ถามมา ตอบไป
๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๗
เรียนถามท่านปู่ว่า ทำไมปัจจุบันนี้จึงมีบรรดาผู้ที่อวดอ้างตนเองว่าเป็นผู้รู้ในพระพุทธธรรมคำสอนออกมาแสดงทัศนคติ ทัศนวิสัยเกี่ยวกับพระธรรมวินัยกันหลากหลาย มากมายบนแพลตฟอร์มไอที ทั้งที่บางคนดูแล้วน่าจะยังละอ่อน ไม่เคยบวช ไม่เคยปฏิบัติธรรม เรียกว่า ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ ไม่ครบ แต่ก็ยังออกมาแสดงความเห็น ซึ่งก็ไม่รู้ว่าถูกหรือผิด ปู่ท่านมีความเห็นเช่นไร
ตอบ :
หากจะมองในมุมของการตลาด ฉันว่ามันก็ดีนะ เพราะอย่างน้อยมันก็เป็นการกระตุ้นให้ผู้คนในสังคมเขาได้หันมาสนใจในหลักพระธรรม ในคำสอน
ธรรมดาดีย่อมอยู่คู่กับความไม่ดี
ที่ว่าไม่ดีก็เพราะหากผู้ที่ออกมาแสดงทัศนคติรู้จริง แจ่มชัดในพระธรรมวินัย ถือว่า นั่นเป็นการช่วยคุณพระท่านเผยแพร่พระพุทธศาสนา
แต่หากผู้ที่ออกมาแสดงทัศนคติรู้ไม่จริง ไม่แจ่มชัดในพระธรรมวินัย แต่ก็ยังอวดรู้แสดงทัศนคติออกไปแล้ว มีผู้หลงเชื่อตามนั้น นั่นก็เท่ากับเป็นการจาบจ้วง ล่วงเกิน ทำให้ผู้ที่หลงเชื่อ เข้าใจผิด พูดผิด คิดผิด แล้วก็จะนำมาปฏิบัติผิดๆ ซึ่งก็จะกลายเป็นพระสัทธรรมปฏิรูป นี่ถือว่า เป็นความหายนะของพุทธบริษัท
สรุปความว่า จะพูดอะไร จะสอนอะไร จะโพสต์อะไร หากเกิดมาจากความรู้จริงอย่างแจ่มชัด ถูกตรงต่อพระธรรมวินัย นั่นถือว่า เป็นบุญใหญ่ ดังที่พระพุทธองค์ทรงตรัสสอนไว้ว่า
สัพพะทานัง ธัมมะทานัง ชินาติ
การให้ธรรมะเป็นทานชนะการให้ทั้งปวง
แต่หากผู้พูด ผู้สอน ผู้โพสต์ ไม่รู้จริง ไม่แจ่มชัด แล้วยังอวดว่าตนเองรู้ดี พูด สอน โพสต์แล้วทำให้ผู้อื่นหลงเชื่อ เช่นนี้ก็ถือว่า เป็นผู้ทำลายประโยชน์ของตนและคนที่หลงเชื่อ
เวรกรรมเช่นนั้นจะส่งผลอันเลวร้ายให้แก่ชีวิตเขาทั้งชาตินี้และชาติต่อๆ ไป หวังว่าคุณจะพอเข้าใจในคำที่ฉันเขียนตอบมานะจ๊ะ
พุทธะอิสระ
——————————————–