มีข่าวป๊อปคอร์น หลายคนอาจสงสัย อยากจะรู้ที่มาที่ไป เพื่อให้เข้าใจถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลานั้น ขอนำเหตุการณ์ที่เกิดในแยกหลักสี่ เมื่อครั้งอดีตมานำเสนอ เพื่อทบทวนความทรงจำกันอีกซักครั้ง หวังว่าท่านคงจะไม่เบื่อกันเสียก่อน
วันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๕๗
หลวงปู่และมวลชนมาอยู่หน้าสำนักงานเขตหลักสี่ก่อนหน้าที่จะมีการเลือกตั้ง ๒ วัน โดยเราก็ยึดหลักการเดิมคืออหิงสา อารยะขัดขืน เราไม่ล่วงล้ำเข้าไปในสำนักงานเขตหลักสี่ซึ่งเป็นพื้นที่ราชการแม้แต่ก้าว เดียว แม้แต่นิ้วก็ไม่แหย่เข้าไปในรั้ว เราอยู่ของเราด้านหน้าถนน ในคืนวันศุกร์ (วันที่ ๓๑ ม.ค. ๒๕๕๗) มวลชนก็สวดมนต์กันทุกวัน ฟังธรรมะ
พอช่วงเวลาประมาณ ๑:๕๐ น. ได้มีการลอบยิงจากถนนแจ้งวัฒนะเข้ามายังถนนหน้าสำนักงานเขตหลักสี่ ทั้งนี้กระสุนได้ถูกรถ ๑๐ ล้อ ทะลุกระจกข้างที่จอดปิดทางเข้าสำนักงานเขตฯ โดยคนขับรถ ๑๐ ล้อ ที่นอนอยู่ในรถไม่ได้รับอันตราย และกระสุนได้เฉี่ยวหูการ์ดอีกคนหนึ่งไป โดยหลวงปู่พุทธะอิสระและแกนนำพร้อมพี่น้องมวลชนไม่ได้รับบาดเจ็บ
วันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗
มีเจรจาตั้งแต่รองผู้การตำรวจ (พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล ๒) แล้วก็ผู้การตำรวจ (พล.ต.ต.สุรนิตย์ พรหมบุตร ผู้บังคับการตำรวจนครบาล ๒) แล้วก็เจรจากับท่าน ผอ.เขตหลักสี่ (นายณรงค์ จงแจ่มฟ้า) ก็เจรจาเป็นระยะ จนกระทั่งสถานการณ์มันวิกฤต เพราะว่าข่าวกรองระบุว่าฝ่ายโน้นเขามาแน่ ทหารก็มาแสดงตน หลวงปู่ก็ยกหูโทรศัพท์ถึง พ.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ ๑๑ รักษาพระองค์ ว่าขอความกรุณาช่วยดูแลหน่อย แล้วก็ติดต่อไปทางผู้บังคับบัญชาของกองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ ๖ ซึ่งทั้ง ๒ หน่วยเขาก็ช่วยดูแล ช่วยหาข่าว แล้วก็แนะนำว่าเราจะต้องทำยังไงในสถานการณ์ที่บีบคั้น แต่ทหารทุกนายไม่ได้มีอาวุธ ทุกคนมาแต่ตัว ตอนที่ฉันขอร้องให้คุณทรงวิทย์ไปเอาพี่น้องเราที่มาจากลาดพร้าวออกมาจากวง ล้อมเนี่ยเขาก็ไปแต่ตัวเปล่าๆ เราก็ไม่รู้ว่าคนที่นำอาวุธเข้ามาช่วยมวลชนของเราเนี่ยมาจากไหน ตอนที่เกิดการปะทะกันเนี่ยมวลชนของเราปักหลักอยู่หน้าสำนักงานเขตหลักสี่ก็ ยังไม่กล้าออกไปเพราะรู้ว่าถ้าเราขืนออกไปเดี๋ยวมันตีกระหน่ำแน่เพราะมันมี มวลชนที่จัดตั้งอยู่ เราก็ให้มวลชนอยู่ในที่ตั้งแล้วก็เฝ้าระวัง
