บทความ
ศพดิ้น
๑๐ มกราคม ๒๕๕๙
พอฉันเขียนแจกแจงเรื่อง DSI มีมติเป็นเอกฉันท์ รับรองพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราชที่มีพระวินิจฉัยให้ธัมมชัยโยต้องอาบัติปาราชิกตั้งแต่ปี ๔๒ ว่า เมื่อ DSI ทำการสืบสวนสอบสวนทั้งเอกสารพยานบุคคล พยานวัตถุอย่างละเอียดแล้วจึงมีความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่า ธัมมชโยต้องอาบัติปาราชิกจริงตามที่สมเด็จพระสังฆราชทรงมีพระวินิจฉัย มีมูลถูกต้องตามหลักธรรมวินัยด้วย และทรงใช้อำนาจตาม พรบ.สงฆ์ ปี พ.ศ. ๒๕๐๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕
มาตรา ๘ สมเด็จพระสังฆราชทรงดำรงตำแหน่งสกลมหาสังฆปริณายก ทรงบัญชาการคณะสงฆ์ และทรงตราพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราชโดยไม่ขัดหรือแย้งกับกฎหมาย พระธรรมวินัย และกฎมหาเถรสมาคม จึงได้ส่งเรื่องให้สำนักนายกรัฐมนตรีในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และกรรมการมหาเถรสมาคม ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบปกครองบริหารและเป็นองค์กรตุลาการสูงสุดตามพระธรรมวินัย ที่จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายปกครองคณะสงฆ์ และพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช ซึ่ง DSI จะส่งหนังสือแจ้งเตือนไป ๓ ครั้ง หากยังไม่ดำเนินการใดๆ ถือว่า เป็นผู้ละเมิดกฎหมายอาญามาตรา ๑๕๗ จะต้องมีความผิด ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ พอฉันเขียนบอกกล่าวข่าวสารออกไป พวกปกป้องศพเน่าทั้งหลาย ก็พากันออกมาแก้เกี้ยวกล่าวอ้างเหตุผลสารพัดว่า
———————————–
เริ่มจะหมดที่ยืนในแผ่นดินนี้ขึ้นทุกวันแล้ว : พุทธอิสระเอ้ย
กลับตัวกลับใจเถ๊อะเพื่อนเอ้ย…..
วันนี้ 7 มกรา 59 ช่วงตอนเช้า
พุทธอิสระ แห่งสำนักอ้อน้อย
เพิ่งโฟสต์ว่า DSI เชิญไปพบ
หะแรกไอ้เราก็นึกว่า
“DSI ไปยืนข้างคนแบบนี้ได้ไง”
แถมออกแนวขี้โอ่ตามสไตร์ว่า
“ฉันไม่ว่างเลยให้ทนายกับมหาหยกพระที่วัดไปแทน
ทนายแจ้งสรูปมาให้ทราบว่า….
“DSI ส่งเรื่องให้สึกเจ้าสำนักธรรมกายต่อ มส.เรียบร้อยแล้ว”
……
เราอ่านผิวเผินก็นึกในใจว่า
“มั่วแล้วมัยละ DSI มันจะยิ่งทำสังคมสับสนเพิ่มอีกแล้ว”
เพราะมันมีกฏแมวข้อไหนในโลกพระจันทร์ไหน ที่..
“ฆารวาส อนุปสัมบัน ดันมาสั่งพระให้สึกพระ”
…..
สรูปแล้วที่ไหนได้ครับ
พอตกบ่าย เวลาทิ้งห่างกันแค่ครึ่งวันเท่านั้น
ความจริงปรากฏกลับตรงข้าม
ชนิดหน้ามือเป็นหลังเต่า…
“กลายเป็นว่า เขาเรียกให้ไปรับคำร้องที่ยื่นไว้ เอาคืนไป”
ท่านทั้งหลายอ่านรายละเอียดที่แนบมานี้ จาก คมชัดลึก
เอาแล้วกันครับ
….
https://www.facebook.com/komchadluek/posts/10153925363699668
……
ฮามัยงานนี้
“เงิบกิน…สบงหลุดล่อนจ้อน
กลางคลาดสดเลยเพื่อนเอ้ย”
สั่งสมุนถอยไปเสียเถอะเพื่อนเอ้ย
งานนี้มันเกินกำลังเพื่อนมากนัก
ก่อนที่มันจะอาการหนัก จะสายไปกว่านี้
เพราะเรื่องการสถาปนาสังฆราชรูปใหม่นั่น สูงสุดสุดท้ายแล้ว
“มันเป็นเรื่องพระราชวินิจฉัย
เป็นพระราชอำนาจโดยตรง
ของพระมหากษัตริย์พระองค์ท่าน”
มันเป็นเรื่องใหญ่พอๆ กับการ
“คิดเอาฝามือปิดดวงอาทิตย์นะแหละ”
เกินที่ใครบรรดามีในแผ่นดินนี้
จะไปชี้ได้
มีแต่คนบ้ามุทะลุแบบเครือข่ายบ้า ๆ บอ ๆ ของท่านเท่านั้นแหละ ที่คิดทำกัน
….
