เหนื่อยไหมเฮีย เพลียไหมเสี่ย

0
83

บทความ

เหนื่อยไหมเฮีย เพลียไหมเสี่ย

๒๒ มกราคม ๒๕๕๙

220159 บทความ เหนื่อยไหมเฮีย เพลียไหมเสี่ย

เห็นบรรดาลิ่วล้อธรรมกาย ซึ่งมีทั้งนักบวชและฆราวาสออกมา เห่าหอน ข่มขู่ ไม่เว้นแต่ละวันแม้แต่ประธาน นปช. ก็กระโดดมาร่วมผายลม ด่าว่าฉันบ้ากับเขาด้วย

 

คงคิดหละซิว่า จะทำให้ฉัน เกรงกลัว สะดุ้งผวา หยุดเดินทาง กระชากไส้เน่าของอลัชชีที่ย่ำยีพระธรรมวินัย

 

ถึงกับมโนกันว่าฉันเป็นหนึ่งในขบวนการ ๓ พ.

 

ดูช่างเลิศหรู อลังการ งานสร้างสำหรับฉันอะไรขนาดนั้น

 

นี่ฉันคิดไม่ถึงเลยนะว่า แค่นักบวชบ้านนอกๆ ไร้การศึกษา ไม่มีสติปัญญา ยากจน ไร้ยศศักดิ์ ในสายตาของพวกคุณ

 

แต่กลับสามารถทำให้พวกคุณ ผู้มากไปด้วยบารมี ร่ำรวยดุจเศรษฐี ต้องมาทุรนทุราย เดือดร้อนกันมากมายถึงขนาดนี้

 

เริ่มตั้งแต่ ๓ เฮีย คือ เฮียโชว์ เฮียเมธี เฮียประสาร

 

ต้องออกมาประกาศขู่ระดมพล ปกป้องมหาเถร ปกป้องธรรมกาย และท้ายที่สุดปกป้องสมเด็จช่วง

 

ตามมาติดๆ ด้วยเจ้าคุณฮิตเลอร์ สายนายทักษิณแห่งนครเบอร์ลินและพวก ก็ออกแถลงการณ์ ปลุกระดม ข่มขู่รัฐบาลและพุทธะอิสระ

 

ตอกย้ำซ้ำเติมด้วยศูนย์พิทักษ์พุทธศาสนา มายุบรวมกับแก๊ง ๓ เฮีย ดั่งคำที่ว่า รวมกันเราอยู่ แยกกันอาจตายหมู่ เพื่อต่อกรกับฉัน

 

ถึงขนาด ผอ.ศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งวัดราชาฯ ยอมยกตำแหน่งผู้นำให้แก่เฮียเมธี เพื่อจะผนึกขุมกำลังเข้าด้วยกัน

 

คงกลัวว่า ศึกนี้หากไม่รวมกัน อาจจะเพลี่ยงพล้ำ

 

ตามมาด้วยภิกษุ นักศึกษาวิทยาเขตในจังหวัดต่างๆ ออกมาประกาศขู่จะเคลื่อนไหว เพื่อกดดันรัฐบาลให้กำจัดพุทธะอิสระและนำชื่อสมเด็จช่วงขึ้นทูลเกล้า

 

อีกทั้งพวกเผ่าพันธุ์ธรรมกาย ยังช่วยกันโหมกระหน่ำคอยกระทืบซ้ำฉันอยู่เป็นระยะ ตลอด ๒ ปีที่ผ่าน

 

ไม่เว้นแม้แต่ประธาน นปช. อย่างนายจตุพร พรหมพันธุ์ ผู้เป็นประธานของกลุ่มเผาเมือง ก็ออกมาร่วมวงละเมอผายลมด่าฉันออกสื่อเสื้อแดงกันให้สนั่น เรียกว่ารุมกันแบบหน้าด้านๆ

 

นี่ยังไม่นับรวมสื่อกระแสหลัก กระแสรอง ของพวกธรรมกายสายทักษิณ ที่มีนับสิบค่าย ที่เลือกจะเสนอข้อมูลแต่ในด้านบวกให้กับกลุ่มของตนเอง ส่วนด้านลบโยนให้พุทธะอิสระ

 

ทำไมคนพวกนี้ เขาถึงได้พากันกลัวฉันมากขนาดนี้

หรือว่าพวกเขาจะกลัวความจริงที่ฉันพูดฉันทำ

 

