บทความ
ได้เวลาเลิกเลี้ยงไข้ ใช้ยาแรงฆ่าเชื้อเสียที
๑๑ มกราคม ๒๕๕๙
เลี้ยงไข้มา ๒ ปี ก็เพื่อจะรอวันนี้
วันนี้คือวันที่ DSI ลงมติว่า สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ทรงใช้พระอำนาจวินิจฉัยลงโทษธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายต้องอาบัติปาราชิก ด้วยข้อหายักยอกทรัพย์และอวดอุตริมนุสธรรม ตั้งแต่ปี ๔๒ นั้น DSI สืบสวนสอบสวนแล้ว มีความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่า ทรงวินิจฉัยชอบด้วยหลักพระธรรมวินัยและกฎหมายปกครองคณะสงฆ์
DSI จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ส่งเรื่องให้สำนักนายก สำนักพุทธ และมหาเถรสมาคม เร่งดำเนินการให้เป็นไปตามพระบัญชา พระวินิจฉัย
ฉันรอความเห็นวันนี้มา ๒ ปี หลังจากผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภามีมติยืนยันว่าพระบัญชาที่ทรงมีพระวินิจฉัยของเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราชเป็นของจริง และชอบด้วยหลักธรรมวินัย กฎหมายคณะสงฆ์ ก็เพียรพยายามไปยื่นเรื่องร้องเรียนต่อหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้สืบสวนสอบสวนแสวงหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏชัด
มาถึงวันนี้ เมื่อความเป็นจริงปรากฏ มีหน่วยงานสืบสวนสอบสวนออกมายืนยันชัดเจน แค่สองหน่วยงานนี้ ฉันก็สามารถอ้างต่อศาลให้มาเป็นพยานในศาลอาญาได้แล้ว ต่อไปก็เป็นการวางยาฆ่าเชื้อโรค คือนำเรื่องละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือทุจริต มาตรา ๑๕๗ ฟ้องต่อศาล ตามมาด้วยหมิ่นเบื้องสูง ๑๑๒ เท็จทูลนำบุคคลที่มิใช่ภิกษุ ทูลเกล้าขอพระราชทานสมณศักดิ์ ตามมาติดๆ ด้วยโทษฐานละเมิดจริยาพระสังฆาธิการ ข้อ ๕๔
พระสังฆาธิการรูปใดประพฤติละเมิดจริยา ต้องได้รับโทษฐานละเมิดจริยาอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้
(๑) ถอดถอนจากตำแหน่งหน้าที่
(๒) ปลดจากตำแหน่งหน้าที่
(๓) ตำหนิโทษ
(๔) ภาคทัณฑ์
ยาแรงแค่นี้น่าจะฆ่าเชื้อโรคร้ายที่กัดกินพระธรรมวินัยได้ หากยังไม่ตาย เดี๋ยวอาจจะตามมาด้วยคดีแพ่งที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อพระธรรมวินัย สังคม เศรษฐกิจ โดยเฉพาะพี่น้องชาวสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนรอคิวอยู่
งานนี้หากจะแรงไปบ้างก็อย่าโทษกัน เพราะสองปีที่ผ่านมา ทั้งเตือน ทั้งบอก ทั้งส่งสัญญาณ พูดถึงขนาดว่ามหาเถรจะเลือกอุ้มธัมมชโยหรือจะเลือกทางรอดให้แก่ตัวเองทั้งฝูง
แต่สิ่งที่ได้รับคำตอบก็คือ หากมีปัญญา ทำอะไรได้ก็เชิญ วันนี้จึงถึงเวลาแล้วที่พุทธะอิสระ พญาราชสีห์แห่งเวทีแจ้งวัฒนะ ต้องใช้ยาแรงฆ่าเชื้อเสียที เพราะฝีหนองสุกงอม พร้อมที่จะถูกทิ่มแทงให้หนองเน่าๆ ไหลออกมาได้แล้ว คงไม่ว่ากันนะจ๊ะ
พุทธะอิสระ