บทความ
พุทธบริษัทไทยคงจะได้รู้ว่าใครกันแน่ที่มันปกป้องอลัชชีอยู่ ตอนที่ ๓
๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙
ตอนที่แล้วจบลงด้วยการอันเชิญเนื้อความในพระสุพรรณบัฏที่พระเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าให้จารึกถึงพระนามของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชเอาไว้
และพร้อมภารธุระที่พระสังฆราชทรงต้องกระทำ นำเอากฎหมายที่เกี่ยวกับอำนาจหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชมาทบทวนความจำแก่ท่านรองผอ.สำนักพุทธไปแล้ว
วันนี้ขอยกประเด็นที่รองผอ.สำนักพุทธให้สัมภาษณ์ว่า
กรณีที่พระพุทธะอิสระและนางวิรังรอง ทัพพะรังสี ร้องเรียนขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบกรณีสำนักพุทธ ฐานะเลขาธิการมหาเถร ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ไม่บรรจุวาระการประชุมเกี่ยวกับปาราชิกของพระธัมมชโย ซึ่งถือว่าไม่เป็นไปตามพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช
ซึ่งสำนักพุทธได้ตอบผู้ตรวจการแผ่นดินไปว่าได้ตรวจสอบเอกสาร รวมถึงกระบวนการพิจารณาทั้งหมดแล้ว
เรื่องต่างๆ ได้ยุติลงตั้งแต่กระบวนการชั้นต้นในระดับจังหวัด คือคณะสงฆ์จังหวัดปทุมธานี
จึงไม่มีการแจ้งเรื่องมายังสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม
จึงถือว่าสำนักพุทธไม่ได้รับเรื่องจากเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี แล้วจะมีความผิดมาตรา ๑๕๗ ได้อย่างไร
ส่วนทางเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีก็มีคำวินิจฉัยโดยคณะกรรมการพิจารณานิคหกรรม ระดับจังหวัดก็มีคำสั่งและเหตุผลระบุไปแล้วว่าทำไมถึงยุติเรื่องนี้
เนื่องจากผู้ร้องได้ถอนฟ้องต่อศาลอาญา ศาลจึงมีคำสั่งถอนฟ้องและจำหน่ายคดีออกจากสารบบ จึงทำให้กระบวนการพิจารณาชั้นต้นของเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีได้สิ้นสุดลงไปด้วย
ขอตอบท่านรองฯ พุทธะอิสระอ่านบทสัมภาษณ์ของท่ารองแล้วรู้สึกเสียดายเงินภาษีของชาวบ้านที่ต้องจ่ายให้ท่านรองจริงๆ
เพื่อให้ท่านรองเข้าใจได้ง่ายขึ้น จึงขออนุญาตนำเอาคำถามของ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดี ดีเอสไอ มาถามท่านผอ.สำนักพุทธอีกครั้งหนึ่งว่า ตามพระลิขิตสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งมีผลในทางกฎหมาย มี ๒ ประเด็นคือ คืนทรัพย์ และเรื่องต้องอาบัติปาราชิกของธัมมชโย
สำนักงานพระพุทธศาสนาในฐานะเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่เลขานุการได้ทำหน้าที่ประสานกับมหาเถรสมาคม ดำเนินการกับธัมมชโยให้เป็นไปตามพระลิขิตครบถ้วนแล้วหรือยัง
ไม่ทราบว่าท่านรองผอ.จะเข้าใจคำถามของอธิบดีดีเอสไอแล้วหรือยัง
และเมื่อสมเด็จพระสังฆราชทรงดำรงตำแหน่งสกลมหาสังฆปรินายก ทรงบัญชาการคณะสงฆ์ทั้งสังฆมณฑล ทรงเป็นประธานกรรมการมหาเถรสมาคม