นี่เตือนด้วยความหวังดีนะ
เพราะดูแล้วยิ่งเดินต่อไป
ทำไปทำมาจะเข้าทำนองสำนวนจีนที่ พระสนมกุ๊ยเฟย กล่าวไว้ว่า
“แผ่นดินกว้างใหญ่
แต่ไร้ที่ยืนพักสำหรับข้า”
จุดจบในหนทางข้างหน้า
แทบไม่อยากเดาแทนเลยจริง ๆ
….
สุดท้าย..,
คนเรานะครับ
หากสิ้นชีวิตในขณะที่วิญญาณออกจากร่างนั่น มีสำคัญมาก
ถ้าขณะนั้น จิตใจมืดบอด หลงโลก เป็นมิจฉาทิฎฐิ ใจฟุ้งซ่านสับสนวุ่นวาย
โบราณจึงมีอุบายให้ลูกหลานคอยบอกผู้กำลังจะสิ้นใจว่า
“พุทโธ ๆ ไว้”
ถ้านำตัวไปอยู่กลางม๊อบแบบนี้ตลอด น่าจะ
“ม๊อบ ๆ พี่น้อง ๆ”
แทน “พุทโธ ๆ” ละมัง
“หลง – ปู๋” (ย้ำเขียนถูกแล้ว)
ปลายทางคงไม่ต้องบอกนะครับ.
เจ้าคุณเบอร์ลิน พระโสภณพุทธิวิเทศ
07.01.2016
———————————–
อ่านแล้วคิดเห็นกันอย่างไรบ้าง
อ่านเฉยๆ คงจะไม่สะใจ ลองมาดูหน้าตาตัวตนและประวัติของท่านเจ้าคุณจีวรแดงคนนี้กันซักหน่อยดีไหม เจ้าคุณโสภณพุทธิวิเทศ (จิตติก์ ญาณชโย) นักธรรมเอกเปรียญธรรม ๓ ประโยค เดิมเป็นพระลูกวัดอยู่ที่วัดสระเกศ ต่อมาได้ถูกส่งไปเป็นพระธรรมทูตอยู่ที่เยอรมัน และได้เป็นเจ้าอาวาสวัดไทยในนครเบอร์ลิน
แต่มีพฤติกรรมนิยมชมชอบ นายทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทยเป็นการส่วนตัวอย่างที่เห็นในภาพ ด้วยเพราะตนได้เป็นเจ้าคุณมาได้ ในสมัยนายกปูแห่งตระกูลชินวัตร เมื่อรู้ถึงเบื้องหน้า เบื้องหลัง ตื้นลึกหนาบางพร้อมรูปถ่ายของเจ้าคุณถ้วยคนนี้แล้ว ต่อให้ฉันพยายามอธิบายให้ตาย คนพวกนี้ คงไม่รับฟัง จึงไม่อยากไปเสียเวลาสีซอ
แต่อยากเตือนว่า คนไทยที่นครเบอร์ลิน เขากำลังรวบรวมหลักฐานความผิดที่นายคนนี้ได้กระทำไว้ รอให้ส่งมาก่อน แล้วเดี๋ยวพุทธะอิสระจะจัดให้ จะได้ไม่มาตายให้รกแผ่นดินไทย ถึงยังไงก็ต้องขอชื่นชมในความกล้าที่เปิดเผยตัวตน ของเจ้าคุณถ้วยออกมาให้ชาวบ้านเขาได้เห็นหน้าเห็นเขา ไม่เหมือนพวกเฮียๆ เพื่อนๆ ของคุณ ที่มักจะทำตัวเป็นอีแอบ คอยหลบๆ แอบๆ ทำตัวแสบชอบแอบด่าชาวบ้านเขาไปวันๆ กลับไม่กล้าแสดงตัวตนที่แท้จริง แล้วยังมีหน้ามาวิพากษ์วิจารณ์คนอื่น
เช่นนี้จักทำให้ชาวบ้านเขาเชื่อถือคำวิจารณ์ได้อย่างไร สิ่งที่วิจารณ์ออกมามันไม่ต่างอะไรกับลมตด มีแต่ทำให้เหม็น หาสาระประโยชน์ไม่ได้ หากแน่จริงก็อย่าทำตัวเป็นหน้าตัวเมีย แสดงตัวตนออกมาเลยกล้าไหมล่ะ
อ้อ แล้วศพเฮียเหนาะที่วัดสระเกศทำไมไม่ออกมาปกป้องบ้างล่ะเฮีย
พุทธะอิสระ