บทความ
พฤติกรรมส่อเจตนา
๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๘
ทีตอนรัฐบาลนายกปูบริหารประเทศ เกิดการทุจริตคอรัปชั่นกันอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น
คดีทุจริตกล้ายางพารา ๙๐ ล้านต้น มูลค่า ๑,๔๔๐ ล้านบาท
การทุจริตยักยอกสิ่งของและเงินบริจาคน้ำท่วม
การทุจริตกินหัวคิวการจัดซื้อจัดจ้างทุกองค์กร ไม่เว้นแม้แต่ทรายอะเบทกันยุง
การทุจริตคอรัปชั่นโครงการจัดการน้ำมูลค่า ๓.๕ แสนล้าน
การทุจริตโครงการจัดสร้างสนามฟุตซอล และเครื่องเล่นของเด็กนักเรียนหลายโรงเรียนล้วนมีราคาแพงเกินจริง
และยังมีคดีทุจริตอีกหลายคดีที่อยู่ในการสืบสวนของ ป.ป.ช. รวมทั้งคดี การทุจริตโครงการจำนำข้าว สร้างความเสียหายแก่ประเทศมูลค่ากว่า ๗ แสนล้านบาทด้วย
ทั้งหมดนี้ ล้วนแต่เกิดขึ้นในยุคของรัฐบาลของนายทักษิณและน้องสาว
กลับไม่เห็นพวกแกนนำ นปช. และ ส.ส.พรรคเพื่อไทยออกมาเรียกร้องตรวจสอบเลย
พอมาถึงยุครัฐบาล คสช. ปรากฏคดีอุทยานราชภักดิ์
คนกลุ่มนี้ก็ขุดคุ้ยกันเช้า-เย็น ถึงขนาดจะลงพื้นที่ไปตรวจสอบ ทำอย่างกับ “ตัวเองสุจริตยุติธรรม ใสสะอาดเสียเต็มประดา”
หรือคิดว่าจะใช้เรื่องนี้มาหวังผลทางการเมืองเพื่อจะบีบรัฐบาล ล้มการปฏิรูป หรือจะนำมาเป็นประเด็นต่อรองกับคดีจำนำข้าว
เอาเป็นว่าคนผิดทุจริต ก็จะต้องรับกรรมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นคดีอะไร เกิดขึ้นในยุครัฐบาลไหนๆ
แต่พฤติกรรมของ ส.ส.พรรคเพื่อไทยกับแกนนำ นปช.ที่แสดงออกมา ดูค่อนข้างจะน่าเกลียด หวังผลที่จะให้ร้าย คสช.กันเกินจริงไปหรือเปล่า
หรือคิดว่ากำลังจะดีดลูกคิดในรางแก้ว นำเรื่องนี้มากระทบชิ่งสถาบัน กระทบชิ่ง คสช. จะทำให้ผู้คนเบื่อหน่ายเพื่อจะทำลายศรัทธาที่ประชาชนมี
งานนี้ไม่ว่ารัฐบาล คสช.จะใช้วิธีไหนต้องรีบจบให้เร็ว เอาคนผิดมาลงโทษให้ได้ ไม่มีการละเว้น สังคมต้องสิ้นสงสัย เช่นนี้จึงจะหยุดยั้งการโพนทะนาชอนไชของหนอนเหล่านี้ได้
พุทธะอิสระ