร
24 มีนาคม 2559

กิจนิมนต์ที่จะต้องมีระยะเวลาและเงื่อนไขอื่นเป็นตัวกำหนด

กว่าสองสัปดาห์ที่ผ่านมา อาตมารับนิมนต์พิเศษจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในเรื่องการยุติการเคลื่อนไหวใดๆ เพื่อให้เกิดความสบายใจและความสงบเรียบร้อยของทุกฝ่าย

โดยนายกรัฐมนตรีย้ำว่า ถ้าทุกคนทุกฝ่ายยุติการเคลื่อนไหวใดๆ กระบวนการการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชซึ่งอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการของรัฐบาลก็จะเดินหน้าไปได้อย่างไม่มีปัญหาติดขัดใดๆ

สอดรับกับคำให้สัมภาษณ์ ต่างกรรมต่างวาระของท่านรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ว่า ถ้าเรื่องไม่สงบ ก็จะยังไม่ดำเนินการ

ในเวลานี้ชัดเจนแล้วว่า ศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทยพร้อมภาคีเครือข่ายได้แสดงเจตจำนงชัดเจนว่า ต้องการความสงบ ไม่ประสงค์จะก่อปัญหาใดๆ และยังปรารถนาอย่างยิ่งให้กระบวนการที่ชอบด้วยกฎหมาย จารีตประเพณีโดยไม่ขัดหรือแย้งกับพระธรรมวินัย เดินหน้าไปได้

วันนี้ชัดเจนว่า กิจนิมนต์พิเศษ ซึ่งเป็นความปรารถนาอันดีงามของท่านนายกรัฐมนตรีนั้น มีเพียงอาตมา ศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทยและภาคีเครือข่ายเท่านั้นที่รับนิมนต์อยู่ฝ่ายเดียว

รับอยู่ฝ่ายเดียวจริงๆ

ในขณะที่อีกฝ่าย (ฝ่ายต่อต้านการสถาปนาฯ) ไม่ยินดียินร้ายใดๆ ต่อคำอาราธนาของท่านนายกรัฐมนตรี

ที่หนักไปกว่านั้น รัฐบาลโดยรัฐมนตรีร่วมคณะรัฐมนตรี ของท่านนายกรัฐมนตรี กลับไม่ใส่ใจในการนำเอาแนวทางของหัวหน้ารัฐบาลไปปฏิบัติ ทำงานสวนนโยบายของผู้นำแบบไม่เกรงใจ ด้วยการสาดน้ำมันถังใหญ่เข้าไปในกองเพลิงก็ยิ่งเพิ่มความร้อนระอุขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง

ในส่วนของรัฐบาลนั้น โดยรวมกลับไม่มีท่าทีใดๆ ที่จะห้ามปรามรัฐมนตรีร่วมคณะรัฐมนตรีด้วยกันและฝ่ายต่อต้านอื่นๆ

ที่สำคัญมากไปกว่านั้นก็คือ รัฐบาลกลับไม่ได้แสดงอะไรให้ผู้คนทั้งประเทศได้มองเห็นว่ารัฐบาลนี้มีความเคารพต่อคณะสงฆ์ทั้งสังฆมณฑลและพร้อมจะสนองตอบต่อมติมหาเถรสมาคมที่เป็นไปโดยชอบเหมือนรัฐบาลในอดีตที่ผ่านมา

วันนี้ อาตมาและศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทยพร้อมภาคีเครือข่าย จึงต้องเรียกประชุมโดยด่วน เพื่อกำหนดท่าทีและแนวทางปฏิบัติต่อไป

การรับกิจนิมนต์พิเศษอยู่ฝ่ายเดียวไม่ต่างอะไรกับการถูกมัดมือมัดเท้าและโดนชกโดยไม่ทราบชะตากรรม และนอกจากนั้นยังไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าระยะเวลานี้จะยาวนานมากน้อยแค่ไหนอย่างไร

การประชุมเพื่อร่วมกันคิด ร่วมกันอ่าน เพื่องานในวันข้างหน้า จึงดูว่าจะดีกว่านั่งรับกิจนิมนต์พิเศษแบบไร้อนาคต

พระเมธีธรรมาจารย์ (เจ้าคุณประสาร จนฺทสาโร)
‪#‎เจ้าคุณประสาร‬
24 มีนาคม 2559
https://www.facebook.com/ck.prasarn/posts/632326140270041:0
………………………………………………….

