พอโดน ๑๕๗ ก็พากันออกมาแถกแถกันพัลวัน

0
84

บทความ

พอโดน ๑๕๗ ก็พากันออกมาแถกแถกันพัลวัน

๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙

040259 บทความ พอโดน ๑๕๗ ก็พากันออกมาแถกแถกันพัลวัน

เห็นข่าวว่าสำนักพุทธ ออกมาชี้แจ้งว่า

 

สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ก็เห็นทำงานได้ และได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย พวกประท้วงนั้นถ้าจะมาบอกว่า สมเด็จช่วงไม่เหมาะสมเป็นสังฆราช แล้วเหตุใดไม่ทักท้วงว่า ไม่เหมาะสมปฏิบัติหน้าที่แทนสังฆราช เพราะทุกวันนี้ อำนาจคณะสงฆ์ไทยอยู่ในมือของสมเด็จช่วง

 

ไม่รู้สำนักงาน พระพุทธศาสนา แกล้งโง่หรือโง่จริง

 

ที่ชาวบ้านชาวเมืองเขาประท้วงน่ะ เขาไม่ได้ประท้วงตำแหน่ง

 

เขาประท้วงบุคคลที่จะรับตำแหน่ง ที่มีพฤติกรรมไม่เอื้อเฟื้อต่อพระธรรมวินัย มักมาก จมปลักอยู่ในโลกธรรม

 

เขาประท้วงบุคคลที่คอยปกป้อง อลัชชีธัมมชโยผู้ต้องอาบัติปาราชิก

 

เขาประท้วง บุคคลที่ปกครองสงฆ์แบบ ๒ มาตรฐาน เช่นกรณี เฮียเหนาะมีคดียักยอกทรัพย์ ก็โดนปลดออกจากทุกตำแหน่ง ในขณะเดียวกับธัมมยโชเจอคดียักยอกทรัพย์ทั้งในอดีตและปัจจุบัน นอกจากจะไม่ถูกปลดจากตำแหน่งแล้ว ยังมีการอวยยศให้กันอีก

 

เช่นนี้แหละ ที่ชาวบ้านเขาเห็นบรรทัดฐานความเที่ยงธรรมของผู้ที่จะมาเป็นสังฆราชคนนี้ มีน้อยมาก เขาจึงรับไม่ได้

 

และที่ชาวบ้านเขาประท้วงบุคคลที่จะมาเป็นสมเด็จพระสังฆราชผู้นี้ก็เพราะ เขารับไม่ได้ต่อความร่ำรวยฟุ้งเฟ้อของคนผู้นี้ จนนำมาซึ่งการมีส่วนเข้าไปพัวพันกับคดีรถหรูที่กำลังสืบสวนสอบสวนกันอยู่

 

ซึ่งได้ยินมาว่ากำลังมีความพยายามหาแพะมารับผิดแทน

 

ที่ชาวบ้านเขาประท้วงก็เพราะคนที่จะมาเป็นสังฆราช

 

ไม่เป็นที่ยังให้เกิดศรัทธาแก่คนที่ยังไม่เกิดศรัทธา

 

ไม่เป็นที่น่าเลื่อมใสแก่บุคคลที่เลื่อมใสแล้ว

 

ชาวบ้านเขาเห็นว่าตำแหน่งพระสังฆราชต้องเป็นศักดิ์เป็นศรี มีศีลาจารวัตรอันงดงาม เป็นต้นแบบที่ดีงามให้แก่หมู่คณะ

 

ไม่ใช่อาเสี่ยนักสะสมอย่างสมเด็จช่วงอย่างที่ทำอยู่

 

นายพนม ศรศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักพุทธ ให้สัมภาษณ์ว่า ตนได้รับหนังสือ ที่อธิบดี ดีเอสไอ ส่งมาให้แล้ว อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลเอกสาร เพราะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานแล้ว เอกสารข้อมูลบางส่วน จะอยู่ที่เจ้าคณะปกครอง ซึ่งเป็นผู้สอบสวนวินัยต่างๆ ซึ่งจะตอบกลับดีเอสไอ เร็วๆ นี้

 

ช่วงหนึ่งของการให้สัมภาษณ์ นายพนม ออกมายอมรับว่าที่ผ่านมา ผมอาจจะสื่อสารไม่ดี ผมไม่ได้ชี้แจงว่า สิ่งที่ทำมาเป็นอย่างไร และระหว่างที่ทำถึงตรงไหน บางเรื่องเป็นเรื่องที่มีผลกระทบกับบุคคลอื่น เราให้เกียรติ ถือเป็นมารยาทที่ไม่สามารถแถลงได้ ถึงได้มีการมองว่าเราไม่ดำเนินการอะไร ทั้งที่จริงเราดำเนินการอยู่ มีการประสาน มีการปรึกษาหารือตลอด เป็นเรื่องของการสื่อสารที่ไม่ตรงกัน

 

ทั้งนี้ ดีเอสไอ ไม่ได้กำหนดว่า จะต้องตอบกลับในวันไหน แต่โดยมารยาท เราก็ต้องดำเนินการให้เร็วที่สุด

 

กล่าวถึงกรณี สมเด็จช่วง กับธรรมกาย ท่านไม่น่าจะไปเกี่ยวข้องในประเด็นนี้ เพราะไม่ได้เป็นเจ้าคณะผู้ปกครอง ไม่ได้เป็นเจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะภาคที่สอบสวนกรณี ธมฺมชโย ในช่วงปี ๒๕๔๒ – ๒๕๔๗ เพียงแต่ท่านไปเป็นอุปัชฌาย์ ของธมฺมชโย แค่นั้น

 

อ่านดูแล้ว รู้สึกกันอย่างไรบ้าง พี่น้อง

 

เอาเป็นว่าบทให้สัมภาษณ์ ของท่าน ผอ.สำนักพุทธฯ คนนี้ จะกลายเป็นหลักฐานชั้นศาล และ ป.ป.ช. ในโอกาสต่อไปก็แล้วกัน

 

พวกเราไม่แปลกใจหรอกว่า ทำไมสำนักพุทธถึงได้ออกมาปกป้องและสนับสนุนให้สมเด็จช่วงเป็นสังฆราช

 

เพราะที่อยู่ที่กินที่ทำงานของสำนักพุทธและบริวารต้องพึ่งพาอาศัยตึกของสมเด็จช่วง ก็เลยเป็นหนี้บุญคุณที่ต้องตอบแทน

 

พุทธะอิสระ