แล้วตอนนั้นมันมีการเจรจากันรอบสุดท้ายก็คือคุณทรงวิทย์ ผบ.ราบ ๑๑ , ผู้การตำรวจ , รองผู้การตำรวจ รวมทั้ง ผอ.เขตหลักสี่ มาคุยว่าหลวงปู่ครับ..เห็นท่าว่าจะไม่ปลอดภัยถ้าอยู่ข้างนอก ขอให้เข้าไปหลบอยู่ในอาคารหรือใต้ถุนอาคารได้ไหม เพราะว่ามาแน่มีอาวุธหนักด้วย ทางเราก็บอกว่าถึงขนาดนั้นเลยหรือ เราก็ยังไม่เคลื่อนไหวใดๆ จนกระทั่งบ่ายก็ได้ยินเสียงปืนปุ้งปั้ง.. ปุ้งปั้ง.. เราก็เลยตกลงกับพี่น้องเราว่าถ้างั้นเราค่อยๆ เข้าไป ทางสำนักงานเขตหลักสี่เขาก็เปิดประตูให้เรา แต่ก่อนหน้านั้นเขาล็อกกุญแจนะ คุณทรงวิทย์ขอร้องให้เราเข้าไป หลวงปู่บอกอย่างนั้นพี่น้องทุกคนเข้าไป ส่วนหลวงปู่จะอยู่ข้างนอก แล้วก็ให้การ์ดทุกคนเฝ้าระวังตามจุดต่างๆ อย่าให้ผู้ใดมาทำร้ายพี่น้องเราได้
ในวันนั้นไม่มีการประสานให้พี่น้องจากเวทีลาดพร้าว หรือเวทีอื่นๆ มาช่วย แต่เขาคงรู้ข่าวเลยเข้ามาช่วย เราอยู่ตรงนั้น อยู่ๆ คุณอิสระ สมชัย (แกนนำ กปปส.ซึ่งดูแลเวทีลาดพร้าว)ก็มายืนอยู่ข้างหลัง ฉันก็ถามว่าคุณอิสระมายังไงเสียงปืนยังปึงปังอยู่เลย เขาบอกผมอ้อมมาข้างหลัง อ้าว..แล้วพี่น้องจากลาดพร้าวล่ะ ? ….ยังอยู่ท่ามกลางวงล้อม จากนั้นก็มีคนวิ่งร้องไห้กระหืดกระหอบมา ๕-๖ คน ทั้งเสียใจ หวาดกลัว ตื่นตระหนก ฉันถามว่าสถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง เขาก็เล่าละล่ำละลักว่าพี่น้องเราโดนรุมยิงขนาบ ทั้งจากด้านบน ด้านล่าง ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนอยู่เฉยๆ แล้วก็กันไม่ให้เข้าไปช่วยมวลชนในพื้นที่
ฉันก็สั่งการ์ดให้เฝ้าระวังแล้วก็หาช่องทางว่าจะไปช่วยพี่น้องเราอย่างไร เขาก็กลับมารายงานว่าเขาไปคุยกับตำรวจแล้ว ตำรวจไม่ให้เข้า แล้วก็มีการระดมยิงหนาแน่นมาก เข้าไปไม่ได้ ไม่รู้ฝ่ายไหนเป็นฝ่ายไหน เขาบอกว่ามันอยู่บนสะพานลอย มีรถตู้ รถปิกอัพ และรถแท็กซี่ โผล่หน้ามาระดมยิง แล้วก็อยู่บนตึกสูง อยู่บนไอทีสแควร์แล้วระดมยิงลงมา ซึ่งบนตึกเนี่ยพวกเราไม่มีสิทธิ์ขึ้นไปอยู่แล้ว ไม่รู้ว่าจะขึ้นไปตรงช่องทางไหน ฉันก็เลยโทร.หาคุณทรงวิทย์ว่าช่วยพาพี่น้องเราออกจากการโดนล้อมยิงหน่อยเถอะ คุณทรงวิทย์ก็
ออกมาจากสำนักงานเขต พร้อมกับทหาร ๕-๖ คน เขาก็มาตัวเปล่าๆ ตอนแรกเขาให้ทหารเข้าไปช่วย แต่เข้าไปไม่ได้ โดนรุมยิง ทหารก็ต้องหลบเพราะไม่มีอาวุธ แต่พอคุณทรงวิทย์เข้าไปเองเสียงปืนก็เริ่มเงียบ แล้วก็พาพี่น้องเราออกมา ตำรวจก็ไม่กล้าสกัด
ลำดับเหตุการณ์ วันปะทะ
๑๑:๕๐ น. มีกำลังตำรวจ ๒๐๐-๒๕๐ นาย เดินทางเข้าไปบริเวณด้านหน้าห้างสรรพสินค้าไอทีสแควร์ หลักสี่ เพื่อเตรียมเจรจากับกลุ่ม กปปส. ที่อยู่ในสำนักงานเขตหลักสี่