หายไปนาน ดูท่าน่าจะหลบไปอัดวิชามาเต็มพุงแล้วซินะเฮีย

ถึงได้ออกมาฟาดงวงฟาดงา ฟูมฟาย ประมาณว่าจะขาดใจตาย

กลับมาเรียกร้องเอาตำแหน่งสังฆราชกูมาอีกเหมือนเดิม

เห็นทำท่านั่งสมาธิทำจิตภาวนาอยู่โคนต้นไม้

นึกว่าหายไป ๒ อาทิตย์แล้วจะรู้จักใคร่ครวญคิดได้ เปลี่ยนแปลงนิสัยแก้ไขพฤติกรรม

ที่ไหนได้ โผล่มาสันดานยังเหมือนเดิม เคยทะยานอยากยังไง ก็ทะยานอยากยังงั้น เคยหลงงมงายอย่างไร กลับมาก็หลงงมงายยังงั้น

เคยใฝ่ต่ำอย่างไร กลับมาก็ใฝ่ต่ำเหมือนเดิม

พวกเฮียคิดไม่ได้จริงๆ หรือว่า ผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช จะต้องมีคุณสมบัติอย่างไร

หรือไม่สนใจคุณสมบัติ สนใจแต่ว่าเป็นคนของใคร พวกกูหรือไม่ กูได้ประโยชน์หรือเปล่า

และที่เฮียอ้างคำพูดของนายกส่งเดช ชนิดตัดต่อตัดตอนมาอ้าง มันไม่น่าจะถูกต้องนะเฮีย

ลองมาดูคำพูดของนายกกันเต็มๆ ว่านายกเขาหมายถึงอะไรบ้าง

……………………………………..…………….
(๑๑ มี.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ตอนหนึ่งถึงความคืบหน้าของกระบวนการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ใหม่ ว่า

“จริงๆ แล้วไม่อยากพูดเรื่องนี้ แต่เห็นว่ามีการเคลื่อนไหวหลายด้านในระยะหลัง อยากจะขอให้หยุดทั้งพระ และฆราวาส เพื่อทำให้เกิดความสงบสุขในสังคม พระพุทธเจ้าคงไม่ต้องการให้นำพระธรรมมาทำให้เกิดความขัดแย้ง วินัยสงฆ์นั้นมีเพื่อเป็นระเบียบปฏิบัติของสงฆ์ ส่วนกฎหมายฆราวาส คือ กฎหมายของประชาชนทั่วๆ ไป ทั้งพระทั้งฆราวาส ก็คือ ประชาชนทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นต้องเคารพกฎหมายโดยรวมของชาติด้วย ต้องแยกให้ออกว่าประเด็นใดเป็นทางโลก ประเด็นใดเป็นทางธรรม ทั้งนี้ อย่าให้ใครมาใช้ประโยชน์ไปในเรื่องการเมือง จะเข้าทางกับคนที่ไม่หวังดีที่เขากำลังทำอยู่ในวันนี้

ทุกอย่างจะต้องอยู่ภายใต้กฎหมายอันเดียวกัน เลือกปฏิบัติไม่ได้ ไม่ฉะนั้นอีกฝ่ายก็เอากฎหมายนี้มาเล่นงานพวกข้างนี้ ข้างนี้เอากฎหมายอีกอันมาข้างนี้ จะทำยังไง กฎหมายสงฆ์ก็กฎหมายสงฆ์ กฎหมายฆราวาสก็กฎหมายฆราวาส แต่ทั้งพระ ฆราวาส อยู่ภายใต้กฎหมายรัฐ ถ้าพร้อมเรียบร้อยก็ตั้งได้ทั้งหมด ถ้าไม่พร้อม ก็ขัดแย้งอยู่อย่างนี้ เรื่องของกลไกทางกระบวนการยุติธรรมก็ตรวจสอบกันไป ทำไมจะต้องใจร้อนอะไรกันขนาดนั้น”

และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณว่า “ถ้าเรื่องยังไม่สงบ ก็จะยังไม่ดำเนินการ”
…………………………………..……………….