ในฐานะสำนักพุทธปฏิบัติหน้าที่เป็นเลขานุการมหาเถรสมาคม มีหน้าที่สนองงานสมเด็จพระสังฆราชและมหาเถรสมาคม
แต่ผู้ทำหน้าที่เลขาไม่ทำ แถมยังบอกอีกว่าไม่ได้รับเรื่องจากเจ้าคณะจังหวัดปทุม ทั้งที่เรื่องนี้เกิดมาเป็น ๑๐ ปีแล้ว
แล้วยังจะมาบอกว่าไม่ผิดมาตรา ๑๕๗ อีกหรือ
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติมีหัวหน้าสำนักพุทธครอบคลุมไปทุกจังหวัด
คนพวกนั้นจะไม่รายงานเหตุการณ์ของพระพุทธศาสนาที่เกิดขึ้นในแต่ละจังหวัดให้แก่ส่วนกลางได้รับรู้กันบ้างทีเดียวหรือ
ท่านรองพูดยังกับคนไทยกินหญ้ายังงั้นแหละ
อีกทั้งคดีธัมมชโยเขารู้กันไปทั่วโลก ขนาดนักข่าวต่างประเทศยังมาสัมภาษณ์ฉัน
แล้วสำนักพุทธ ท่านรอง แอบไปนอนหลับอยู่ที่ไหน
เอาเป็นว่า ไอ้ที่ท่านรองออกมาพูดนี่ มันจะกลายเป็นหลักฐานให้ ป.ป.ช. มากขึ้นนะท่านรอง
ทีนี้ท่านรอง ลองมาดูอำนาจหน้าที่ของสำนักพุทธ มีกำหนดเอาไว้ในกฎหมายคณะสงฆ์ ดูบ้าง
หน้า ๑๑ เล่ม ๑๒๓ ตอนที่ ๒๕ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๔ มีนาคม ๒๕๔๙
กฎกระทรวง แบ่งส่วนราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๙
ข้อ ๒ ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มีภารกิจเกี่ยวกับการดำเนินงานสนองงานคณะสงฆ์และรัฐ โดยการทำนุบำรุง ส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนา ให้การอุปถัมภ์ คุ้มครอง และส่งเสริมพัฒนางานพระพุทธศาสนา ดูแล รักษา จัดการศาสนสมบัติ พัฒนาพุทธมณฑล ให้เป็นศูนย์กลางทางพระพุทธศาสนา รวมทั้งให้การสนับสนุน ส่งเสริมพัฒนาบุคลากรทางศาสนา โดยให้มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
(๑) ดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยคณะสงฆ์ กฎหมายว่าด้วยการกำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จวิชาการพระพุทธศาสนา รวมทั้งกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
(๒) รับสนองงาน ประสานงาน และถวายการสนับสนุนกิจการและการบริหารการปกครองคณะสงฆ์ (หมายเหตุ นี่ยกมาเฉพาะที่เกี่ยวกับเรื่องการปกครอง)
ข้อ ๔ ส่วนราชการของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
ก. ราชการบริหารส่วนกลาง
(๖) สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
(ก) รับสนองงานตามพระบัญชาและพระกรณียกิจของสมเด็จพระสังฆราช
(ข) รับสนองงานการบริหารของมหาเถรสมาคมและคณะกรรมการต่าง ๆ ที่มหาเถรสมาคมแต่งตั้ง
(ค) รับสนองงานเกี่ยวกับการบริหารการปกครองคณะสงฆ์ การขอพระราชทานสมณศักดิ์ การถวายนิตยภัต และการจัดทำทะเบียนประวัติพระสมณศักดิ์ และพระสังฆาธิการ
(ง) ดำเนินการและประสานงานกับคณะสงฆ์ในการลงนิคหกรรมและตรวจตราถวายคำแนะนำแก่พระภิกษุ สามเณร ที่มีอาจารไม่สมควรแก่สมณวิสัย
แล้วที่บอกว่าไม่รับเรื่อง ไม่รู้เรื่องน่ะ มันเข้าข่าย ๑๕๗ ไหมท่านรอง
พุทธะอิสระ