๑๒:๑๕ น. ตำรวจเดินทางไปที่สำนักงานเขตหลักสี่เพื่อเจรจากับแกนนำ กปปส. นำโดย พ.ต.อ. เจริญ ศรีศศลักษณ์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล ๒ (รอง ผบก.น.๒) โดยระหว่างนั้นมีผู้ชุมนุม กปปส. ๓๐๐-๔๐๐ คน อยู่ที่หน้าสำนักงานเขตหลักสี่ และมีกลุ่มคนเสื้อแดง จ.ปทุมธานี ประมาณ ๒๕๐-๓๐๐ คน มารวมตัวกันที่วัดหลักสี่เพื่อเตรียมทวงคืนสำนักงานเขตหลักสี่ แต่กลุ่ม กปปส. ใช้รถบัส และเรียกระดมการ์ดเพื่อป้องกันการบุกทวงคืนสำนักงานเขตหลักสี่
๑๒:๕๐ น. ตำรวจเดินทางกลับไปที่ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าไอทีสแควร์ เพื่อประเมินสถานการณ์ เพราะเกรงว่าจะเกิดการปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุม
๑๔:๕๐ น. กลุ่มคนเสื้อแดงได้ออกจากวัดหลักสี่ เลี้ยวขวาไปทางห้างสรรพสินค้าไอทีสแควร์ มุ่งหน้าสำนักงานเขตหลักสี่ ซึ่งก่อนหน้านั้น พ.ต.อ.เจริญ ได้เข้าไปเจรจาในวัดหลักสี่แล้ว โดยขอร้องไม่ให้ออกมาปะทะกัน แต่ไม่สำเร็จ
พันตำรวจเอกเจริญ ศรีศศลักษณ์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล2 เดินทางเข้าเจรจากับนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง จังหวัดปทุมธานี หลังได้ประกาศระดมมวลชน บริเวณวัดหลักสี่ เพื่อเดินขบวนไปยังสำนักงานเขตหลักสี่
๑๕:๐๕ น. ตำรวจได้เข้าไปเจรจากับกลุ่มคนเสื้อแดงอีกครั้งที่สะพานข้ามคลองเปรมประชากร ถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อไม่ให้เข้าไปที่เขตหลักสี่
๑๕:๔๕ น. กลุ่มคนเสื้อแดงที่ปักหลักตรงแยกหลักสี่ได้เลิกการชุมนุมกะทันหัน เพราะแกนนำแจ้งว่าทหารเตรียมที่จะ “รัฐประหาร”
๑๕:๔๙ น. แต่ในระหว่างที่กลุ่มคนเสื้อแดงจะเคลื่อนตัวกลับได้มีรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า คัมรี ทะเบียน ฌจ ๒๔๗๖ ขับเข้าไปในพื้นที่ชุมนุม ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าใจผิด และฮือเข้ามาทุบรถ โดยรถยนต์คันดังกล่าวเป็นของ พ.อ.บุญชัย ศรีหะ ทหารสังกัดมณฑลทหารบกที่ ๑๒ (มทบ.๑๒)
๑๕:๕๑ น. มีคนนำ “ประทัดยักษ์” ขว้างลงมาจากสะพานข้ามแยกหลักสี่ ๒ ลูก ลูกแรกลงหน้าศาลพระพรหม หน้าห้างสรรพสินค้าไอทีสแควร์ ลูกที่ ๒ ลงใกล้ตอม่อสะพานข้ามแยกหลักสี่ ซึ่งระหว่างนั้นทางชุดปฏิบัติการมวลชนของทหาร ได้เข้าปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บจากการถูกสะเก็ดระเบิดประทัดยักษ์ ๔ ราย