ไม่รู้ว่าเฮียอ่านแล้วจะเก็ทไหม สมองยังใช้การได้อยู่หรือเปล่า ถ้าอยากสมองดี ว่างๆ มาซื้อยาบำรุงสมองที่วัดกินวันละซัก ๒ เม็ดซิเฮีย เผื่อจะฉลาดขึ้นมาบ้าง

แล้วที่เฮียกล่าวอ้างว่าพวกพ้องของตนยินยอมอยู่อย่างสงบ ไม่ก่อให้เกิดปัญหาใดๆ

สงบแน่หรือเฮีย แล้วพวกกลุ่มก๊วนต่างๆ ทั้งในและนอกประเทศที่ผลัดเวรกันมาออกแถลงการณ์กดดันรัฐบาล นั่นพวกเฮียหรือเปล่า

แถมเฮียยังย้ำว่าพวกตนยังปรารถนาอย่างยิ่งให้กระบวนการที่ชอบด้วยกฎหมาย จารีตประเพณี โดยไม่ขัดหรือแย้งกับพระธรรมวินัย เดินหน้าไปได้

เอางี้ไหมเฮีย ไหนๆ ก็ถอยไม่ได้อีกแล้ว พวกเฮียก็กล้าๆ หน่อย นัดกันออกมาอีกซักครั้งดีไหมเฮีย

เผื่อคุณประยุทธ์จะได้ตัดสินใจได้ว่า ควรอยู่ต่ออีก ๕ ปี หรือไม่

ที่เฮียบอกว่า สุดยอดปรารถนาของพวกเฮีย ต้องการให้กระบวนการที่ชอบด้วยกฎหมายและจารีตประเพณีโดยไม่ขัดแย้งต่อพระธรรมวินัยเดินหน้าต่อไปได้

เท่าที่เคยได้ฟังเฮียพูดมาสองปีนี้ ก็เพิ่งมีวันนี้แหละที่เฮียพูดแบบมีเหตุผล

รัฐบาล รัฐมนตรี และพวกเรากำลังทำให้กระบวนการทางกฎหมาย พระธรรมวินัย จารีตประเพณี ดำเนินไปอย่างเท่าเทียม เที่ยงธรรม กระชับ ทันต่อสถานการณ์ไงเฮีย

คดีรถหรูหนีภาษีของว่าที่สังฆราชของเฮีย หรือคดีพระลิขิต คดีธรรมกาย คดีทุจริตงบประมาณของคณะสงฆ์และสำนักพุทธ ที่พุทธะอิสระไปยื่นหนังสือเรียกร้องให้ สตง. ตรวจ กำลังเดินไปตามกระบวนการทางกฎหมายจารีตประเพณี และสอดคล้องตามหลักพระธรรมวินัยไงล่ะเฮีย

หรือว่าเฮียไม่ได้หมายถึงเรื่องคดี แต่หมายเพียงแค่หวังตำแหน่งสังฆราชเท่านั้น

หากเป็นเช่นนั้น แสดงว่าเฮียนี่อลัชชีตัวพ่อเลยนะ

ที่เฮียพูดว่า ทำไมรัฐบาลเขานิมนต์กิจพิเศษแต่ฝ่ายเดียว

ขอบอกว่ารัฐบาลเขานิมนต์ทั้งสองฝ่ายแหละ

ขนาดเอาทหารมาเฝ้าพุทธะอิสระเลย แต่พุทธะอิสระบอกกับผู้มาเฝ้าว่า

การที่พุทธะอิสระออกไปยื่นเรื่องชี้มูลการทุจริตเงินงบประมาณแผ่นดินของมหาเถรสมาคมและสำนักพุทธ ซึ่งเป็นความผิดทางอาญาแผ่นดิน เป็นความเสียหายแก่รัฐ