ชีวิตที่ไม่มีต้นทุนอย่างฉัน ทำไมสลักสำคัญ ถึงขนาดให้เฮียๆ อาเสี่ย ผู้มั่งคั่งทั้งหลาย ต้องมานอนฝันผวาถึงฉันได้ ไม่เข้าใจจริง..ๆ

 

ส่วนเรื่องขบวนการ ๓ พ. ที่พวกนี้มโนขึ้นนั้น

 

สารภาพตรงๆ เลยว่า ชั่วชีวิตฉัน มีโอกาสพบคุณไพศาล พืชมงคล แค่ ๒ ครั้ง

 

และได้พูดคุยโทรศัพท์ กันแค่ ๑ ครั้ง เมื่อเขาโทรมาหา

 

เรื่องที่พูดคุยกัน ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องศาสนจักรเลย

 

สำหรับคุณไพบูลย์นั้น เป็นเพื่อนร่วมรบ ร่วมสู้กันมา ผู้มีอุดมการณ์เดียวกัน

 

แต่พวก ๓ เฮีย หลายอาเสี่ย ต่างมโนว่า ฉันรวมหัวกัน

 

อีกทั้งยังมโนกันไปว่า ขบวนการ ๓ พ. พยายามร่วมมือกัน สกัดกั้นไม่ให้มหานิกายเป็นสังฆราช

 

มโนกันถึงขนาดมันจะเอาตำแหน่งสังฆราช ไปให้พระเถระพวกของมัน

 

พุทธะอิสระ มันก็จะเป็นสังฆราชเสียเอง

 

ฟังดูแล้วคนพวกนี้ เขามีอะไรอยู่ในหัว รู้ไหมพี่น้อง

 

ทำไมเขาคิดได้แค่นี้

สรุปรวมๆว่า หากพวกอาเฮีย อาเสี่ย ทั้งหลาย อยากได้เก้าอี้สังฆราชกันนัก

 

เรื่องมันก็ไม่ยาก

แค่บอกให้สมเด็จช่วงอาเสี่ยใหญ่ของพวกคุณ ไปจัดการจับธัมมชโยสึก ตามพระวินิจฉัยของสมเด็จพระสังฆราช และกวาดล้างอลัชชีในสังฆมณฑลให้หมดสิ้นไป

 

ทำให้พระธรรมวินัยอยู่เหนือกฎหมาย

ทำให้พระธรรมคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้าศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่ยอมรับกันไปทั้งแผ่นดิน

 

ทุกวัด ทุกสำนัก ต้องปฏิบัติธรรมตามพระไตรปิฎก

หากรับปาก ทำได้ตามนี้

พุทธะอิสระ จะไม่ขัดขวางการนั่งเก้าอี้สังฆราชของสมเด็จอาเสี่ยพวกคุณเลย และยังจะไปถอนแจ้งความเรื่องคดีรถหรูในดีเอสไอให้อีก

 

เอาไหมล่ะ กล้าไหม ให้เวลาคิดกัน ๑๕ วัน

หาไม่ก็อย่ามาพูดอีกว่า ฉันไม่มีเมตตา

และขอบอกว่า ที่พวกอาเสี่ยออกมาลอยหน้าลอยตาพูดว่า สมเด็จอาเสี่ยของคุณมีเมตตาให้ถอนแจ้งความที่จะเล่นงานฉัน ฐานทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงนั้น

 

ฉันคิดว่าไม่ใช่มีเมตตาหรอก แต่กลัวว่าจะเร่งปิดคดีรถหรูให้จบเร็วขึ้น โดยที่ฉันไม่ต้องเสียเวลาฟ้องเอง

 

เพราะเมื่อสมเด็จพวกคุณฟ้องฉัน ฉันก็ต้องอ้างสาเหตุแห่งการพูดจาว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร ทีนี้แหล่ะ อะไรๆ มันคงง่ายขึ้น

 

อ้อ ไม่ใช่รถหรูอย่างเดียวนะ ยังมี มาตรา ๑๕๗, ๑๑๒ และความผิดจรรยาพระสังฆาธิการที่บัญญัติไว้ในข้อ ๕๔ และข้อ ๕๕ (๑) รวมถึงการเรี่ยราย

 

ข้อกฎหมายเหล่านี้ กำลังจะย้อนกลับมาเล่นงานต่อบรรดาพวกอาเสี่ยทั้งหลาย หากยังดื้อรั้น ดันทุรัง อุ้มขี้เอาไว้

 

เรื่องนี้ไม่เชื่อ ก็อย่าลบหลู่นะ ขอบอก

พุทธะอิสระ