ถามมา ตอบไป
๒ ธันวาคม ๒๕๖๗
มีผู้ถามมาว่า ผมสงสัยบทโศลกที่พุทธะอิสระเขียนว่า
ลูกรัก เจ้าจักสำคัญความนี้เป็นไฉน
โลกใบนี้มันเป็นของเล่นสำหรับคนฉลาด
มีแต่คนโง่เท่านั้นที่จักถูกโลกเล่น
ช่วยอธิบายให้กระจ่างหน่อย
ตอบท่านผู้ถามว่า :
คำว่า โลก หมายถึง หมู่สัตว์ที่มีชีวิตทั้งปวง รวมถึงสิ่งที่ไม่มีชีวิตทั้งปวง
คำว่า คนฉลาด หมายถึง ผู้มีสติปัญญาเห็นชัดในความจริงอันประเสริฐ เช่น เห็นอริยสัจทั้ง ๔ คือ
เห็นทุกข์
เห็นเหตุเกิดทุกข์
เห็นความดับทุกข์
เห็นข้อปฏิบัติที่ทำให้ทุกข์นั้นดับ
เห็นการทำงานของกรรมว่าสิ่งที่มีชีวิตทั้งปวง และทั้งที่มีสังขารและไม่มีสังขาร ล้วนตกอยู่ในอำนาจแห่งกรรมที่ตนกระทำ
และเห็นชัดในสามัญลักษณะ ๓ อย่าง อันได้แก่
ไม่เที่ยง
เป็นทุกข์
ไม่มีอยู่จริง
คำว่า ของเล่น หมายถึง การปรุงแต่งด้วยเหตุปัจจัยให้เป็นสมมุติและให้ทำหน้าที่ แล้วเรียกสมมุตินั้นว่าเป็นสัตว์ เป็นบุคคล เป็นตัว เป็นตน เป็นเรา เป็นเขา และเป็นสิ่งของต่างๆ
ซึ่งแท้จริงแล้วผู้มีสติปัญญาท่านจะเห็นเพียงของเล่นชนิดหนึ่งเท่านั้น ดังพระพุทธภาษิตที่ทรงตรัสว่า
เอถะ ปัสสะถิมัง โลกัง จิตตัง ราชะระถูปะมัง
อันธะพาลา วิสีทันติ นัตถิ สังโค วิชานะตัง,
สูทั้งหลาย จงมาดูโลกนี้ อันตระการตาดุจราชรถ
ที่พวกคนเขลาพากันหมกอยู่ แต่ผู้รู้หาข้องอยู่ไม่
คำว่า คนโง่ หมายถึง ผู้ที่มีสติปัญญาอันอ่อนด้อยหรือไม่มีสติปัญญา ที่จักพิจารณาใคร่ครวญ แยกแยะให้รู้ชัดในความจริงอันประเสริฐ เมื่อไม่รู้ชัดในความจริง ตัณหาความทะยานยาก อุปาทาน ความยึดถือก็บังเกิด นี่คือลักษณะของคนโง่ที่พร้อมจะตกเป็นทาส
คำว่า โลกเล่น หมายถึง การเข้าไปยึดถือในสัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา และสิ่งของนั้นๆ ว่าเที่ยง ไม่เป็นทุกข์ รวมทั้งต้องการให้มันมีอยู่จริง ทั้งที่เป็นเพียงภาพมายา
บัณฑิตผู้ฉลาดจึงไม่ยึดติดในอะไร อะไรอีก อยู่ในโลกอย่างเป็นผู้รู้จักสมมุติ ใช้สมมุติ ได้ประโยชน์จากสมมุติ ให้ประโยชน์แก่สมมุติ ท้ายที่สุด ก็ไม่ยึดติดในสิ่งที่เป็นสมมุติ
เจริญธรรม
พุทธะอิสระ
——————————————–