หากพวกเจ้าหน้าที่ขัดขวางการดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษของฉัน นั่นแสดงว่าเจ้าหน้าที่รู้เห็นเป็นใจกับการทุจริตนั้นๆ ด้วย

เจ้าหน้าที่จะต้องเจอหลายข้อหาทีเดียวแหละ

เมื่อเจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ เขาทราบว่าพุทธะอิสระกำลังทำหน้าที่ของพลเมืองดี ปกป้องผลประโยชน์ของชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์

เจ้าหน้าที่เขาจึงยินยอมให้พุทธะออกไปยื่นหนังสือ

อย่ามาแถกแถใส่ร้ายกันมั่วๆ นะเฮีย ไม่งั้นอาจเจออีกคดี

และที่เฮียบอกว่ารัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีไม่ใส่ใจในนโยบายของหัวหน้ารัฐบาล

พวกเราเข้าใจว่าเฮียคงจะหมายถึงท่านพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ที่กำกับดูแลกระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานดีเอสไอ ซึ่งกำลังทำคดีรถหนีภาษีของว่าที่สังฆราชและอีกหลายคดีของพวกพ้องเฮีย

พอรัฐมนตรีและหน่วยงานยุติธรรมเขาบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงๆ จังๆ แต่มีผลกระทบกับพวกพ้องเฮีย

เฮียก็บอกว่ากลั่นแกล้งรังแก สองมาตรฐาน

แต่ถ้าเขาบังคับใช้กฎหมายแล้วพวกเฮียได้ประโยชน์

เฮียก็จะบอกว่ายุติธรรม

พฤติกรรมแบบนี้มันเหมือนกับใครหว่า

เฮียไม่รู้หรือแกล้งไม่รู้ ว่าสมเด็จช่วงลูกพี่เฮียครอบครองรถผิดกฎหมาย

เฮียไม่รู้หรือแกล้งไม่รู้ ว่างบประมาณที่รัฐอนุมัติให้สำนักพุทธและมหาเถรสมาคมปีๆ นึงกว่า ๕,๐๐๐ ล้านบาท เพื่อการอุดหนุนวัดต่างๆ ทั่วประเทศไทยกว่า ๓๕,๐๐๐ วัด

แต่มันดันมากองอยู่เฉพาะวัดของกรรมการมหาเถรสมาคมและวัดที่มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับกรรมการมหาเถรและสำนักพุทธ

วัดยากจนที่ไม่มีเส้นสายต่างอดอยากปากแห้ง พวกเฮียทำแกล้งมองไม่เห็นหรือเปล่า

เมื่ออนุมัติให้เงินไปแล้ว ยังมีการตามไปขอเงินทอนอีก ๕๐-๘๐% ดังที่ผู้ว่าฯ สตง. รายงานให้ผู้สื่อข่าวฟัง

เฮียไม่รู้สึกอะไรกับความอยุติธรรมจากการทำหน้าที่ของมหาเถรและสำนักพุทธบ้างหรือ

หรือพวกเฮียได้ประโยชน์ก็เพียงพอแล้ว

สำนึกน่ะมีไหม สำนึกละอายชั่วกลัวบาป แยกแยะถูกผิด เคยมีอยู่ในสมองพวกเฮียกันบ้างไหม

ส่วนที่เฮียบอกว่าจะเรียกประชุมด่วนกับภาคีเครือข่ายของเฮียเพื่อกำหนดท่าทีในการเคลื่อนไหว

ก็ดีเหมือนกันนะเฮีย นัดรวมพลสารพัดสปีชีส์กันอีกซักทีก็ดีนะเฮีย

รัฐบาลเขาจะได้รู้ว่า

ต้องใช้วัคซีนชนิดใด จำนวนเท่าไร จึงจะฉีดผู้ติดเชื้อได้ครบ

นัดเลยเฮีย พุทธะอิสระเชียร์ ขอให้นัดไวๆ ออกมากันมากๆ อะไรๆ มันจะได้ง่ายขึ้น

พุทธะอิสระ