บทความ
อ้าว…อย่างนี้ก็รอความตายอย่างเดียวล่ะซิ
๙ มีนาคม ๒๕๕๙
“บิ๊กตู่” ขอดูมติ ผู้ตรวจฯ ก่อน ชี้ปมสังฆราชถ้ายังมีคดีก็ตั้งไม่ได้
โดย MGR Online
8 มีนาคม 2559 19:00 น.
นายกรัฐมนตรี ขอดูมติผู้ตรวจการแผ่นดินก่อน บอกยังไม่ได้หนังสือ ยังไม่เห็นมหาเถรฯ ส่งชื่อสังฆราชด้วย ยันไม่ว่าคนหรือพระก็ต้องอยู่ภายใต้กฏหมาย ชี้ถ้ายังมีคดีความก็ตั้งไม่ได้ ไม่ใช่ใช้ความรู้สึกตัดสิน ขอความเป็นธรรมพวกปล่อยข่าวไปนับถืออิสลาม บอกห้อยพระเต็มคออยู่นี่
วันนี้ (8 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวถึงกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินส่งคำวินิจฉัยมติของมหาเถรสมาคม(มส.) เรื่องเสนอชื่อสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือ สมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ เป็นสังฆราชผิดขั้นตอน มาที่นายกฯว่า ก็ส่งความเห็นเข้ามา ผิดถูกอย่างไรตนไม่ทราบ เรื่องดังกล่าวเป็นการตีความด้านกฎหมาย จึงจะต้องศึกษาดูก่อน ทั้งนี้ตนยังไม่เห็นหนังสือจากผู้ตรวจฯ รวมทั้งยังไม่เห็นหนังสือเสนอชื่อสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่จากมหาเถรสมาคม(มส.) หรือสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) เพราะขณะนี้ยังอยู่ในกระบวนการตรวจสอบความถูกต้อง ซึ่งต้องคำนึงถึงกฎหมายของประเทศ ไม่ใช่นำกฎหมายฉบับต่างๆมาตีกันไปมา คนในประเทศไม่ว่าจะเป็นประชาชนหรือพระสงฆ์ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย วันนี้ความขัดแย้งค่อนข้างสูง ซึ่งเมื่อใครส่งความเห็นมา เราก็พิจารณาแล้วส่งฝ่ายกฎหมายเข้าไปตรวจสอบ ทุกอย่างไม่อยากให้มองว่าเป็นธรรมหรือไม่ แต่ต้องมองว่าทำถูกกฎหมายหรือไม่ ในเมื่อมีคนร้องเรียนก็ต้องมีการตรวจสอบ ซึ่งต้องดูเป็นคดีๆไป อย่ากล่าวอ้างว่าทำคดีหนึ่งเพื่อให้คดีหนึ่งถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง เพราะถือเป็นคนละเรื่อง
เมื่อถามว่า หมายความว่าการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่การต้องรอให้คดีความต่างๆเรียบร้อยก่อนใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ควรจะเป็นอย่างนั้นไหมละ ก็เหมือนกับการตั้งทหาร ตำรวจ ถ้าตั้งคนที่ไม่ได้รับความเห็นชอบร่วมกัน มีคดีความก็ตั้งไม่ได้ ยังไงก็ตั้งไม่ได้ ไม่ใช่ว่าคนนี้จะถูกปลดอยู่แล้วเลยต้องตั้งตามนั้น ไม่ใช่ เพราะต้องตรวจสอบว่ามันใช่หรือไม่ใช่ วันนี้ทุกกระทรวงเสนอคนเข้ามาผมยังตรวจสอบเลย ถ้าผมเช็คแล้วคนนี้เป็นอย่างนี้ก็ส่งกลับไป มันตั้งให้ไม่ได้ เขาต้องไปเคลียร์ตัวเขามาสิ ผมยังไม่ได้ว่าใครผิดใครถูกทั้งสิ้น เป็นเรื่องของกฎหมาย กฎหมายเป็นกลไกการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ไม่ใช่ใช้ความรู้สึกตัดสินกันเอง ชอบบ้างไม่ชอบบ้าง ฝ่ายโน้นฝ่ายนี้ไปกันใหญ่ ก็ไม่จบสักเรื่อง หลายคนบอกว่าบ้านเมืองสงบแล้ว แล้วสงบหรือยัง คิดว่าจะแก้กันเมื่อไหร่ รัฐบาลหน้าทำได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะทุกวันนี้ทุกคนเอามาตีกันหมดทั้งการเมือง ประชามติ รัฐธรรมนูญ อนาคต ปฏิรูป การศึกษา มันได้ไหมเล่า มันเกิดมากี่ปีแล้ว ปัญหาหลายปัญหา” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า “เห็นมีข่าวเผยแพร่ว่าผมเป็นอิสลามไปแล้ว ซึ่งวันนั้นชาวมุสลิมได้เอาหมวกแต่งงานมาให้ผมใส่ ผมก็ใส่ แล้วมีคนบอกว่าผมเป็นอิสลามไปแล้ว ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมกับผมหน่อย นอกจากนี้ภรรยาผมไปเปิดการประชุมอาเซียนที่มาเลเซีย มีคนเอาภาพในห้องประชุมใหญ่ไปโพสต์ ซึ่งถ่ายรูปติดกับมุมอิสลาม เลยหาว่าภรรยาเป็นมุสลิมไปด้วย นี่ผมไว้พระอยู่ทุกวัน แล้วมาบอกว่าลูกผมแต่งกันกับอะไรก็ไม่รู้ แต่สรุปแล้ว ทั้งผม ภรรยา ลูก เป็นมุสลิมไปหมด ก็คิดแบบนี้ แล้วจะเชื่อเขาหรือ ท่านต้องแก้ให้ผม ผมห้อยพระเต็มคออยู่นี่”
(ขอขอบคุณข่าวจากผู้จัดการ)
https://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx…
……………………………………..…………….
ท่านผู้นำพูดชัดเจนเสียขนาดนี้แล้ว
พวกที่ตะกละอยากเป็นสังฆราชจนใจจะขาด ไม่กินแห้วกันเป็นแถวหรือ
เช่นนี้ บรรดาอาเฮียอาเสี่ยทั้งหลาย ไม่อกแตกตายล่ะหรือ
แล้วไอ้ที่สู้อุตส่าห์ออกมาโวยวายเรียกร้องกันจนแทบล้มประดาตาย ถึงขนาดเสี่ยงคุกเสี่ยงตะราง จะไม่เสียของเปล่าหรือเฮีย
สงสัยบรรดาพวกเฮียๆ ทั้งหลาย ต้องไปหาน้ำใบบัวบกกินแล้วล่ะ
แต่เอ… แค่น้ำใบบัวบกจะเอาอยู่ไหมนะ
แนะนำว่า คงต้องใช้ทั้งราก ทั้งใบ ต้น ตำแล้วพอกหัวด้วย
น่าจะช่วยให้หายชีช้ำกะหล่ำปลีได้นะเฮีย
พุทธะอิสระ