๑๖:๑๕ น. กลุ่ม กปปส. ที่ปักหลักอยู่ห้าแยกลาดพร้าว ๔๐๐-๕๐๐ คน ได้เดินทางมาสมทบที่แยกหลักสี่ และมีการโต้เถียงก่อนจะมีการขว้างปาก้อนหิน และยิงหนังสติ๊กตอบโต้กับกลุ่มคนเสื้อแดงที่ปักหลักอยู่หน้าห้างสรรพสินค้า ไอทีสแควร์
๑๖:๔๕ น. คนร้ายปาประทัดยักษ์อีก ๒ ลูก มาตกบนถนนแจ้งวัฒนะ ใกล้ป้อมตำรวจแยกหลักสี่ จากนั้นกลุ่มผู้ใช้อาวุธทั้งสองฝั่ง จึงใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้กันอย่างดุเดือด
ทั้ง ๒ ฝ่ายมีการใช้อาวุธปืน และวัตถุระเบิดหลายชนิด ทั้งยิง และขว้างใส่กันนานประมาณ ๑ ชั่วโมง โดยที่มีคนติดค้างอยู่กลางพื้นที่ปะทะ โดยเฉพาะป้อมตำรวจที่มีทั้งชุดปฏิบัติการมวลชนของทหาร ตำรวจ และสื่อมวลชน
๑๗:๔๕ น. เสียงปืน และระเบิดสงบลง ๑๗:๕๐ น. ชุดปฏิบัติการมวลชนของ ปตอ.พัน.๖, หน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลได้ลำเลียงผู้บาดเจ็บไปรักษา
๑๘:๐๐ น. สื่อมวลชน และผู้บาดเจ็บสามารถออกจากพื้นที่ได้ โดยมีผู้บาดเจ็บถูกนำส่ง รพ.วิภาวดี ๖ ราย เป็นชาย ๔ ราย หญิง ๒ ราย
๑๙:๐๐ น. เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจการณ์ ไม่พบผู้ชุมนุมตกค้าง
๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗
หลวงปู่พุทธะอิสระ และตัวแทน กปปส. ภาค ๗+๒ แถลงข่าวหน้าสำนักงานเขตหลักสี่
ผู้อำนวยการเขตหลักสี่ ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้งเขต ๑๑ ประกาศลาออกยกคณะทั้งหมด ๖ คน มีมติปิดหน่วยเลือกตั้งงดลงคะแนนเขตหลักสี่ ๑๕๘ หน่วย
พี่น้องมวลชนเก็บกวาด ทำความสะอาดสถานที่เพื่อคืนพื้นที่ และเคลื่อนขบวนกลับเวทีแจ้งวัฒนะ ในตอนเช้า
๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗
พี่น้องมวลชนที่เวทีแจ้งวัฒนะ ออกมารอรับคณะหลวงปู่ฯ กลับเวทีแจ้งวัฒนะ ด้วยความดีใจ
พุทธะอิสระ
—————
เครดิต:
ขอขอบคุณภาพข่าวและเนื้อหาบางส่วนจากอินเตอร์เน็ต, เอเอสทีวี, คมชัดลึก, เนชั่น, เดลินิวส์, ไทยรัฐ
หมายเหตุจากกองเลขา:
หลวงปู่ได้ปรารภกับกองเลขาว่า ถ้าสามารถรวบรวมเนื้อหา รวมทั้งลำดับภาพเหตุการณ์ ตั้งแต่มีการเริ่มจัดตั้งเวทีแจ้งวัฒนะไปจนกระทั่งเลิกเวที ออกมาเป็นเล่มหนังสือเพื่อจำหน่าย หรือให้คนสั่งจอง เพื่อรวบรวมเงินมาใช้ในการประกันตัว ป๊อปคอร์น ได้ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดีมาก
ทางกองเลขาจะแจ้งรายละเอียดความคืบหน้าเรื่องที่หลวงปู่ปรารภนี้ (รวมทั้งความคืบหน้าของ หนังสือพระของแผ่นดิน) ในโอกาสต่อไป