ลูกรัก เจ้าจักสำคัญความนี้เป็นไฉน ? (ตอนที่ ๑๓)
๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๘
มหานรกขุมใหญ่สุดทั้ง ๘ ขุม เราท่านทั้งหลายได้ทำความรู้จักกันไปในเบื้องต้นแล้ว
ครานี้ลูกก็ลองมาทำความรู้จักนรกบริวารของมหาสัญชีวนรกบริวารขุมที่ ๕ นี้ชื่อว่า โลหกุมภีนรก
โลหกุมภีนรก หมายถึง นรกหม้อไฟหรือโบราณาจารย์ท่านเรียกว่า นรกหม้อทองแดง เหตุเพราะ นรกขุมนี้มีลักษณะเป็นหม้อดิน พื้นที่ภายในหม้อทองแดงใบนี้ มีพื้นที่กว้างขวางใหญ่โต
ภายในหม้อทองแดงก็เต็มไปด้วยน้ำทองแดงที่เดือดพลุ่งพล่านร้อนแรง แดงฉาน ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางทะเลทรายอันเร่าร้อน แต่หมู่สัตว์ผู้มาเกิดในนรกขุมนี้กลับมองเห็นเป็นหม้อน้ำและอาหารขนาดใหญ่
หมู่สัตว์นรกเหล่านั้นจึงวิ่งตรงกันเข้าไปใช้ถ้วยชามที่วางอยู่เกลื่อนกลาดรอบๆ หม้อนั้นตักน้ำและอาหารยกขึ้นดื่มกิน ตามที่ตาของตนมองเห็น
เรียกว่า หากสัตว์ตนให้หิวน้ำ สิ่งที่เห็นมีอยู่ในหม้อทองแดงใบนั้นก็จะปรากฎเป็นน้ำดังที่สัตว์ตนนั้นมองเห็น
และหากสัตว์ตนใดหิวอาหาร สิ่งที่สัตว์ตนนั้นมองเห็นก็จะปรากฎเป็นอาหารมีอยู่ในหม้อ
แต่ไม่ว่าจะเห็นเป็นน้ำหรือเห็นเป็นอาหาร เมื่อสัตว์เหล่านั้นดื่มกินเข้าไปในช่องปาก มันคือน้ำทองแดงที่เดือดพล่าน ร้อนแรง ลวกเผาผลาญช่องปากที่เป็นเนื้อเป็นหนัง เหลือแต่โครงกระดูกขาวโพลนไปทั่วร่างกาย
สัตว์เหล่านั้นต้องได้รับความทุกข์ยากทรมานทุกขณะที่น้ำทองแดงนั้นไหลผ่านเข้าไปในร่างกาย จนล้มตายลง แล้วก็กลับไปเกิดอยู่ท่ามกลางทะเลทรายอันเร่าร้อนเช่นเดิม ออกเดินโซซัดโซเซหาน้ำและอาหาร จนมาเจอหม้อน้ำอาหารตามที่ตนเองมองเห็นจึงวิ่งเข้าไปด้วยมุ่งหวังว่า ตนจักได้ดื่มน้ำกินอาหาร แต่บริเวณโดยรอบหม้อทองแดงก็หนาแน่นไปด้วยหมู่สัตว์นรกที่พยายามยื้อแย่งกัน เพื่อจักให้ตนได้เข้าไปใกล้หม้อทองแดงนั้น
แล้วยื้อแย่งถ้วยชามที่ตกทิ้งอยู่โดยรอบหม้อ พร้อมทั้งจ้วงตักน้ำและอาหารในหม้อทองแดงนั้น ตามที่ตาของตนมองเห็น
เมื่อแย่งกันตักน้ำและอาหารที่ตนมองเห็น ดื่มกินเข้าไป น้ำและอาหารที่แท้เป็นน้ำทองแดงก็เผาทำลายเนื้อหนังในทุกขณะที่น้ำทองแดงไหลผ่าน เหลือไว้แต่โครงกระดูก
สัตว์เหล่านั้นได้รับทุกขเวทนาอย่างแสนสาหัสจนร่างกายเหลือแต่กระดูกแล้วก็ล้มตายลง
เป็นอยู่เช่นนี้ซ้ำๆ กัน จนกว่าจะหมดสิ้นกรรมชั่วหยาบ
หากจะถามว่า แล้วหมู่สัตว์เหล่านี้ทำกรรมผิดชั่วบาปอันใดกระนั้นหรือ
วิสัชนาว่า ด้วยเพราะสัตว์เหล่านั้นขณะเกิดในภพชาติก่อนๆ ได้ทำกรรมชั่วผิดบาปด้วยการเบียดเบียน รุกไล่ ทุบตีแก่ท่านผู้มีทาน มีศีล มีธรรม และเหล่าสมณะ ชี พราหมณ์ผู้ทรงไตรสิกขา
ไม่ว่าการกระทำนั้นจะมีอันตรายถึงชีวิตหรือแค่ฟกช้ำ เลือดตกยางออก หรือกระทำกิริยาอาการและวาจา เหยียดหยามดูหมิ่น ไม่ว่าท่านผู้ทรงศีล ทรงธรรม ทรงทาน ทรงภูมิเหล่านั้นจักรู้สึกขุ่นเคือง ไม่พอใจหรือไม่ก็ตาม
สัตว์ผู้ทำกรรมผิดชั่วบาปเหล่านั้น ก็หนีไม่พ้นโทษทัณฑกรรมของโลหกุมภีนรกขุมนี้ ไม่ได้เด็ดขาด
คาถาที่สามารถป้องกันโลหกุมภีนรกคือ ความอ่อนน้อมถ่อมตน
คารวะทั้ง ๖ คือ
สัตถุคารวตา (ความเคารพในพระศาสดา/พระพุทธเจ้า)
ธัมมคารวตา (ความเคารพในพระธรรม)
สังฆคารวตา (ความเคารพในพระสงฆ์)
สิกขาคารวตา (ความเคารพในการศึกษา)
อัปปมาทคารวตา (ความเคารพในความไม่ประมาท)
ปฏิสันถารคารวตา (ความเคารพในปฏิสันถาร)
หิริ ความละอายชั่ว
โอตตัปปะ ความเกรงกลัวต่อบาป
ด้วยคุณธรรมดังกล่าวเหล่านี้ หากสามารถปฏิบัติได้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย จึงจะสามารถป้องกันโลหกุมภีนรกนี้ได้อย่างแท้จริง
เจริญธรรม
พุทธะอิสระ
——————————————–
อ่านย้อนหลัง : https://www.facebook.com/buddha.isara/posts/pfbid046YaxyRWLcK9nTe8GFZbAR9ztUUsq1mYRbtJxQsvbKzhzpeKWQrEywy1UqDAcsTpl
——————————————–
My dearest children, what do you think of this message? (Part 13)
Buddha Isara
——————————————–
Previous article : https://www.facebook.com/buddha.isara/posts/pfbid046YaxyRWLcK9nTe8GFZbAR9ztUUsq1mYRbtJxQsvbKzhzpeKWQrEywy1UqDAcsTpl





